โอเดงย่า ต้นตำรับขนมแถมการ์ดเกมในไทย กับ 30 ปีการกลับมาที่วันนี้มูลค่าพุ่งสูงกว่าใบละแสนบาท

TEXT :    Nitta Su.

PHOTO :  CoCoRi

 




     โอเดนย่า (โอเดงย่า) ขนมซองข้าวโพดอบกรอบรสซีฟู้ดกลับมาขายอย่างเป็นทางการอีกครั้ง หลังห่างหายไปนานกว่า 30 ปี โดยไม่ลืมของแถมการ์ดดราก้อนบอลในตำนานให้ได้หายคิดถึงกันด้วย แต่เพิ่มเติม คือ การ์ดชุดพิเศษ (SSR) ที่มีเพียง 150 ใบในโลก! จนมีการประกาศรับซื้อแตะหลักแสนบาทต่อใบไปแล้ว
             

     “การ์ดเกม” ของเล่นสุดฮิตของเด็กไทยยุค 90 หนึ่งในการ์ดเกมที่โด่งดังและมีชื่อเสียงถูกพูดถึงกันมาก คือ “การ์ดดราก้อนบอล” การ์ดเกมในยุคแรกๆ ของไทยที่แถมมากับขนมซองอย่างโอเดงย่า ซึ่งเริ่มจำหน่ายครั้งแรกเมื่อปี 2532 จากนั้นการ์ดเกมในไทยก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ มีขนมแถมการ์ดเกมออกมาให้เลือกสะสมมากมายในท้องตลาด เป็นกิจกรรมสันทนาการสุดฮอตของเด็กยุคนั้นที่มักนำการ์ดมาเปิดเอาค่าพลังมาแข่งกัน แต่สิบกว่าปีต่อมาหลังจากที่เกมออนไลน์เริ่มเข้ามาพร้อมกับของเล่นใหม่ๆ เข้ามาตีตลาดมากขึ้น ความนิยมเล่นการ์ดเกมเริ่มลดลง จึงได้เลิกแถมการ์ดเกมมาบนซองขนม



  
        ว่ากันว่าที่มาของการ์ดเกมนั้นพัฒนาต่อยอดมาจากเกมไพ่ ซึ่งมีการเล่นกันมานานกว่านับพันปีแล้ว จากประวัติศาสตร์ชาติต่างๆ เช่น จีน, อินเดีย, ฝรั่งเศส, เยอรมัน










ทำไมชื่อญี่ปุ่น แต่เจ้าของเป็นคนไทย

 
             

     ก่อนจะมาติดตามเรื่องราวการกลับมาอีกครั้งของโอเดงย่า ลองมาทำความรู้จักกับต้นกำเนิดของแบรนด์กันก่อน ซึ่งผู้ให้กำเนิดโอเดงย่าขึ้นมา ก็คือ บริษัท เอสพีอาร์ ฟู๊ด อินดัสทรี จำกัด ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของตระกูลเหรียญชัยวานิช ซึ่งเริ่มต้นธุรกิจขึ้นมาจากร้านยี่ปั๊วหรือร้านขายส่งที่มองเห็นโอกาสว่าขนมซองขายดี ภายหลังต่อมาจึงเริ่มก่อตั้งโรงงานผลิตขนมของตัวเองขึ้นมาในปี 2518 กระทั่งสิบกว่าปีผ่านไปจึงจัดตั้งเป็นรูปแบบบริษัทขึ้นมาในปี 2527 พร้อมกับการเข้ามาช่วยดูแลของทายาทรุ่นสอง ซึ่งภายหลังต่อมาได้คิดค้นขนมข้าวโพดอบสูตรรสซีฟู้ดชื่อ “โอเดงย่า” ออกมาวางจำหน่ายในท้องตลาด พร้อมกับของแถมการ์ดเกมลายการ์ตูน จึงทำให้ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก ทำให้ต่อมามีการผลิตขนมซองแถมการ์ดเกมตามมาอีกเรื่อยๆ
             

     ส่วนที่มาของชื่อนั้นนำมาจากร้านโอเด้งก๋วยเตี๋ยวสไตล์ญี่ปุ่นนั่นเอง โดยได้มาจากการเดินทางไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่นและเกิดความประทับใจในรสชาติอาหารจากร้านโอเด้ง จึงนำมาตั้งเป็นชื่อแบรนด์ในที่สุด ซึ่งหลังจากยุคหนึ่งที่การ์ดเกมเริ่มไม่เป็นที่นิยมเหมือนเก่าจึงได้เลิกผลิตไป และหันมาจับตลาดส่งออกแทน โดยไม่มีของแถมในซองเหมือนเก่า แต่ต่อมาภายหลังจึงได้กลับมาผลิตขนมข้าวโพดอบกรอบรสปลาหมึกขึ้นมาแทนในชื่อ “โคโคริ” พร้อมกับเพิ่มรสชาติใหม่ เช่น  รสสาหร่าย รสมะพร้าว โดยจากข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้าปี 2563 บริษัท เอสพีอาร์ ฟู๊ด อินดัสทรี จำกัด มีรายได้รวม 303 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 6.34 เปอร์เซ็นต์ กำไรสุทธิ 3.5 ล้านบาท ลดลง 51.86 เปอร์เซ็นต์
 






จากโอเดงย่า ถึงโอเดนย่า

 

             
     การกลับมาปรากฏตัวอีกครั้งของโอเดนย่าในวันนี้จึงเป็นการกลับมาในรอบ 30 ปี ว่ากันว่ากว่าจะกลับมาเปิดตัวได้อีกครั้งต้องใช้เวลาเตรียมโปรเจกต์กันนานกว่า 3 ปีเลยทีเดียว เพื่อทำให้สมบูรณ์แก่การรอคอยของผู้บริโภคที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ทั้งรสชาติขนมและการ์ดของแถม โดยเริ่มจำหน่ายอย่างเป็นทางการอีกครั้งเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมาในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น


     ซึ่งไม่เพียงกลับมาให้หายคิดถึง แต่มีการปรับเวอร์ชั่นใหม่ ตั้งแต่การปรับชื่อภาษาไทยจาก “โอเดงย่า” ให้เป็น “โอเดนย่า” ให้ถูกต้องตามคำสะกดในภาษาอังกฤษ คือ Oden – Ya จำหน่ายที่ซองละ 20 บาท ขนมหนึ่งซองจะมีการ์ดแถมให้ 2 ใบ แต่คราวนี้แทนที่จะใส่การ์ดไว้ในซองขนมเหมือนเก่ากลับมีการแปะแยกออกมาให้เห็นอยู่นอกซองเลย เพื่อให้สะดวกแก่ลูกค้ามากขึ้น เช่น บางคนอาจอยากแกะเอาการ์ดมาเล่นก่อน แล้วค่อยกินขนมทีหลังก็สามารถทำได้ อีกอย่าง คือ เพื่อเป็นไปตามตามประกาศของกฎหมายปี 2552 ด้วยว่า "ของแถม" ไม่สามารถใส่ลงไปในซองขนมได้
             





     โดยการกลับมาของโอเดงย่านั้นนอกจากจะนำรสชาติขนมข้าวโพดรสซีฟู้ดที่เคยคุ้นเคยกันดีให้กลับมาแล้ว ตัวการ์ดเองยังใส่ใจในรายละเอียดโดยเลือกใช้โรงพิมพ์เดิมในการผลิตด้วย คือ โรงพิมพ์อนิเมท ปริ้นแอนดีไซด์ ซึ่งเคยพิมพ์การ์ดดราก้อนบอลที่โด่งดังในอดีตของเด็กไทยมาแล้ว เพื่อให้ได้สไตล์การพิมพ์และออกแบบคล้ายคล้ายกับของต้นฉบับมากที่สุดสมกับการรคอยมานานหลายสิบปี
 





ขนมหลักสิบ การ์ดหลักแสน
 

     ส่วนตอนนี้ที่เป็นข่าวของราคาการ์ดที่แถมมาด้วยว่าทำไมราคาถึงไปแตะอยู่ที่หลักแสนบาทไปได้ ต้นตอมาจากการ์ดชุดพิเศษที่ชื่อว่า “SSR” ซึ่งมีผลิตออกมาเพียง 150 ใบในไทยหรือในโลกเท่านั้น


     โดยครั้งนี้มีการออกแบบการ์ดเกมมาให้สะสมทั้งสิ้น 147 แบบด้วยกัน แบ่งเป็นการ์ดธรรมดา 94 แบบ, การ์ดพิเศษโฮโลแกรม 35 แบบ, การ์ดพิเศษโฮโลแกรมปั้มทอง 17 แบบ และการ์ด SSR (Super Secret Rate) 1 แบบผลิตออกมาเพียง 150 ใบ





      จึงมีโอกาสเป็นไปได้ยากที่จะเจอการ์ด SSR ดังกล่าว และไม่แปลกใจเลยที่จะมีคนประกาศขอรับซื้อการ์ด SSR ในราคาสูงลิ่ว โดยเมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา เฟสบุ๊กเพจ “ให้ไปเกิดแลนด์ ดินแดนของสะสมโมเดล ฟิกเกอร์ งานแท้ 100%” ได้มีการโพสต์ข้อความขอรับซื้อการ์ดดราก้อนบอลที่แถมมากับขนมโอเดนย่า โดยยินดีรับซื้อการ์ดหายากระดับ SSR ในราคาใบละ 1 แสนบาท พร้อมโอนเป็นเงินสดทันที

             


ในยุคหนึ่งราวยุค 90 ได้มีการผลิตออกมาเป็น Trading Card (TC) หรือการ์ดสะสม ต่อมาภายหลังมีการพัฒนาให้สามารถนำมาเล่นได้ โดยจะมีค่าพลังหรือคะแนนติดไว้ที่ตัวการ์ด จนปัจจุบันมีการต่อยอดกลายเป็น Digital Collectible Card Game (DCCG) หรือการ์ดเกมออนไลน์ขึ้นมาเล่นกันทั่วโลก
 






     โดยได้มีการแจ้งอัพเดตในโพสต์เดียวกันกันว่า ปัจจุบันทางเพจได้ทำการซื้อการ์ดหายากระดับ SSR มาไว้ในครอบครองทั้งหมด 4 ใบแล้ว ราคามีตั้งแต่ 50,000 - 130,000 บาท ซึ่งไม่ใช่ราคากลาง และไม่ใช่ราคามาตรฐานในการซื้อขาย แต่เป็นราคาที่เกิดจากความพึงพอใจระหว่างเพจและผู้ขายการ์ดเองที่ชื่นชอบในการ์ดเกมและเก็บเป็นของสะสมส่วนตัวไว้อยู่แล้ว
             

     คงต้องรอดูกันต่อไปว่าอนาคตการ์ดเกมชุดดังกล่าวนี้ในมือของนักสะสมราคาจะพุ่งสูงขึ้นไปอยู่ที่เท่าไหร่ แต่ที่แน่ๆ งานนี้เรียกว่าสมศักดิ์ศรีการกลับมาของโอเดนย่าจริงๆ ที่ผ่านมาแค่เพียงอาทิตย์กว่าก็เรียกเสียงฮือฮาจากผู้บริโภคและนักสะสมคนไทยได้ถึงขนาดนี้
 



 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

พลิกตำรายา 150 ปี สู่อาณาจักรสุขภาพแห่งอนาคต ทายาทขุนอภิบาลบ่อพลับ ร่วมสร้างธุรกิจครอบครัว

เป้าหมายการทำธุรกิจของหลายคนอาจเป็นเรื่องรายได้ แต่สำหรับ ต๊อก-ปีรัชด์ อนันตพันธ์ และ แต๊ก-ปานชาติ มิตรกูล มีเป้าหมายสร้างแบรนด์ "อภิบาลบ่อพลับ" เพื่อให้ทุกคนได้ระลึกถึงตำรายาไทย 150 ปี จากบรรพบุรุษของเขาที่ชื่อ ขุนอภิบาลบ่อพลับ

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย