แมวดอย แกลลอรี่ ร้านที่เคยทำสถิติของหมดไวแค่ 6 นาที จากการใช้รูปแมวเป็นจุดขาย

 

 

     การทำงานศิลปะให้เป็นอาชีพได้ หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องยาก เพราะศิลปะเป็นเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก มิหนำซ้ำหากต้องผลิตออกมาเป็นชิ้นงานขายอาจต้องใช้เวลานานอีกด้วย แต่นั่นอาจไม่ใช่กับ แมวดอย แกลลอรี่ ร้านขายของที่ระลึกหนึ่งเดียวในหมู่บ้านแม่กำปองที่ขายทุกอย่างเป็นรูปแมวเกือบทั้งหมด ตั้งแต่รูปวาด เสื้อยืด กระเป๋าผ้า เครื่องประดับ พวงกุญแจ ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ โดยทุกชิ้นในร้านล้วนเป็นสินค้าทำมือเกือบทั้งหมด อะไรทำให้พวกเขาสามารถทำได้ แถมมีแฟนคลับคอยติดตามอย่างเหนียวแน่น ชนิดที่ว่าเคยโพสต์ลงขายหน้าเพจแค่ 6 นาที! ก็ถูกจองเต็มมาแล้ว ลองไปติดตามพร้อมกันเลย

สร้างคาแรกเตอร์จากสิ่งที่ชอบ

     ก่อนที่จะเล่ากลยุทธ์ธุรกิจให้ฟัง ขอแนะนำสมาชิกแมวดอยให้รู้จักก่อนว่ามีใครบ้าง ซึ่งแมวดอยเป็นธุรกิจของครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวหนึ่ง ประกอบด้วยสมาชิก 3 คน ได้แก่ กมลรัตน์ แซ่เฮง แม่ออย, วรกร โพธินาม – พ่อเบส และด.ญ. ธารธาร โพธินาม หรือ ธารา ลูกสาววัย 7 ขวบ

      โดยแม่ออยเล่าให้ฟังว่าจุดเริ่มต้นของธุรกิจนั้นเกิดขึ้นมาจากที่เธอและสามีอยากกลับมาตั้งรกรากอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของสามี โดยก่อนหน้านั้นเคยเพนต์เสื้อขายอยู่ที่อัมพวา จังหวัดสมุทรสงครามมาก่อน ในครั้งแรกที่ตัดสินใจมาเปิดร้านอยู่ที่แม่กำปอง ทั้งคู่ตั้งใจอยากทำงานแฮนด์เมดและงานศิลปะขายเหมือนเช่นเดิม จึงเปิดเป็นร้านขายของที่ระลึกเล็กๆ ขึ้นมา แต่ด้วยการอยากสร้างจุดเด่นให้กับร้านจึงพยายามคิดหาคอนเซปต์ โดยเริ่มหาจากสิ่งที่ชอบก่อน ซึ่งก็ค้นพบว่าทั้งเธอและสามีเป็นคนชอบเลี้ยงแมว จึงได้นำแมวมาเป็นคอนเซปต์ในการทำสินค้าขายในร้าน พร้อมกับตั้งชื่อร้านว่า แมวดอย แกลลอรี่ เนื่องจากตั้งอยู่บนดอย บนภาคเหนือ โดยเปิดดำเนินการได้ 7 ปีมาแล้ว

     “ตอนนั้นช่วยกันคิดว่าจะทำร้านออกมาคอนเซปต์ไหนดีถึงจะไม่ซ้ำกับคนอื่น เราไม่อยากทำแค่รูปตู้ไปรษณีย์ จักรยาน หรือเขียนเป็นชื่อแม่กำปองตัวใหญ่ๆ แล้วทำขายแค่นั้น แต่อยากให้งานมีอัตลักษณ์มากกว่านั้น ไม่อยากทำเหมือนกันแล้วไปแข่งขันตัดราคาในที่สุด เลยลองนึกถึงสิ่งที่เราชอบ เพื่อเราจะได้ทำได้นานๆ ไม่เบื่อ และมีความสุขด้วย โดยค้นพบว่าเราทั้งคู่เป็นคนชอบเลี้ยงแมว ก็เลยลองเอาแมวมาครอบเป็นคอนเซปต์ร้าน แรกๆ เบสก็ลุ้นว่าจะขายได้ไหม หรือลูกค้าจะซื้อหรือเปล่า แต่พอเปิดมาปรากฏว่าผิดคาด ลูกค้าซื้อไปเยอะมาก ทำให้เรายิ่งมั่นใจในสิ่งที่คิดว่ามาถูกทางแล้ว ยิ่งพอกระแสทาสแมวเริ่มเข้ามา สินค้าเราก็ได้รับความนิยมมากขึ้นด้วย จนกลายเป็นว่าบางคนเข้าใจผิดว่าที่นี่ คือ หมู่บ้านแมว เพราะเราขายทุกอย่างเป็นแมวไปหมด” แม่ออยเล่าจุดเริ่มต้นที่มาของธุรกิจให้ฟัง

แมวพ่อ แม่ ลูก

     โดยเล่าว่าลูกค้ากว่า 90 เปอร์เซ็นต์ที่เข้ามาในร้าน คือ คนรักแมวเกือบทั้งหมด บางคนถึงไม่ชอบ แต่คนใกล้ตัวคนรอบข้างชอบ ก็จะแวะเข้ามาเพื่อซื้อไปฝาก ซึ่งนอกจากจะชอบในสินค้าของร้านที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครแล้ว อีกสิ่งที่ทำให้แมวดอยสามารถมัดใจลูกค้าได้ ก็คือ การสร้างสตอรีของแบรนด์ที่มาจากชีวิตจริงของ 3 คนพ่อแม่ลูกเหมือนกับโลโก้แบรนด์ที่เป็นรูปแมว 3 ตัว การได้เฝ้ามองดูการเติบโตความน่ารักของครอบครัว ก็เหมือนการเป็น Fc เฝ้าดูศิลปินหรือบุคคลที่ชื่นชอบ ซึ่งต่างจากการซื้อของฝากหรือของที่ระลึกทั่วไป

     “ทุกวันนี้ทำธุรกิจอะไรก็ตาม ถ้าเราสามารถทำงานกับวิถีชีวิตจริงให้ออกมาสอดคล้องกันได้มากเท่าไหร่ ลูกค้าเขาก็จะยิ่งเชื่อเรามากเท่านั้น งานที่ทำออกมาก็จะมีคุณค่ามากขึ้น เพราะจะไม่ใช่แค่การขายสินค้าอย่างเดียวแล้ว แต่มันมีเรื่องราวที่มาที่ไปด้วย ทำให้ลูกค้าเขาอยากเสพต่อเนื่องไปเรื่อยๆ อ่านเรื่องนี้จบแล้ว ก็อยากติดตามเรื่องต่อไปอีก ลูกค้าของเราจึงไม่ใช่แค่ลูกค้าที่ซื้อไปแล้วก็จบ แต่ส่วนใหญ่ คือ จะกลับมาเป็นแฟนคลับ คอยติดตามตลอดว่าเราจะออกสินค้าอะไรใหม่ๆ ก็จะช่วยอุดหนุนตลอด มีหลายคนเหมือนกันที่ตั้งใจมาแม่กำปองแต่ไม่ได้มานอนค้าง แค่ซื้อมาของที่ร้านแล้วกลับเลยก็มี” แม่ออยเล่าให้ฟัง

     ซึ่งหากใครได้เป็นแฟนตัวยงที่ชอบไปเที่ยวแม่กำปองเป็นประจำเกือบทุกปี อาจสังเกตได้ว่านอกจากโลโก้แบรนด์แมว 3 ตัวพ่อแม่ลูกแล้ว ป้ายหน้าร้านของแมวดอยจะเปลี่ยนไปทุก 2 ปีตามการเติบโตของธาราลูกสาวด้วย จากเด็กน้อยในตะกร้าแบเบาะมาเป็นเด็กหญิงที่ซุกซนเป็นตัวของตัวเอง ชอบธรรมชาติ ชอบศิลปะ

ศิลปะ + แฮนด์เมด 2 หัวใจสำคัญ

      ถึงแม้จะชัดเจนในการแสดงจุดยืนของตนเองว่าชื่นชอบแมวแบบเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ แมว คือ แรงบันดาลใจในการสร้างงานแต่ละชิ้น แต่จุดเด่นของที่นี่ไม่ได้มีเพียงเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายข้อที่น่าสนใจ 1. คือ สินค้าที่นี่จะทำมือทั้งหมด ไม่ว่าปัก ถัก เพนต์ แม้แต่เสื้อยืดเป็นร้อยๆ ตัวก็ยังคงใช้วิธีสกรีนด้วยมือ จากลวดลายที่ออกแบบและวาดเอง บางตัวก็ลงสีเองด้วย 2. การเลือกใช้คู่สีที่น่าสนใจ สีสันสดใส จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของร้าน

     “จริงๆ งานฝีมือเราไม่ได้เก่งมากในเรื่องเย็บ ปัก ถักร้อย บางทีแทบจะเป็นการถักแบบเบสิกเลย แต่เราเรียนศิลปะมาเลยได้เปรียบเรื่องการจับคู่สี การเลือกใช้โทนสีสดๆ แบบนี้ ซึ่งไม่ค่อยมีคนกล้าทำออกมา อีกอย่าง คือ เราสามารถคลี่คลายให้ออกมาเป็นแมวได้ตามคอนเซปต์ที่วางไว้ เลยทำให้งานน่าสนใจ มีเอกลักษณ์ลักษณ์ เช่น มีเสื้อยืดลายหนึ่งเป็นตัวแมวแล้วเขียนคำว่า “จงเห็นแก่แมว” อยู่ข้างใน เราก็ดัดแปลงมาจากรูปพระพุทธรูปที่เขียนว่า จงอย่าเห็นแก่ตัว ซึ่งจริงๆ มีคนที่เขาทำงานฝีมือเก่งมากๆ แต่อาจขาดทักษะตรงนี้ไป เลยทำให้งานขาดการสร้างมูลค่าเพิ่ม ทั้งๆ ที่ทำงานออกมาดี”

ทำเป็นอะไหล่ขึ้นมาก่อน

      ถึงแม้จะทำงานออกมามากมาย ไม่ว่างานเพนต์ งานไม้ งานผ้า งานเย็บปักถักร้อยต่างๆ แต่ทั้งคู่ก็ตัดสินใจว่าจะลงมือทำงานทุกชิ้นด้วยตนเอง โดยไม่จ้างใคร เพราะอยากให้ลูกค้าได้รับงานจากที่ดีที่สุดที่ตนได้ตั้งใจทำจริงๆ และอยากควบคุมคุณภาพด้วยตัวเอง โดยได้ออกแบบวิธีการทำงาน เพื่อให้ทันกับความต้องการของลูกค้าดังนี้ 1. กำหนดจำนวนชิ้นงาน และทำแยกเป็นอะไหล่แต่ละส่วนออกมาให้เสร็จก่อน จากนั้นจึงค่อยนำมาประกอบพร้อมกันทีเดียว ซึ่งการทำแบบนี้จะช่วยให้ทำงานได้เร็วกว่าทำทีละชิ้น และ 2. รทำเป็นอะไหล่เปล่าสำรองเก็บเอาไว้ใช้ล่วงหน้า เมื่อนึกอยากประยุกต์ดัดแปลงทำอะไร ก็ค่อยมาหยิบใช้ภายหลัง วิธีนี้จะช่วยให้ได้งานที่หลากหลายขึ้นด้วย

     โดยตลอดทั้งปีทั้งแม่ออยและพ่อเบสจะใช้เวลาว่างในช่วงฤดูฝนหรือโลซีซั่นในการทำชิ้นงานเก็บสะสมไว้ขายในช่วงไฮซีซั่นตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม จนถึงปลายกุมภาพันธ์ นอกจากนี้ยังใช้เวลาว่างที่มีหลังจากพ้นหน้าไฮซีซั่นแล้วรับงานออร์เดอร์ที่ลูกค้าสั่งเพิ่มเข้ามาด้วย ทำให้ตลอดทั้งปีพวกเขาแทบไม่ว่างเว้นจากการทำงานเลย

               

โควิดกระตุ้นกระแสแฟนคลับในโซเชียล

     โดยแต่เดิมก่อนหน้านี้นั้น ร้านแมวดอยฯ จะเน้นขายที่หน้าร้านเป็นส่วนใหญ่ แต่หลังจากโควิด-19 เริ่มเข้ามา ทำให้เปิดร้านไม่ได้ จึงเริ่มมีการทดลองลงขายทางออนไลน์ เลยทำให้พึ่งรู้ว่าจริงๆ แล้วที่ร้านมีลูกค้าแฟนคลับอยู่ในออนไลน์เยอะมาก ถึงขั้นลงขายอะไรไปก็หมด จนครั้งหนึ่งเคยลงขายพวงกุญแจเพนต์มือ ทำสถิติสูงสุด แค่ 6 นาทีขายหมดเกลี้ยง

      แถมหน้าหนาวปลายปีที่แล้วยังเคยต้อนรับบุคคลมีชื่อเสียง คือ อดีต 2 พระนักเทศน์ชื่อดัง ได้แก่ พระมหาไพรวัลย์ วรวัณโณ และพระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต ซึ่งหลังจากลาสิกขาแล้วก็ได้สวมเสื้อยืดของทางร้านที่ซื้อไปเป็นรูปแมว 3 ตัวทำท่าปิดหู ปิดตา ปิดปาก จึงยิ่งทำให้ร้านกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น ยอดสั่งจองเสื้อเข้ามาเพิ่มแบบถล่มทลาย แถมคนกดไลค์เพจเพิ่มอีกกว่าพันคน โดยปัจจุบันมีอยู่ประมาณสี่พันกว่าคนด้วยกัน

     “โควิดฯ ทำให้เรารู้เลยว่าจริงๆ แล้วเรามีแฟนคลับอยู่ในออนไลน์เยอะมาก ทุกครั้งที่ลงขายลูกค้าของแมวดอย คือ แทบไม่ขอรายละเอียดข้อมูลอะไรเลย เช่น ไซส์เท่าไหร่ วัสดุทำมาจากอะไร แค่รู้ว่าเป็นอะไรก็พอ ลงไปไม่นานเท่าไหร่ก็หมดตลอด เพราะเราทำออกมาไม่เยอะชิ้นด้วย แค่อย่างละ 10 - 20 ชิ้น บางทีขายดีกว่าหน้าร้านอีก แต่เราเกิดมาจากหน้าร้านเลยยังอยากทำตรงนี้เป็นหลัก”

     สุดท้ายเมื่อถามถึงทัศนคติของแม่ออยและพ่อเบสว่า คิดอย่างไรกับคำว่า “ศิลปินไส้แห้ง” ที่ใครๆ ชอบพูดกัน ทั้งคู่ตอบอย่างหนักแน่นว่า

     “จริงๆ คำนี้มีในทุกอาชีพนะ ถ้าคุณไม่ได้ทำมันจริงๆ ต่อให้เป็นหมอหรือจบอาชีพอะไรมาก็ตาม แต่ถ้าคุณจริงจังกับ มันต่อให้เป็นอาชีพปีนเก็บลูกมะพร้าว ยังไงก็ไม่มีทางไส้แห้ง ซึ่งเราสองคนไม่เคยมีคำนี้อยู่ในหัวเลย และยืนยันว่าอาชีพนี้สามารถเลี้ยงตัวเองได้ ซึ่งเราพิสูจน์ให้เห็นด้วยตัวเองมาแล้วว่าเรามีทุกอย่างได้ มีบ้าน มีรถ มีที่ ก็เพราะงานศิลปะเพราะทำของแบบนี้ขาย ศิลปินบางคนที่ว่าไปไม่รอด อาจเพราะมีอีโก้สูงเกินไป คิดว่าที่ตัวเองทำดีที่สุดแล้ว โดยไม่ยอมปรับจูนกับคนอื่นบ้าง ซึ่งถ้าคิดแบบนั้น คือ พัง ถ้าเราคิดแบบนั้นเราก็พังเหมือนกัน ซึ่งจริงๆ มันสามารถพูดคุยกันได้ ยกตัวอย่างเราวาดรูปแมวกับแก้วกาแฟ แต่ลูกค้ามาออร์เดอร์อยากให้เปลี่ยนจากแก้วเป็นกรวยดริปแทน เพราะเขาชอบชงกาแฟดริป ซึ่งถ้าเล็กๆ น้อยๆ อย่างนี้ ไม่ได้สูญเสียตัวตนของเราไป เราก็ทำให้ เพราะจริงๆ แล้วก็ต้องยอมรับว่าถึงเราจะเป็นคนวาด แต่สุดท้ายลูกค้าเขาก็เป็นคนซื้อและเอาไปติดไว้ที่บ้านเขาอยู่ดี ดังนั้นเขาควรมีสิทธิ์เลือกในสิ่งที่ชอบเหมือนกัน”

ข้อคิดทำธุรกิจจากแมวดอย แกลลอรี่

1. เริ่มต้นทำจากสิ่งที่ชอบและรักก่อน

2. หาอัตลักษณ์ของสินค้าให้เจอ

3. สร้างมูลค่าเพิ่มด้วย Brand Story

4. ปรับให้เข้ากับความต้องการของผู้บริโภค

5. สร้างระบบการทำงานที่เหมาะกับตัวเอง

 

TEXT : Surangrak Su.

PHOTO : สองภาค

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

กว่าจะเป็น สุขกับป๊อกกี้ ร้านลับ ชื่อเท่ เมืองสัตหีบ ที่ใครมาก็ต้องได้ความสุขกลับไป

“สุขกับป๊อกกี้” คาเฟ่ & ร้านอาหารชื่อแปลกหู อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ที่แค่ฟังก็รู้ว่าต้องเป็นพื้นที่แห่งความสุข

บ้านอยู่ดีมีความสุข เกาะสีชัง กับแนวคิดทำธุรกิจให้มีขยะน้อยที่สุด

เราไม่สามารถลดขยะให้เป็นศูนย์ได้ แต่สามารถลดให้น้อยลงได้ แค่ลองตั้ง Mindset ค่อยๆ ลงมือทำไปทีละนิด ไม่ว่าใครก็ทำได้ เหมือนกับ “บ้านอยู่ดีมีความสุข” ที่พักเล็กน่ารักบนเกาะสีชัง จ.ชลบุรี ที่เริ่มต้นทำจากจุดเล็กๆ ไปทีละอย่าง

บ้านๆ น่านๆ ตำนานที่พัก+ห้องสมุด รายแรกของไทย ใช้สิ่งที่รักต่อยอดธุรกิจโตกว่าทศวรรษ

เพราะความรู้ ความบันเทิง ความรื่นรมย์ไม่ได้อยู่แค่ในหนังสือ แต่มันอยู่ในชีวิตเราทุกรูปแบบ นี่คือ เหตุผลที่ทำให้ "ชโลมใจ ชยพันธนาการ" (ครูต้อม) อดีตครูสอนวิชาภาษาไทยผันตัวมาเป็นเจ้าของที่พัก “บ้านๆ น่านๆ” ที่มีจุดขาย คือ มีห้องสมุดไว้สำหรับหนอนหนังสือเป็นรายแรกของไทย