รูปภาพจาก www.facebook.com/FarmToTableOrganicCafe
เคยได้ยินกันไหม “ไอศกรีมไหม”
ฟังไม่ผิดหรอก เป็นไอศกรีมที่ผสมผงไหมลงไปจริงๆ รับประทานได้และอร่อยอีกต่างหาก
เมื่อมิวเซียมสยาม จัดนิทรรศการมองใหม่ด้วยไหม จึงเป็นโจทย์ท้าทายสำหรับ ‘จอย’-จิรภัสร เจียรรุ่งแสง เจ้าของร้าน Farm to Table Organic Cafe ที่จะคิดค้นไอศกรีมสูตรพิเศษที่ล้อไปกับนิทรรศการ แต่ในที่สุดก็ไม่เกินความสามารถ เธอสร้างสรรค์ไอศกรีมสูตรใหม่ ด้วยการนำลูกหม่อนออร์แกนิคส์และใบหม่อนมาพัฒนาเป็นไอศกรีมรสมัลเบอรี่(ลูกหม่อน) และรสใบหม่อน ที่ผสมผงไหมลงไปในขั้นตอนการทำได้ จึงกลายเป็นการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ที่ยากจะเลียนแบบ
เหตุผลที่ทำไอศกรีมแปลกๆ เหล่านี้ได้ ก็เพราะจิรภัสร ทำไอศกรีมผักผลไม้ออร์แกนิคส์ 30 กว่ารสมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น รสงาดำ ถั่วแระญี่ปุ่น ใบข้าว ฝักทอง มะเขือเทศเชอร์เบท เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดจากเพียงแค่คิดว่าอยากจะต่อยอดธุรกิจผักออร์แกนิคส์ King Cabbage ณ ภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย ที่คุณพ่อคุณแม่ได้ทำเอาไว้เท่านั้น ก็สามารถพลิกความคิดเกิดเป็นอีกธุรกิจหนึ่งขึ้นมา ที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับธุรกิจเดิม
ปัญหาอย่างหนึ่งของการนำผักออร์แกนิคส์ของจากภูชี้ฟ้ามาสู่ซุปเปอร์มาร์เก็ตก่อนที่จะถึงมือผู้บริโภคคือระยะทางที่ทำให้ความสดใหม่ของผักผลไม้ลดลง และสู้กับคู่แข่งที่อยู่ใกล้กว่าไม่ได้ จึงคิดจะต่อยอดธุรกิจของครอบครัวออกไป โดยมีโจทย์ว่าทุกคนต้องทานได้และเก็บไว้ได้นาน จนกระทั่งความคิดมาตกผลึกที่ไอศกรีม เนื่องจากเห็นว่ายังไม่มีใครเอาผักผลไม้ออร์แกนิคส์มาทำไอศกรีม เธอจึงลงทุนบินไปเรียนการทำไอศกรีมถึงประเทศอิตาลี
ทางด้านการตลาด ขณะนี้ ไอศกรีมผักผลไม้จะมีจำหน่ายในร้าน Farm to Table Organic Cafe ซึ่งเป็นคาเฟ่เล็กๆ บนถนนอัษฎางค์ ย่านปากคลองตลาด ที่เธอเปิดเพื่อจำหน่ายอาหารออร์แกนิคส์เพื่อสุขภาพ และวางจำหน่ายในร้านเลมอนฟาร์ม
นี่แหละ...ขอเพียงมีไอเดีย ธุรกิจใหม่ก็เกิดขึ้นได้
Create by smethailandclub.com