หนุ่มเทคนิคการแพทย์หัวครีเอท สร้างประสบการณ์ว้าว! ขายทุเรียนแถมไม้เคาะ จับ Pain Point มาสร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจ

TEXT : นิตยา สุเรียมมา
PHOTO : ทุเรียนลุงบอยด์






     ใครชอบกินทุเรียนอาจเคยประสบปัญหาแบบเดียวกัน คือ เวลาซื้อทุเรียนกลับมาบ้านเป็นลูกๆ หรือสั่งซื้อจากร้านออนไลน์เรามักจะคาดเดาไม่ถูกหรือดูไม่เป็นว่าทุเรียนลูกนี้สุกพอดีที่จะปอกกินได้หรือยัง ซึ่งหากไม่ได้มีประสบการณ์ช่ำชองหรือเรียกว่ารู้จักทุเรียนจริงๆ ก็อาจเป็นเรื่องยากสำหรับคนทั่วไป
               

     ด้วยเหตุนี้  อธิตศักดิ์ ขุนคงมี นักเทคนิคการแพทย์และพ่อค้าหนุ่มเจ้าของร้านทุเรียนออนไลน์ “ทุเรียนลุงบอยด์” จังหวัดชลบุรี จึงผุดไอเดียบรรเจิดขายทุเรียนแถมไม้เคาะไปด้วย พร้อมคู่มือวิธีการกินทุเรียนอย่างถูกต้อง เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกกินทุเรียนในแบบที่ต้องการได้



               

     โดยเขาเล่าว่าเดิมทีนั้น น้องชายและภรรยาได้เปิดร้านขายทุเรียนอยู่ที่ชลบุรี เมืองใหม่ ซึ่งทุกปีจะมีลูกค้าประจำมารอซื้อเพราะติดใจในรสชาติ เนื่องจากเป็นสวนมาเองจากจันทบุรี จึงตัดแต่ลูกแก่เพื่อมาขาย ทำให้ได้รสชาติหวานอร่อยเข้มข้น แต่ในปีนี้ด้วยผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้เปิดหน้าร้านได้ไม่เต็มที่ ตนอยากช่วยหาช่องทางสร้างรายได้เพิ่มให้ จึงเปิดเพจร้านขายทุเรียนออนไลน์ขึ้นมา โดยใช้ชื่อเล่นตัวเองตั้งเป็นชื่อร้านเพื่อให้เรียกได้ง่ายๆ แต่หลังจากได้มีการจำหน่ายออกไปล็อตแรก ก็พบปัญหาว่ามีลูกค้าสอบถามเข้ามาถามถึงทุเรียนที่ส่งไปนั้นว่าสามารถปอกกินได้หรือยังและแบบไหนถึงจะเรียกว่าสุกพอดี จึงคิดหาวิธีเพื่อทำให้ลูกค้าสังเกตได้ง่ายด้วยตนเอง
               

      “มันเริ่มมาจากหลังขายทุเรียนล็อตแรกออกไปแล้วมีลูกค้าสอบถามเข้ามาว่าทุเรียนที่เขาซื้อไปนั้นสามารถปอกกินได้หรือยังและเขาจะรู้ได้ยังไงว่าสุกแล้ว บางคนไม่รู้ไปถึงผ่ากินเลยก็มีทำให้ได้รสชาติไม่อร่อยเท่าที่ควร ซึ่งจริงๆ  ถึงจะตัดแก่มาแล้ว แต่ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีรายละเอียดไม่เหมือนผลไม้อื่น ยังไงก็ต้องนำมาบ่มต่ออีก 2 – 7 วันถึงจะกินได้อร่อย แถมความชื่นชอบในการกินของแต่ละคนก็ต่างกันอีก บางคนอยากกินห่าม บางคนอยากกินสุก ก็เลยได้ไอเดียว่าถ้าอย่างนั้นเราแถมไม้เคาะไปให้ด้วย เพื่อเขาจะได้ลองเคาะฟังเสียง พร้อมเขียนเป็นคู่มือ How to อธิบายวิธีการกินทุเรียนที่ถูกต้องแนบไปให้ด้วย เพื่อให้เขาสามารถเลือกกินทุเรียนในแบบที่ตัวเองต้องการได้” อธิตศักดิ์เล่าที่มาไอเดียให้ฟัง
               

      โปรโมชั่นซื้อทุเรียนแถมไว้เคาะของร้านทุเรียนลุงบอยด์จะเริ่มต้นจากหากใครสั่งซื้อทุเรียนตั้งแต่ 2 ลูกขึ้นไปจะแถมไม้เคาะให้ฟรี 1 อัน โดยเขามองว่าแม้จะต้องลงทุนเพิ่ม แต่ถ้าเทียบกับสิ่งที่ได้รับแล้วคุ้มค่าแน่นอน



               

      “เราลงทุนไม้เคาะทุเรียนแค่อันละ 20 กว่าบาท แต่สามารถขายได้ทุเรียนได้เป็นพันกว่าบาทก็ถือว่าคุ้ม ที่สำคัญ คือ เราได้สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า ซึ่งเราไม่ได้หวังให้เขาซื้อแค่ครั้งเดียวแล้วจบไป แต่อยากให้เขาได้มาเป็นลูกค้าประจำต่อไปในอนาคตด้วย เพราะเรามั่นใจในคุณภาพของทุเรียนที่คัดมาให้อยู่แล้ว ของเราจะเป็นเกรดเทียบ A, B ที่ขายในท้องตลาดได้เลย”
               

        นอกจากสร้างความประทับใจด้วยการแถมไม้เคาะไปให้แล้ว ยังมีการบรรจุลงในหีบห่ออย่างดี ทุเรียนแต่ละลูกจะมีการติดหมายเลข ราคา และน้ำหนักกำกับเอาไว้ด้วย เพื่อหากมีปัญหาจะได้สามารถติดตามได้ด้วย สำหรับค่าบริการในการจัดส่งทุเรียนนั้นจะอยู่ที่ราคาลูกละ 80 บาท ลูกต่อไป 50 บาท โดยนอกจากขายทุเรียนออนไลน์แบบเป็นลูกๆ อธิตศักดิ์ยังเริ่มทำตลาดในตัวเมืองชลบุรีด้วยตัวเอง โดยจะขายแบบเป็นทุเรียนแกะเนื้อเรียบร้อยแล้วกิโลกรัมละ 500 – 600 บาท ค่าจัดส่ง 5 – 10 กิโลเมตรแรก 30 บาท


       หากจะว่าไปการขายทุเรียนแถมไม้เคาะของอธิตศักดิ์ อาจไม่ใช่เพียงแค่ช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้า แต่ยังเป็นการสร้างความประทับใจและประสบการณ์แปลกใหม่ในการกินทุเรียนแบบที่ไม่มีใครทำมาก่อนด้วย
                


               

     “ถามว่าการสั่งซื้อรูปแบบที่เราทำกับการซื้อทุเรียนทั่วไปแตกต่างกันยังไง การที่เขาได้ดูแลทุเรียนลูกนี้ด้วยตัวเองคอยประคมประหงมตามคู่มือที่เราให้ไปจะทำให้เขารู้สึกว่าการได้กินทุเรียนครั้งนี้มีคุณค่ามากขึ้น ไม่เหมือนกับการซื้อทุเรียนทั่วไปที่กินแล้วก็จบไป แต่อันนี้เขาได้เลือกด้วยตัวเองตั้งแต่แรกและได้ดูแลเอง โดยลูกค้าบางคนก็ซื้อไปเป็นของฝาก บางคนก็ซื้อเอาไปกินกันในครอบครัวทำให้ได้ใช้เวลาร่วมกัน เป็นการสร้างประสบการณ์การกินทุเรียนที่แตกต่างไปจากเดิม โดยนอกจากจะได้ลิ้มรสชาติความอร่อยแล้ว ยังได้ความรู้สึกดีๆ พร้อมกันไปด้วย”


       นอกจากทุเรียนแล้วอธิตศักดิ์ยังคิดต่อยอดไปสู่ผลไม้อื่น เช่น มังคุดและเงาะด้วย เนื่องจากเป็นผลผลิตจากสวนเช่นกัน เพียงแต่อาจต้องขอลองหารูปแบบการขายที่จะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าให้ได้ก่อน


      เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างธุรกิจที่หาวิธีแก้ไขปัญหาและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าได้อย่างน่าสนใจ เชื่อแน่ว่าหากสวนต่างๆ สามารถสร้างช่องทางติดต่อสื่อสารกับผู้บริโภคได้โดยตรงเหมือนเช่นกับที่อธิตศักดิ์ทำได้ และตัดพ่อค้าคนกลางออกไป น่าจะเป็นวิธีช่วยลดปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำและการทำธุรกิจที่ยั่งยืนต่อไปได้ ผู้บริโภคเองก็จะได้รับสินค้าดีมีคุณภาพจากสวนได้โดยตรง
 



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

พลิกตำรายา 150 ปี สู่อาณาจักรสุขภาพแห่งอนาคต ทายาทขุนอภิบาลบ่อพลับ ร่วมสร้างธุรกิจครอบครัว

เป้าหมายการทำธุรกิจของหลายคนอาจเป็นเรื่องรายได้ แต่สำหรับ ต๊อก-ปีรัชด์ อนันตพันธ์ และ แต๊ก-ปานชาติ มิตรกูล มีเป้าหมายสร้างแบรนด์ "อภิบาลบ่อพลับ" เพื่อให้ทุกคนได้ระลึกถึงตำรายาไทย 150 ปี จากบรรพบุรุษของเขาที่ชื่อ ขุนอภิบาลบ่อพลับ

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย