“เปรม ฟิตเนส” จุดนัดพบคนรักสุขภาพเมืองหนองคาย ที่ใช้ความชอบมาต่อประกอบเป็นธุรกิจ

TEXT : กองบรรณาธิการ
PHOTO : เปรม ฟิตเนส





     ที่หนองคาย ธุรกิจสถานที่ออกกำลังกายกำลังเติบโตคึกคัก และมีรูปแบบบริการที่ครบและจัดเต็มไม่ต่างจากในกรุงเทพและจังหวัดใหญ่ๆ หนึ่งในผู้บุกเบิกธุรกิจนี้ในเมืองหนองคาย คือ “เปรมปรีดิ์ พานเสน่ห์ศรี” กรรมการผู้จัดการ บริษัท พราวด์ ไอเดีย จำกัด เจ้าของ “เปรม ฟิตเนส” (PREM FITNESS) จุดนัดพบคนรักสุขภาพที่อยู่ตรงข้างวัดโพธิ์ชัย ติดถนนหนองคาย-โพนพิสัย อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย  
               

     ทำไมเมืองหนองคายถึงมีฟิตเนสคูลๆ แล้วธุรกิจนี้เวิร์กแค่ไหน ไปหาคำตอบกัน



 
           
เริ่มจากความรัก สร้างธุรกิจจาก Passion
               

     “เปรม ฟิตเนส” เป็นสถานออกกำลังกายที่ให้บริการคนหนองคายมาได้ประมาณ 3 ปีแล้ว โดยจุดเริ่มต้นเกิดจากชายชื่อ “เปรมปรีดิ์” ที่สนใจรักสุขภาพ อยากมีรูปร่างที่ดี สุขภาพแข็งแรง จึงตัดสินใจที่จะนำความชอบนี้มาทำเป็นธุรกิจฟิตเนส  เพื่อให้คนหนองคาย ทุกเพศ ทุกวัย มีสถานที่ออกกำลังกายที่มีคุณภาพมาตรฐาน ได้รับการบริการที่ครบถ้วนและหลากหลายเหมือนที่ฟิตเนสใหญ่ๆ เขามีกัน
               

      “ที่ผ่านมาจังหวัดหนองคายยังไม่มีฟิตเนสที่ดี หรือยังไม่มีขนาดที่ใหญ่เพียงพอกับความต้องการของคนในพื้นที่ ผมจึงเริ่มศึกษาหาข้อมูลการทำธุรกิจอย่างจริงจัง ทั้งเดินทางไปเรียนรู้การทำฟิตเนสจากสถานที่ต่าง ๆ พร้อมกับปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ทั้งในเรื่องอุปกรณ์ การบริหารจัดการ ตลอดจนระบบการจัดการต่างๆ โดยใช้เวลาอยู่กว่า 3 ปี ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนและพัฒนาเป็นเปรม ฟิตเนส อย่างในทุกวันนี้” เปรมปรีดิ์ เล่าถึงจุดเริ่มต้น
               
 
     แม้จะเป็นฟิตเนสน้องใหม่ในตอนนั้น แต่ เปรม ฟิตเนส  ก็จัดเต็มบริการอย่างมืออาชีพ และครบวงจร  มีความพร้อมทั้งองค์ความรู้ บุคลากร และสถานที่  จัดเต็มอุปกรณ์ออกกำลังกายที่ทันสมัย นำเข้าจากต่างประเทศ เทรนเนอร์มีประสบการณ์ และรูปแบบการออกกำลังกายที่ลูกค้าสามารถเลือกเองได้ตามจริตและความชอบ เช่น การฝึกใช้น้ำหนัก, คลาสโยคะ, คลาสยืดเหยียด และคลาสเต้น ที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นการออกกำลังประเภทกลุ่ม โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงเกือบทุกวัย ประมาณคลาสละ 20-30 คน



 
               
คิดรูปแบบบริการสร้างลูกค้าจากฐานสมาชิก
           

     เปรม ฟิตเนส ออกแบบบริการจากการสร้างฐานสมาชิก โดยรายได้หลักมาจากค่าสมาชิก ที่มีทั้งแบบรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน และรายปี เฉลี่ยอยู่ที่เดือนละ 1,500 บาทต่อคน แต่หากสมัครตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป จะอยู่ที่ 4,200 บาทต่อคน โดยขึ้นอยู่กับการจัดโปรโมชั่นในช่วงเวลานั้นๆ ด้วย  ส่วนรายได้อื่นๆ เป็นส่วนเสริมเติมมา เช่น การขายเครื่องดื่ม และค่าเทรนเนอร์ เป็นต้น
               

      ลูกค้าหลักของ เปรม ฟิตเนส มีทั้งคนหนองคายและคนต่างชาติที่อยู่ในหนองคาย อายุตั้งแต่ 15-60 ปี หลากหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ ต้องการให้ร่างกายแข็งแรง รวมถึงผู้คนที่ไม่ชอบไปสวนสาธารณะ ไม่อยากเจออากาศร้อน ก็มาขึ้นสายพานออกกำลังกายที่เปรม ฟิตเนส หรือกลุ่มที่ต้องการทำกายภาพ เป็นต้น โดยเขาตั้งเป้าหมายรักษาฐานลูกค่าที่เป็นสมาชิกเฉลี่ยอยู่ที่ 300 ราย
               

      ในส่วนของการทำตลาด เขาสื่อสารครอบคลุมทุกกลุ่มทุกวัย พร้อมทำโปรโมชั่นเพื่อเพิ่มยอดการเข้าสมัครสมาชิก ทั้งช่วงเทศกาลท่องเที่ยว เช่น ปีใหม่ คริสต์มาส สงกรานต์ ฯลฯ ซึ่งเป็นช่วงที่มีคนเข้ามาใช้บริการน้อย โดยจัดโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการมากขึ้น ส่วนช่วงที่ดีสุดของธุรกิจจะเป็นฤดูฝน เนื่องจากการออกกำลังกายกลางแจ้งไม่ได้ ลูกค้าก็จะเข้ามาใช้บริการฟิตเนสเพิ่มขึ้นนั่นเอง



               
               
รับมือวิกฤตโควิด-19 รักษาเงินทุนหมุนเวียน รักษาสภาพคล่องธุรกิจ
           

       หลังการมาถึงของสถานการณ์โควิด-19 คือบทเรียนสำคัญที่โถมใส่เปรมฟิตเนส เปรมปรีดิ์ ยอมรับว่าเขาเป็นธุรกิจน้องใหม่ที่ยังต้องใช้เวลาในการทำให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโต โดยในช่วง 1-2 ปีแรก ยังเป็นช่วงของการพัฒนา ที่ต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายเข้ามารองรับการใช้บริการ สิ่งที่เขาทำควบคู่กันก็คือการลดต้นทุนจากส่วนอื่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างรายได้ ทว่าเมื่อเจอโควิด-19 ทั้งรอบแรก และการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ทุกอย่างกลับต้องหยุดชะงักลง รายได้ที่เคยเข้ามาต้องหดหายลงไป สวนทางกับค่าใช้จ่ายประจำที่ยังคงมีอยู่


      และการต้องปิดให้บริการตามมาตรการควบคุมของภาครัฐ ทำให้สภาพคล่องไม่เพียงพอ สิ่งที่เปรมปรีดิ์เลือกทำคือไปปรึกษาธนาคาร เพื่อขอความช่วยเหลือด้านเงินทุน จนได้เงินทุนจากสินเชื่อรายเล็ก Extra Cash ที่ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันของ SME D Bank  มาเสริมเงินทุนหมุนเวียน จนประคับประคองธุรกิจและรักษาการสภาพการจ้างงานไว้ได้อย่างต่อเนื่อง
               

     สำหรับแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจในอนาคตท่ามกลางความยากลำบากและความท้าทายของธุรกิจ เขาบอกว่าจะเร่งทำตลาดเพิ่มขึ้น เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ เช่น จัดโปรโมชั่นลดค่าสมัครสมาชิกเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น พร้อมทำการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้ และเน้นสร้างความเข้าใจ ผ่านการบอกต่อของคนในพื้นที่ ตลอดจนการลงโฆษณาผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย และออกบูธตามสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดหนองคาย ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อรายได้ให้กับบริษัทเพิ่มขึ้นในอนาคต
               

       และนี่คือเรื่องราวของ SME  ที่มีวิชันอยากสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับจังหวัดของตัวเอง จนก่อเกิดเป็นโอกาสธุรกิจใหม่ ที่ยังคงเติบโตได้อีกมาก ท่ามกลางเทรนด์ของคนที่รักและดูแลสุขภาพกันมากขึ้นในยุคนี้  
               
 




 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

พลิกตำรายา 150 ปี สู่อาณาจักรสุขภาพแห่งอนาคต ทายาทขุนอภิบาลบ่อพลับ ร่วมสร้างธุรกิจครอบครัว

เป้าหมายการทำธุรกิจของหลายคนอาจเป็นเรื่องรายได้ แต่สำหรับ ต๊อก-ปีรัชด์ อนันตพันธ์ และ แต๊ก-ปานชาติ มิตรกูล มีเป้าหมายสร้างแบรนด์ "อภิบาลบ่อพลับ" เพื่อให้ทุกคนได้ระลึกถึงตำรายาไทย 150 ปี จากบรรพบุรุษของเขาที่ชื่อ ขุนอภิบาลบ่อพลับ

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย