Laika ขนมสุนัขจากโปรตีนแมลง แก้ปัญหา Food Waste เปลี่ยนน้องหมาเป็นฮีโร่กู้โลก

TEXT : กองบรรณาธิการ
PHOTO : Laika





     ขนมในซองน่ารัก มีน้องหมานักสู้เป็นพรีเซนเตอร์ ตัวขนมปั๊มเป็นรูปหน้าน้องหมา แถมยังใช้ชื่อว่า “Laika” (ไลก้า) ชื่อเดียวกับน้องหมาที่ถูกส่งไปสำรวจอวกาศเมื่อ 60 ปีก่อน บ่งบอกชัดว่านี่คือ “ขนมสุนัข” แต่ไม่ใช่ขนมธรรมดาๆ เพราะทำมาจากโปรตีนแมลง แถมยังช่วยแก้ปัญหา Food Waste ดีต่อสุขภาพน้องหมาและดีต่อสุขภาพของโลกเราด้วย


     นี่คือผลงานของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ที่รักน้องหมา ใส่ใจโลกและสิ่งแวดล้อม “เพชร-พชรพล อัจฉริยะศิลป์” และ“โด่ง-อิทธิกร เทพมณี” สองผู้ก่อตั้ง แบรนด์ Laika คนหนึ่งเคยทำงานในบริษัทที่ปรึกษาเกี่ยวกับ Digital Transformation ทำหน้าที่พัฒนา Business Model ใหม่ๆ ให้กับบริษัทต่างๆ สนใจเรื่องเทรนด์อนาคตและความมั่นคงทางอาหาร ส่วนอีกคนเป็นนักวิเคราะห์การเงิน ที่สนใจแหล่งโปรตีนทางเลือกอย่างแมลง ทั้งสองต่างเลี้ยงน้องหมา จึงชวนกันมาสร้างแบรนด์ Laika ที่กำลังเปลี่ยนบทบาทของน้องหมาให้เป็น “ฮีโร่กู้โลก”



 

ไม่ใช่แค่ขนมน้องหมา แต่คือโมเดลแก้ปัญหา Food Waste


     Laika ไม่ใช่แค่ผู้ผลิตขนมสุนัขที่สร้างความแตกต่างด้วยการใช้โปรตีนจากแมลงมาทำเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนวงจรธุรกิจให้ดีต่อโลกด้วยแนวคิด Circular Economy (เศรษฐกิจหมุนเวียน) โดยต้นทางการทำงานของพวกเขา เริ่มจากนำเศษผักและผลไม้ที่เหลือทิ้งจากโรงงานแปรรูปอาหารมาทำเป็นอาหารเลี้ยงแมลงในฟาร์ม เพื่อลดปัญหาขยะอาหาร (Food Waste) นำแมลงมาทำเป็นขนมน้องหมาจากโปรตีนแมลง ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนที่มีคุณภาพสูงในปัจจุบัน มูลของแมลงถูกส่งไปเป็นปุ๋ยใช้ปลูกผักและผลไม้ออร์แกนิก เพื่อก่อเกิดผลผลิตคุณภาพส่งกลับมาเป็นอาหารป้อนผู้คนบนโลกอีกครั้ง ฉะนั้นทุกครั้งที่น้องหมาได้กินขนมโปรตีนที่มีคุณภาพอย่าง Laika นอกจากจะดีต่อสุขภาพของน้องหมาแล้ว ก็ยังดีต่อสุขภาพของโลกไปพร้อมกันด้วย    


     “ในขณะที่คนเรามีทางเลือกมากมายที่จะดูแลโลกและสิ่งแวดล้อม เรามีอาหารแพลนต์เบสที่ดีต่อโลก เรามีถุงผ้ามีผลิตภัณฑ์รักษ์โลกใช้ แต่กับน้องหมาไม่มีใครพูดถึงเลย เราเลยคิดว่าน้องหมาควรจะมีทางเลือก คือมีผลิตภัณฑ์ให้เขาเลือกได้ว่านอกจากจะดีกับน้องหมาแล้วก็ยังดีต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย นั่นคือที่มาของ Laika ที่มีแนวคิดว่า เป็นขนมสุนัขกู้โลก เพราะน้องหมาก็เป็นประชากรของโลกใบนี้ ที่สามารถช่วยดูแลโลกได้เหมือนกัน”
               

     “พชรพล อัจฉริยะศิลป์” หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์ Laika บอกกับเราถึงที่มาของขนมสุนัขกู้โลก ที่เขาและเพื่อนร่วมกันปลุกปั้นขึ้น


     โดยเริ่มจากฟาร์มแมลงเล็กๆ บนพื้นที่กว่า 40 ตารางเมตร ผลิตโปรตีนจากแมลงวันละประมาณ 5 กิโลกรัม และกำลังวางแผนขยายฟาร์มแมลงเพื่อขยายกำลังการผลิตให้มากขึ้น โดยตั้งเป้าที่จะช่วยกำจัด Food Waste ได้ที่ประมาณ 100 ตันต่อปี  



 
 
ใส่ใจเรื่องวัตถุดิบ ตอบคุณค่าทางโภชนาการของน้องหมา


     Laika ไม่ได้ให้ความสำคัญกับแค่เรื่องของสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่พวกเขายังใส่ใจถึงคุณค่าทางโภชนาการที่น้องหมาควรจะได้รับด้วย ผลิตภัณฑ์แต่ละตัวจึงถูกออกแบบโดยสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และนักโภชนาการสัตว์เล็กโดยเฉพาะ  เป็นขนมสุนัขที่ไร้สารเคมี ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ ใช้โปรตีนธรรมชาติเน้นๆ ไม่แต่งสี ไม่แต่งกลิ่น  ไม่ใส่สารกันบูด  ไม่มีเศษเนื้อ ไม่มีฮอร์โมน ไม่มียาปฏิชีวนะ ปลอดภัยสำหรับสุนัข ขณะที่โปรตีนจากแมลงมี Amino Acid ครบตามความต้องการของน้องหมา ซึ่งแมลงนอกจากจะมีโปรตีนที่สูงแล้ว ยังมีแร่ธาตุสำคัญๆ เช่น ซิงค์ ซีลีเนียม แมงกานีส ซึ่งซิงค์ช่วยเรื่องขน ผิว เล็บ และภูมิคุ้มกัน สำหรับสุนัขอีกด้วย


     เริ่มต้นพวกเขาพัฒนาออกมา 2 สูตร คือ ถุงสีเหลืองชื่อ “Happy Vitamins” มีจุดเด่นคือกินแล้วสุขภาพแข็งแรง ดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน มีวิตามินสูง โดยใส่ส่วนผสมอย่างแครอท ฟักทอง และมันม่วงลงไปด้วย และถุงสีฟ้า “Cotton Touch” ดีต่อขนและผิวหนัง เพราะมีส่วนผสมของน้ำมันปลา มีโอเมก้า 3 และ 6 ที่สมดุลช่วยให้สุขภาพผิวและขนแข็งแรงและสวยงาม ใส่เมล็ดเจีย ไข่ขาว เห็ดชิตาเกะ มันเทศ น้ำมันแมลง ข้าวกล้อง และข้าวไรซ์เบอร์รี่ เพิ่มคุณค่าให้กับขนมของน้องหมาอย่างเต็มที่ แถมยังมีรสอูมามิที่น้องหมาชื่นชอบอีกด้วย โดยจำหน่ายในราคาซองละ 150 บาท ขายผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก และมีออกบูธในงานแสดงสินค้าต่างๆ ด้วย



 

พัฒนาจากขนมกินเล่น สู่อาหารที่น้องหมากินได้ทุกวัน


     Laika เริ่มต้นจากขนมของน้องหมา และเร็วๆ นี้ก็จะมีสูตรใหม่ออกมาให้ลองลิ้มอีกด้วย แต่ในอนาคต พชรพล บอกเราว่า อยากพัฒนากลุ่มอาหารสุนัขที่น้องหมาจะทานได้ทุกวัน ขยับโอกาสธุรกิจให้เติบโตได้มากขึ้น แน่นอนว่ามันหมายถึงการจะได้ช่วยโลก สร้างผลกระทบต่อโลกใบนี้ได้มากขึ้นเช่นเดียวกัน
 

     “ตัวสินค้าเรามีการพัฒนาอยู่เรื่อยๆ โดยอยากจะพัฒนาไปสู่อาหารที่เขาสามารถกินได้ประจำวัน ตอนนี้เรายังเริ่มจากแค่ขนม เป็นเหมือนกินเพื่อเสริมมากกว่า แต่ในอนาคตเราอยากจะทำเป็นอาหารหลักที่เขาจะกินได้ทุกวัน นี่คือเหตุผลที่เรามองเรื่องของการขยายฟาร์มเพราะต้องใช้โปรตีนเยอะขึ้น และแน่นอนว่าผลกระทบที่เราจะสร้างเพื่อลด Food Waste พวกนี้ก็จะทำได้เยอะขึ้นด้วย ผมว่ามันก็วิน-วินนะ เพราะน้องหมาเองก็จะได้กินของที่ดีทุกวัน และยังช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน”


     เร็วๆ นี้ฟาร์มของพวกเขาที่สุขุมวิท กำลังจะย้ายไปอยู่แถวลาดกระบัง เพื่อจะได้ยื่นขอใบอนุญาตให้ถูกต้องพร้อมส่งออกได้ เพราะฟาร์มแมลงถือเป็นพื้นที่เกษตรชนิดหนึ่งที่ต้องอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมและได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง


 

     สำหรับโอกาสธุรกิจนี้เขามองว่ายังคงเติบโตได้อีกเยอะมาก จากผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงและตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงที่เติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี และมีขนาดใหญ่ คนเลี้ยงสัตว์เพิ่มมากขึ้น และใส่ใจคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่ดีให้กับสัตว์เลี้ยงของตัวเองมากขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งนั่นคือโอกาสของสินค้าคุณภาพสำหรับสัตว์เลี้ยงอย่าง Laika


     “วันนี้คนที่รักสัตว์เลี้ยงมีความเข้าใจในเรื่องอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงเยอะขึ้น กลุ่มคนที่รักสุนัขและใส่ใจสิ่งแวดล้อมก็เริ่มเห็นเยอะขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งลูกค้าของเราไม่ได้มีเพียงเจ้าของสัตว์เลี้ยงเท่านั้น บางคนมาซื้อเพราะเขาเห็นว่าสินค้าของเราดีต่อโลก ก็ซื้อไปให้เพื่อนที่มีน้องหมา ซึ่งมองว่านี่เป็นสัญญานที่ดี วันนี้คนเลือกกินอาหารที่ดีมากขึ้น เขาเข้าถึงสื่อที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลตัวเองได้ดีขึ้น ก็ส่งต่อไปยังน้องหมาของเขาด้วย เพราะน้องหมาเป็นเหมือนคนในครอบครัว เขาก็ย่อมอยากซื้อสิ่งที่ดีที่สุดให้กับน้องหมาด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งนั่นคือโอกาสของเรา”


     ด้านหลังซอง Laika มีแก๊งน้องหมาฝูงใหญ่ ต่างคาแรกเตอร์ ต่างสายพันธุ์ บางตัวน่ารัก บางตัวขี้เล่น บางตัวสวยเด่น บางตัวดูเป็นเด็กเนิร์ด  และทุกตัวไม่ได้เป็นน้องหมาแชมเปี้ยน เพื่อสะท้อนว่า ไม่ว่าใคร จะตัวเล็กแค่ไหน ก็สามารถช่วยกู้โลกได้ เช่นเดียวกับแก๊งน้องหมากลุ่มนี้


      และนี่คือเรื่องราวของพวกเขา คนทำแบรนด์เล็กๆ ที่กำลังสร้างสิ่งยิ่งใหญ่ เริ่มจากทำขนมสุนัขจากโปรตีนแมลง ที่ช่วยแก้ปัญหา Food Waste ก่อนเปลี่ยนน้องหมาเป็นฮีโร่กู้โลกไปพร้อมกับผู้คนบนโลกนี้
 




 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

พลิกตำรายา 150 ปี สู่อาณาจักรสุขภาพแห่งอนาคต ทายาทขุนอภิบาลบ่อพลับ ร่วมสร้างธุรกิจครอบครัว

เป้าหมายการทำธุรกิจของหลายคนอาจเป็นเรื่องรายได้ แต่สำหรับ ต๊อก-ปีรัชด์ อนันตพันธ์ และ แต๊ก-ปานชาติ มิตรกูล มีเป้าหมายสร้างแบรนด์ "อภิบาลบ่อพลับ" เพื่อให้ทุกคนได้ระลึกถึงตำรายาไทย 150 ปี จากบรรพบุรุษของเขาที่ชื่อ ขุนอภิบาลบ่อพลับ

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย