ธุรกิจอะไร-จังหวัดไหน เปิดกิจการใหม่มากที่สุด

TEXT : กองบรรณาธิการ





     อยากรู้ไหมว่า ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คนเปิดกิจการอะไรมากที่สุด แล้วจังหวัดไหนที่ครองแชมป์เปิดกิจการใหม่สูงสุด
               

     พักจากเรื่องเครียดๆ อย่างตัวเลขปิดกิจการ มาดูข้อมูลที่พอจะเป็นความหวังอย่างตัวเลขเปิดกิจการใหม่กันบ้างดีกว่า ล่าสุดกรมพัฒนาธุรกิจการค้า รายงานตัวเลขการจดทะเบียนธุรกิจ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2564 พบข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
 
               
เดือนกุมภาพันธ์มีกิจการเปิดใหม่กว่า 7 พันราย
               

     ในเดือนแห่งความรักที่ผ่านมา มีจำนวนผู้ประกอบการที่ยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่ทั่วประเทศ อยู่ที่ 7,265 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนรวม 19,717.90 ล้านบาท โดยหากแบ่งตามช่วงทุน พบว่า ช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศสูงที่สุด คือ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท ที่จำนวน 5,780 ราย คิดเป็น 79.56 เปอร์เซ็นต์  รองลงมาคือธุรกิจที่มีช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท มีจำนวน 1,409 ราย คิดเป็น 19.39 เปอร์เซ็นต์ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 72 ราย คิดเป็น 0.99. เปอร์เซ็นต์ และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 4 ราย คิดเป็น 0.06 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ



               
               
ก่อสร้าง” กิจการยอดนิยมเปิดใหม่สูงสุด
               

     สำหรับประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก พบว่า ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ยังครองแชมป์คนเปิดกิจการมากที่สุด คือมีจำนวน 570 ราย หรือคิดเป็น 8 เปอร์เซ็นต์ รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีจำนวน 283 ราย คิดเป็น 4 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอันดับที่ 3 ตกเป็นของ ธุรกิจปลูกข้าวจ้าว ซึ่งจำนวน 225 ราย หรือคิดเป็น 3 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ
               

     โดยหากเปรียบเทียบกับธุรกิจที่เลิกกิจการในเดือนเดียวกัน พบว่า อันดับ 1 คือ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ที่จำนวน 53 ราย คิดเป็น 9 เปอร์เซ็นต์ ตามมาด้วย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 33 ราย คิดเป็น 6 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ธุรกิจภัตตาคาร และร้านอาหาร เลิกกิจการมาเป็นอันดับที่ 3 มีจำนวน 16 ราย คิดเป็น 3 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ



 
               
“กรุงเทพฯ” ครองแชมป์จังหวัดเปิดกิจการใหม่มากที่สุด
               

     สำหรับจังหวัดที่มีการจัดตั้งกิจการใหม่สูงสุด 5 อันดับแรก ประกอบด้วย 1.กรุงเทพมหานคร 2.นนทบุรี 3.ชลบุรี 4. สมุทรปราการ และ 5.ปทุมธานี
               

     โดยมีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้นจำนวน 34 ราย แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจ จำนวน 16 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ จำนวน 18 ราย มีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 3,768 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด อันดับหนึ่งยังเป็น ญี่ปุ่น มีจำนวน 11 ราย เงินลงทุน 1,475 ล้านบาท รองลงมา ได้แก่ สิงคโปร์ จำนวน 5 ราย เงินลงทุน 58 ล้านบาท และสหรัฐอเมริกา จำนวน 4 ราย เงินลงทุน 114 ล้านบาท ตามลำดับ
           

      หากนับถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบว่า มีธุรกิจที่ยังดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศทั้งสิ้น 781,829 ราย  มูลค่าทุน 19.26 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ที่ 190,849 ราย คิดเป็น 24.41 เปอร์เซ็นต์ บริษัทจำกัด จำนวน 589,696 ราย คิดเป็น 75.43 เปอร์เซ็นต์ และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,284 ราย คิดเป็น 0.16 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ
           

     ส่วนหากแบ่งธุรกิจตามช่วงทุน  ธุรกิจส่วนใหญ่มีช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 462,203 ราย คิดเป็น 59.12 เปอร์เซ็นต์ รวมมูลค่าทุน 0.41 ล้านล้านบาท คิดเป็น 2.12 เปอร์เซ็นต์ รองลงมา คือ ช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 230,901 ราย คิดเป็น 29.53 เปอร์เซ็นต์ รวมมูลค่าทุน 0.77 ล้านล้านบาท คิดเป็น 3.99 เปอร์เซ็นต์ ถัดไปคือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 72,599 ราย คิดเป็น 9.29 เปอร์เซ็นต์ รวมมูลค่าทุน 1.98 ล้านล้านบาท คิดเป็น 10.29 เปอร์เซ็นต์  และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 16,126 ราย คิดเป็น 2.06 เปอร์เซ็นต์ รวมมูลค่าทุน 16.11 ล้านล้านบาท คิดเป็น 83.60 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ 
        

     และนี่คือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการไทย ท่ามกลางวิกฤตไวรัสที่ทำให้หลายกิจการต้องปิดตัวลง แต่ก็ยังมีอีกหลายธุรกิจที่เห็นโอกาสและเริ่มต้นเปิดกิจการใหม่ เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้   
 
 
 


 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

พลิกตำรายา 150 ปี สู่อาณาจักรสุขภาพแห่งอนาคต ทายาทขุนอภิบาลบ่อพลับ ร่วมสร้างธุรกิจครอบครัว

เป้าหมายการทำธุรกิจของหลายคนอาจเป็นเรื่องรายได้ แต่สำหรับ ต๊อก-ปีรัชด์ อนันตพันธ์ และ แต๊ก-ปานชาติ มิตรกูล มีเป้าหมายสร้างแบรนด์ "อภิบาลบ่อพลับ" เพื่อให้ทุกคนได้ระลึกถึงตำรายาไทย 150 ปี จากบรรพบุรุษของเขาที่ชื่อ ขุนอภิบาลบ่อพลับ

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย