เคยคิดสงสัยกันไหมว่าทำไมร้านบางร้านที่พูดจาโฉงฉาง เสียงดัง ปากร้าย บางทีหน้าตาก็ดูหยิ่งๆ ไม่ค่อยรับแขก แต่ทำไมลูกค้าถึงยังอุดหนุนอยู่ แถมบางที่ยังแย่งกันต่อคิวยาวเป็นหางว่าว หรือแสดงว่าจริงๆ แล้วบุคลิกภายนอกอาจไม่ได้ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้าทั้งหมด อะไร คือ เหตุผลที่ทำให้ยังซื้ออยู่ แล้วแค่ไหนที่ลูกค้าถึงจะไม่โอเคกันล่ะ วันนี้เราลองรวบรวมความคิดเห็นบนโซเชียลของลูกค้าที่มีต่อร้านค้าที่ว่ามาฝากกัน
ดูที่ตัวสินค้าเป็นหลัก
- ไปซื้อสินค้าค่ะ สนใจที่ตัวสินค้า ไม่ได้สนใจหน้าตาแม่ค้า จะยิ้มไม่ยิ้มไม่ใช่ประเด็นถ้าของเขาดีจริง เราจะกลับไปซื้อซ้ำ แต่ถ้าแม่ค้ามาด่า หรือปากหมาใส่เราเมื่อไหร่ ก็ไม่ซื้อ
- ซื้อครับ เพราะต้องการสินค้า ไม่ได้ต้องการบริการเสริม
- ผมซื้อสินค้า ดูที่ตัวสินค้า ถ้าเจอร้านแม่ค้าดุๆ หน่อย อย่างมากก็จ้างคนอื่นไปซื้อให้
ปากร้ายไม่ว่า แต่อย่าวีนใส่ลูกค้า
- หน้าไม่รับแขก = เฉยๆ เขาอาจเหนื่อย ปากไม่ดี = ไม่ซื้อครับ
- ปากร้าย ด่ากันเองไม่เป็นไร แต่ถ้าด่าลูกค้า = เลิกกิน
- มีข้าวหมูแดงที่ทำงานเก่า อร่อยเลยล่ะ แต่โฉงเฉงมาก ไม่ด่าลูกค้านะ ด่ากันเอง กินไปปวดหัวไป เลยเปลี่ยนจากกินที่ร้าน เป็นซื้อใส่กล่องแทน แต่ถ้าเมื่อไหร่ด่าลูกค้าด้วย ก็คงเลิกกินอ่ะครับ
อย่าลัดคิวเป็นพอ
- ขอ 2 อย่าง
1.ไม่ทำลัดคิว
2.ไม่รอคิวนานเกิน
แค่ 2 อย่างก็พอใจแล้วครับ เพราะก็ไม่ชอบเสวนากับแม่ค้า และไม่ได้คาดหวังว่าแม่ค้าพ่อค้าต้องปั้นหน้ารับแขกด้วย
ยอมเพราะอร่อย ถูก และดี
- ถ้าปากจัด ปากเสียอย่างเดียว คงไม่เข้าไปหรอก แต่ถ้าราคาถูก รสชาติดี ปากเสียกว่านี้ก็กิน มันอยู่ที่เกณฑ์ของลูกค้าแต่ละคน ร้านสะอาด ตกแต่งดี มารยาทงาม กราบลูกค้าแบบเบญจางคประดิษฐ์ หมอบคลานเข้ามารับออร์เดอร์ แต่ถ้าขายแพง ก็ไม่รู้จะเข้าไปทำไม เพราะไม่ใช่สิ่งพิจารณาหลักของผม
- มีอยู่ร้านหนึ่งตามสั่งแถวบ้าน อร่อยมาก แต่เวลาไปซื้อต้องเตรียมตัวให้ดี คิดเมนูไปจากบ้าน ถ้ามั่วยึกยัก ชักช้าหน้าร้าน มีหวังโดนดุ แต่ก็ยอมเพราะอร่อย และถูก
หน้าตาไม่รับแขก ไม่เป็นไร ขออย่านิสัยไม่ดี
- หน้าไม่รับแขก เฉยๆ ซื้อต่อไป
หน้าไม่รับแขก แต่ว่ามาลงที่เราด้วย อย่าได้หวังมีครั้งที่สอง หรือไม่ก็ครั้งนั้นแหละ เดินออกเลย
- หน้าไม่รับแขก อาจจะเหนื่อยค่ะ ยังซื้ออยู่ และพยายามผูกมิตรด้วย แต่ถ้าพูดจาไม่ดีกับเราโดยตรง เลิกซื้อจ้า หาร้านอื่นที่ราคาและคุณภาพใกล้เคียงกันค่ะ
- เจอแม่ค้าหน้านิ่ง พูดจาห้วน เราชวนคุย ก็ยิ้มคุยกันสนุก
พอคุยเสร็จเขาหน้านิ่งต่อเราก็ไม่ถือ เราถือว่าแค่ไปกิน ไม่ได้จะไปอยู่กับเขาเลย ถ้าอร่อยเราก็ซื้อ
รู้ไหมหลายคนที่ดูหน้าตาหยิ่งๆ หน้าไม่รับแขก ความจริงแล้วอาจมาสาเหตุของโรคๆ หนึ่งที่มีชื่อว่า “โรคหน้านิ่ง หน้าหยิ่ง” (Resting Bitch Face Syndrome) โดยนักจิตวิทยาหลายคนลงความเห็นว่าโรคนี้เกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อบนใบหน้า ไม่ใช่จากภาวะทางอารมณ์ เช่น มุมปากตก พบได้ในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ซึ่งมีการทดสอบแล้วว่าผู้ป่วยที่เป็นโรคหน้านิ่ง แท้จริงพวกเขาอยู่ในอารมณ์ปกติกว่า 97 เปอร์เซ็นต์ มีเพียงแค่ 3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่อาจมีอารมณ์เศร้า โกรธ หรือไม่พอใจอยู่
พูดตรง พูดห้วน แต่ใส่ใจคุณภาพสินค้า ให้อภัยได้
- คำว่าปากจัดของแต่ละคนไม่เหมือนกันนะ บางร้านเสียงดังพูดไม่มีหางเสียง แต่ก็ไม่ได้ด่าลูกค้า บางร้านพูดเพราะ แต่เหน็บแนมเก่งก็มี ร้านที่ขายดีๆ จุดเริ่มต้นไม่น่าจะมาจากความปากจัด แต่น่าจะขายดีมากๆ แล้วเจอลูกค้าเยอะๆ ก็เริ่มหงุดหงิดมากกว่า ร้านที่เราไปกินบ่อยๆ จะให้เยอะ ราคาไม่แพง คนกินเยอะ ทุกอย่างตามคิว เจอลูกค้าเรื่องมากจะเสียงดังเลย ทำไม่เป็น ทำตามคิว ทำตามเมนู คนไม่ชินก็ว่าปากจัด เราชินๆ เราก็ว่าเค้าพูดตรงๆ นะ
สรุป
จากที่จับใจความได้จึงพอสรุปได้ว่า
ปากร้าย หน้าไม่รับแขก หยิ่ง แต่สินค้ามีคุณภาพ อร่อย สมราคา ซื่อสัตย์ ไม่ลัดคิว = ซื้อ
วีนใส่ลูกค้า แซงคิวให้คนอื่น = ไม่ซื้อ
วิธีแก้ปัญหาของลูกค้าบางคนที่ยังอยากอุดหนุนอยู่ ก็คือ
- โฟกัสที่สินค้าเป็นหลัก
- ทำความเข้าใจ ชวนคุย เพื่อผูกมิตร
- ซื้อใส่กล่องกลับมากินที่บ้าน
- จ้างคนไปซื้อแทน เช่น ใช้บริการเดลิเวอรี
ตัวอย่างร้านปากร้าย แต่ใจดีที่ถูกพูดถึงกันมากบนโซเชียล
ส้มตำแม่ค้าปากจัด
พิกัด : ตัวเมืองระยอง
"อร่อยทุกอย่าง ไม่สืบ ร้านนี้ไม่ใช่น้ำยำแบบเดียวราดทุกอย่าง ยำก็คือยำ แต่ละอย่างมีรสชาติเป็นของร้านเขาเอง แนะนำให้ไปก่อน เที่ยง แม่ค้าปากจัด แต่พูดจาดีน่ารัก" (Thicha Wansawat : Local Guide)
ป้าอู๊ดเย็นตาโฟ บางพระ
พิกัด : ตลาดบางพระ ชลบุรี
"ได้ยินกิตติศัพท์ความแซ่บบวกดุของป้าอู๊ดมานานแล้วค่ะ ได้โอกาสผ่านบางพระเลยแวะลอง พูดเรื่องเย็นตาโฟเราเลือกเผ็ดกลางก่อนค่ะ ป้าทำมาจานใหญ่มาก แต่ออกหวานจัดสำหรับลิ้นเราค่ะ รสชาติเลยขอให้ 3/5 นะคะ ต่อมาป้าอู๊ด ให้ 4/5 ค่ะ 555 สังเกตุว่าป้าชอบคนพูดให้ตรงจุดเข้าประเด็น และต้องเข้าประเด็นตามระบบของป้าเท่านั้นนะคะ ห้ามเยิ่นเย้อ ไม่งั้นถือเป็นการเปิดช่องให้แก่จิกตามใจปากแกเลยทีเดียว" (Irin Bunkanwisit : wongnai)
ต้มเลือดหมูปากจัด
พิกัด : ระยอง
"ชอบเสียงแม่ค้ามากกก 555 คือ ดุ ลูกน้องแต่กับลูกค้าพูดจาน่ารักนะคะบอกเลย เสียงตามลูกน้องเติมของตลอด รสชาติกลางๆ นะคะ เด็ดตรงน้ำจิ้ม ออกหวานๆ หน่อย อร่อยค่ะ ซุปร้อนๆ ข้าวสวย อิ่มเลยจ๊ะ เพิ่งรู้มีเต้าหู้ไข่ด้วย ไม่ได้สั่ง แต่ได้ยินโต๊ะอื่นสั่ง" (mooying : wongnai)
เต๋อตำยำระเบิด
พิกัด : ตลาดทรัพย์ทองคำ เชียงใหม่
"แค่เดินผ่านไปชำเลืองก็เสียวหลังแล้ว เดินเข้าแล้วอาจไม่กล้าเดินออก พ่อค้าปากจัดจ้าน การบริการทุกอย่าง ช่วยเหลือตัวเองค่า ส่งรายการอาหารที่สั่งแล้วอย่าลืมจำเลขตัวเองให้ดี เรียกเลขโต๊ะออกไมค์ปุ๊บ ต้องรีบเดินไปเอานะคะ ไม่งั้นมีเหวี่ยงออกไมค์ ร้านนี้มีตำนาน ชื่ออาหารก็จะแปลกๆ" (ลูกคลื่นน้อย : wongnai)
ข้าวเปียกปากหมา
พิกัด : ตัวเมืองจังหวัดเลย
"ร้านนี้เป็นร้านข้าวเปียกเก่าแก่ เจ้าของร้านเป็นคนพูดตรง ทำอาหารอร่อย ตอนนี้เสียชีวิตแล้ว รุ่นลูกประกอบกิจการต่อ รสชาติยังอร่อยเป็นที่นิยมของคนทั่วไป เรามาพักค้างคืนเช้าเลยให้ลูกน้องพามาหากินของอร่อย สั่งชามเดียวทานร้อนๆ " (พร้อมพูล ชอบเพื่อน : wongnai)
สรุปสุดท้ายจากที่ได้ลองสำรวจความคิดเห็นที่มีอยู่บนโลกโซเชียล ถึงแม้ดูแล้วลูกค้าหลายคนจะเข้าใจก็ตาม แต่ทางที่ดีหากสามารถปรับบุคลิกได้ ลด Level ความดุดันลงมาหน่อย ตรงๆ แต่สุภาพ ก็น่าจะช่วยเพิ่มยอดขายได้อีกเยอะเลย บางคนก็พอเข้าใจได้ว่าเป็นไปเองโดยธรรมชาติ เป็นคนบุคลิกส่วนตัวจริงๆ แต่บางคนที่คิดอยากนำมาใช้เป็นกลยุทธ์ อาจต้องดูจังหวะ ความเหมาะสมให้ดีๆ ด้วยนะ เอาแต่พอดีเป็นสีสัน เพราะบางทีจากกลยุทธ์สร้างความแตกต่าง ก็อาจกลายเป็นไล่ลูกค้าได้ รักนะถึงบอก อย่าดุเค้านะตัวเอง ^ ^
(ที่มา : pantip, wongnai, youtube)
TEXT : กองบรรณาธิการ
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี