Nimnim เส้นโปรตีนไข่ขาวครั้งแรกของโลก ใช้ Pain Point ใบเบิกทางจากหิ้งสู่ห้าง ทำยอดขายเพิ่ม 10 เท่าเดือนเดียว

TEXT : Nitta Su.
PHOTO : Nimnim

 

        ปกติถ้าพูดถึงอาหารสุขภาพ เรามักนึกถึงอาหารที่จืดชืด ไม่อร่อย แต่มีประโยชน์ แต่สิ่งนี้คงไม่เกิดขึ้นกับ “Nimnim” แบรนด์เส้นโปรตีนจากไข่ขาวนวัตกรรมครั้งแรกของโลก ที่แม้จะเริ่มต้นจากงานวิจัยในห้องแลป แต่ทุกอย่างจะคำนึงถึงผู้บริโภคเป็นหลัก ที่นอกจากจะมีประโยชน์ ผู้ป่วยสามารถรับประทานได้ คนทั่วไปก็กินดีแล้ว ยังต้องมีความอร่อย สะดวกง่ายต่อการใช้งาน และราคาจับต้องได้ด้วย จึงจะต่อยอดกลายเป็นธุรกิจที่ยั่งยืน ทำเงิน สร้างรายได้ให้แบรนด์ในระยะยาว

 


มองจากปัญหา ต่อยอดเป็นงานวิจัย

 

        Nimnim เกิดจากความร่วมมือของผองเพื่อน 3 คน คือ เกรท-อุมาพร บูรณสุขสมบัติ ผู้เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่, ตื๋อ-วรวีร์ เชาวน์พิชญ์ชยา กราฟฟิกดีไซน์ผู้ตกแต่งแบรนด์ แพ็กเกจจิ้ง จนสื่อต่างๆ ให้สวยงาม และฟิ้ง-ปณัสสา กาญจนวิเศษ นักการตลาดมือฉมังที่แสวงหาช่องว่างตลาด และโอกาสให้แบรนด์อยู่เสมอ
               

         เรื่องเริ่มต้นมาจากการที่เกรทต้นเรื่องคนสำคัญได้ทำวิทยานิพนธ์งานวิจัยเกี่ยวกับการนำไข่ขาวอาหารที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยโปรตีนสูง ซึ่งแพทย์มักจะสั่งให้ผู้ป่วยที่ต้องฟื้นฟูร่างกาย เช่น ผู้ป่วยโรคไต ผู้ป่วยโรคมะเร็ง รับประทานในปริมาณมากต่อวัน เพื่อช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายจะได้กลับมาแข็งแรงไวๆ แต่ปัญหาหนึ่งที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะเจอเหมือนกันก็คือ ไม่สามารถรับประทานในปริมาณมากต่อเนื่องกันได้ทุกวัน เบื่ออาหาร กินข้าวไม่อร่อย ทำให้ได้รับโปรตีนในปริมาณที่ไม่เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ อาจส่งผลให้หายป่วยได้ช้า จึงเป็นที่มาให้เกรทได้คิดค้นรูปแบบการรับประทานไข่ขาวให้อร่อย สะดวก ในมิติใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน


           กว่าจะได้ออกมาเป็นชิ้นงานวิจัยที่สมบูรณ์ความยาก คือ ต้องบาลานซ์องค์ประกอบทุกด้านให้เข้ากันได้อย่างพอดี ซึ่งมีความโชคดีที่เกรทนั้นมีทั้งความเป็นนักโภชนาการและนักฟู้ดไซน์อยู่ในตัวเอง โดยมีหลักอยู่ 3 ด้าน ได้แก่ 1. คุณสมบัติทางกายภาพ ได้แก่ ความแข็งเหนียวของเส้น สี กลิ่น ลองเคี้ยวออกมาแล้วเป็นยังไง 2. ประสาทสัมผัส หลังจากรูปลักษณ์ภายนอกดีแล้ว รสชาติก็ต้องดีด้วย โดยให้ผู้บริโภคตัวจริงได้เป็นผู้ทดลองชิมจากกลุ่มตัวอย่างหลากหลายอาชีพและช่วงวัย ไม่ใช่แค่เฉพาะผู้ป่วยเท่านั้น และ 3. โภชนการ คือ หัวใจที่สำคัญที่สุดของเรื่อง ต้องมีประโยชน์ ปลอดภัยต่อผู้ป่วย ขณะที่คนทั่วไปที่อยากใส่ใจสุขภาพก็สามารถรับประทานได้เช่นกัน โดยนอกจากจะผลิตออกมาเป็นเส้นโปรตีนไข่ขาวแล้ว ยังไม่มีส่วนผสมของแป้งและน้ำตาล เพื่อให้ดีต่อสุขภาพอย่างแท้จริงด้วย



 

จากห้องแลป สู่เชลล์วางสินค้า

 
               
         การคิดค้นวิจัยขึ้นมาว่ายากแล้ว แต่การผลิตให้เป็นสินค้าจริงออกมาขายได้นั้นยากยิ่งกว่า เพราะมีทั้งเรื่องของปริมาณการผลิตจำนวนมาก เงินทุน เครื่องจักร และองค์ประกอบอื่นๆ อีกมากมาย
               

        “ถึงแม้งานวิจัยของเราจะคิดออกมาได้ครบรอบด้านแล้วก็ตาม แต่ใช่จะการันตีได้ว่าเราจะประสบความสำเร็จในการผลิตเป็นสินค้าออกมาขายด้วย มีงานวิจัยหลายชิ้นที่สามารถทำได้ครบทั้งสามด้าน แต่ไม่สามารถนำมาผลิตเป็นสินค้าจริงขายได้ก็มีเยอะ ผลสำเร็จจากห้องแลปบอกเราได้แค่ 50 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เพราะการนำมาต่อยอดเป็นธุรกิจเข้าสู่กระบวนการอุตสาหกรรมได้มีองค์ประกอบอีกหลายอย่าง ตั้งแต่ปริมาณการผลิตที่แตกต่างกัน ต้นทุนการผลิต การลงทุน เครื่องจักรที่ใช้ผลิต แพ็กเกจจิ้งที่ใช้ การขนส่ง การกระจายสินค้าไปสู่ลูกค้า ราคาจัดจำหน่าย ต้องคิดทุกอย่าง ซึ่งถ้าไม่ได้นำมาต่อยอดจบแค่งานวิจัยเราก็ไม่มีทางรู้ปัญหาหรือมีประสบการณ์เหล่านี้ได้เลย”



              

       สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 การเปิดตัวช่วงแรกของแบรนด์ Nimnim จึงอาศัยช่องทางออนไลน์เป็นหลักทั้งของแบรนด์โดยตรงและตลาดนัดออนไลน์ เช่น จุฬาฯ มาร์เก็ตเพลส, ธรรมศาสตร์และการฝากร้าน ไปจนถึงการนำไปฝากขายตามร้านสุขภาพต่างๆ โดยเปิดตัวครั้งแรกที่ร้านใบเมี่ยง ซึ่งแม้จะคิดว่าเตรียมทุกอย่างมาดีแล้ว แต่สุดท้ายทุกคนก็พบว่ายังไม่ดีพอ โดยสินค้าที่ผลิตออกมาในช่วงแรกนั้นจะมีอายุการเก็บรักษาได้เพียง 1 เดือน และต้องแช่เย็นอยู่ตลอดเวลา ทำให้แม้จะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคค่อนข้างมาก เพราะเป็นนวัตกรรมสินค้าใหม่ ไม่เคยมีมาก่อน แต่หลายคนก็ยังเกิดความลังเลที่จะซื้อไปทดลอง
               

          “ด้วยความที่เป็นสินค้าใหม่ยังไม่เคยมีผลิตมาก่อนในโลก ทำให้แม้คิดว่าจะเตรียมตัวมาอย่างดีแล้ว แต่สุดท้ายเราก็พบว่ามันยังไม่ดีพอสำหรับการผลิตเป็นสินค้าออกวางจำหน่ายจริง โดยในช่วงแรกนั้นผลิตภัณฑ์ของเรามีอายุการเก็บรักษาสั้นอยู่ได้แค่ 1 เดือน และต้องแช่เย็นตลอดเวลา ทำให้บางครั้งแม้ลูกค้าจะสนใจ แต่เขาก็ยังไม่มั่นใจที่จะซื้อสินค้าเราไปทดลอง หรือยกตัวอย่างบางทีต่อให้เราจัดส่งให้ลูกค้าผ่านรถห้องเย็น แต่เมื่อไปถึงบ้านลูกค้าไม่อยู่บ้าน สินค้าก็ต้องถูกวางทิ้งไว้ภายนอก ซึ่งความจริงอาจไม่เป็นอะไรมากยังสามารถรับประทานได้


        “แต่วัตถุประสงค์ที่เราตั้งใจทำขึ้นมาก็เพื่อเป็นอาหารสำหรับผู้ป่วยได้สามารถมีอาหารที่ดีมีประโยชน์และอร่อยไว้รับประทานได้ เราก็ไม่สบายใจ อยากทำให้ดีที่สุด จึงได้พัฒนาเพิ่มจากเส้นสดต้องแช่เย็นตลอดเวลาให้กลายเป็นเส้นที่สามารถเก็บรักษาได้นานขึ้น 1 ปี โดยไม่ต้องแช่เย็น ทำให้ยอดขายจากปลายปีที่แล้วเดือนธันวาคมอยู่ที่ 2,000 ถุง ก็ขยับขึ้นมาเป็น 20,000 ถุงในเดือนมกราคมเลยทีเดียว ทำให้เราเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังเพิ่มโอกาสในการกระจายสินค้าด้วย”



 

มีเส้น แล้วต้องมีแกงด้วย

               

         ปัจจุบันเส้นไข่ขาวแบรนด์ Nimnim มีด้วยกัน 3 ชนิด ได้แก่ เส้นไข่ขาว (เส้นใหญ่คล้ายเส้นอูด้ง), เส้นหมี่ไข่ขาว และเส้นสปาเก็ตตี้ไข่ขาว สามารถนำไปดัดแปลงทำอาหารได้หลากหลาย ไม่ว่าอาหารคาวหรือหวาน และนอกจากจะพัฒนาเป็นเส้นหลากหลายชนิดเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคแล้ว ยังแตกไลน์สินค้าทำเป็นชุดแกงพรัอมรับประทานควบคู่กับการขายเส้นไปด้วย แน่นอนว่าเส้นดีต่อสุขภาพแล้ว แกงที่ทำออกมาก็ต้องดีเช่นกัน
               

        “เราคิดไว้ว่าไหนๆ เรามีเส้นที่ดีเพื่อสุขภาพให้กับผู้ป่วยและผู้บริโภคทั่วไปแล้ว ถ้าเราสามารถทำแกงพร้อมรับประทานออกมาด้วย ก็น่าจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับเขาได้มากขึ้น ซึ่งแน่นอนแกงของเราย่อมแตกต่างจากแกงสำเร็จรูปที่ขายอยู่ทั่วไป เพราะต้องผ่านการคิดวิเคราะห์ว่าดีแล้วสำหรับผู้ป่วยด้วย เพื่อให้เขาสามารถรับประทานได้อย่างสบายใจทั้งคู่ ไม่ต้องกังวลใจหรือต้องคอยควบคุมอาหาร โดยเราจะทำออกมาในรูปแบบสำเร็จรูปที่ง่าย ไม่ต้องอุ่นร้อน แค่ฉีกซองก็สามารถรับประทานได้เลย ทำให้ง่ายต่อผู้ป่วย หรือผู้สูงอายุที่อยู่บ้านคนเดียวก็สามารถทำรับประทานได้ง่ายด้วยตัวเอง หรือพกพาไปที่ไหนก็สะดวก แน่นอนว่าที่สำคัญคนทั่วไปลองชิมก็ต้องอร่อยด้วย สามารถกินได้ทั้งครอบครัว เราอยากให้เป็นอาหารที่ทุกคนสามารถแชร์หรือร่วมรับประทานด้วยกันได้อย่างอร่อยและมีความสุขดีต่อสุขภาพ ไม่ว่าคนป่วยหรือไม่ป่วยก็สามารถรับประทานได้เช่นกัน”



               

          ปัจจุบันเส้นไข่ขาวแบรนด์ Nimnim สามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านสุขภาพ, ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ, คีโตเฮ้าส์, โมเดิร์นเทรนด์ แพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Shopee, Lazada ไปจนถึงส่งออกไปยังต่างประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย กัมพูชา อนาคตตั้งเป้าไว้จะไปบุกตลาดญี่ปุ่นและตะวันออกลางด้วย
               

         จากการเป็นนวัตกรรมใหม่ของประเทศและโลก จึงทำให้ได้รับรางวัลจากหลายเวทีประกวดสุดยอดนวัตกรรมของไทย ล่าสุด คือ รางวัล National Innovation Award 2021 จาก NIA นวัตกรรมแห่งชาติไปครองได้สำเร็จ





“นิ่มนิ่ม” ชื่อนี้ไม่ได้มาเล่นๆ

 
               
          สำหรับที่มาของชื่อแบรนด์ Nimnim ว่าเพราะเหตุใดจึงใช้ชื่อนี้ หุ้นส่วนทั้งสามคนตอบว่า
               

         “มันคือ คำที่เกรทพูดบ่อยมากตอนทดลองว่า “มันนิ่มๆ ดีนะ” อีกอย่างเราต้องการหาคำที่ลูกค้าจำได้ง่ายเป็นคำซ้ำเหมือนกับมาม่า ไวไวด้วย แถมยังเป็นคำที่ให้ความรู้สึกน่ารักเป็นมิตร และทำให้ลูกค้ารู้เลยว่าเส้นข้างในเป็นยังไง ส่วนบริษัทเราชื่อ “แข็งแรงทุกวัน” เพราะเราให้ทุกคนได้รอยยิ้มเวลาได้ยินชื่อของเรา อีกอย่างเป็นคำอวยพรให้กับลูกค้าด้วยว่าขอให้แข็งแรงทุกวัน


        “ส่วนถามว่าเป้าหมายอนาคตของแบรนด์เรามองไว้อย่างไร เราอยากให้แบรนด์เติบโตเป็นสินค้าที่ทุกคนหาซื้อได้ง่าย ราคาย่อมเยา อยากให้ถูกบรรจุอยู่ในทุกร้านอาหารเพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าเหมือนที่เราเลือกเส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ แต่ของเราเป็นเส้นไข่ขาวที่คนทั่วไปรู้จัก หรือถ้าเรียกติดปากว่าเส้นนิ่มๆ ได้ก็ดี เหมือนที่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปส่วนใหญ่ก็มักเรียกว่ามาม่ากันหมด เราก็ยินดี”


        สุดท้ายยังได้ฝากแง่คิดให้สำหรับ SME ผู้ที่สนใจอยากผลิตสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมาบ้างว่า
               

        “การเริ่มต้นของ SME คือ ไม่จำเป็นว่าเราต้องมีเงินหลายล้าน หรือสร้างโรงงานของตัวเองให้ได้ก่อน แต่สิ่งแรกที่เราควรคิดอันดับแรก คือ สินค้านั้นมีประโยชน์ แก้ปัญหาให้คนหมู่มากได้ไหม เพราะนั่นหมายถึงอนาคตธุรกิจของคุณจะไปต่อได้ยาวแค่ไหน ผลิตออกมาแล้วจะมีคนซื้อหรือเปล่า ซึ่งเมื่อคิดได้แล้วคำตอบอื่นจะค่อยๆ มาเป็นสเตปเองว่าคุณจะต้องทำอะไรต่อไป สุดท้ายความสำเร็จไม่ได้วัดกันที่ใครมาก่อนมาหลังหรือมาจากองค์กรไหน ผู้บริโภคจะเป็นคนตัดสินเอง หากคุณเป็นตัวจริงคิดและลงมือทำด้วยตัวเองไม่ได้ลอกใคร ทำตัวเองให้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกค้าเลือก วันหนึ่งเขาก็จะเลือกคุณเอง”





 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

พลิกตำรายา 150 ปี สู่อาณาจักรสุขภาพแห่งอนาคต ทายาทขุนอภิบาลบ่อพลับ ร่วมสร้างธุรกิจครอบครัว

เป้าหมายการทำธุรกิจของหลายคนอาจเป็นเรื่องรายได้ แต่สำหรับ ต๊อก-ปีรัชด์ อนันตพันธ์ และ แต๊ก-ปานชาติ มิตรกูล มีเป้าหมายสร้างแบรนด์ "อภิบาลบ่อพลับ" เพื่อให้ทุกคนได้ระลึกถึงตำรายาไทย 150 ปี จากบรรพบุรุษของเขาที่ชื่อ ขุนอภิบาลบ่อพลับ

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย