PHOTO : Organic Seeds
ด้วยไลฟ์สไตล์ผู้คนยุคนี้ที่เปลี่ยนแปลงไปและเต็มไปด้วยความเร่งรีบ แม้แต่การเลือกรับประทานอาหารก็ต้องเลือกแบบสะดวก รวดเร็ว ส่งผลไปถึงกระบวนการผลิต ตั้งแต่การเพาะปลูกเพาะเลี้ยงที่ทุกวันนี้ก็ต่างต้องถูกเร่งรีบไปด้วยเพื่อให้ออกมาทันกับความต้องการของผู้บริโภค ทำให้คุณค่าของสารอาหารที่ได้กลับไม่ครบถ้วนเหมือนเก่า แถมอาจต้องปนเปื้อนจากสารเคมีที่นำมาใช้ด้วย
จากการมองเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นบวกกับประสบการณ์การใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศมานาน ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่มักหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพกันมากขึ้นตั้งแต่การเลือกรับประทานอาหาร เพื่อป้องกันโรคภัยไข้เจ็บในอนาคตที่อาจเกิดขึ้น จึงทำให้ ดร.ฐิติพร ว่องวิชญกร ด็อกเตอร์ปริญญาเอกด้านกฎหมายจากประเทศออสเตรเลียที่ได้ออกไปเห็นโลกกว้าง วันหนึ่งเมื่อได้เดินทางกลับมาเมืองไทยจึงนำสิ่งดี ๆ เหล่านั้นกลับมาด้วย เปิดเป็นธุรกิจนำเข้าผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่เรียกว่า “Super Food” เข้ามาจำหน่ายเป็นรายแรกในไทย โดยมี รติพรรณ ว่องวิชญกร น้องสาวนักวิจัยจากประเทศเยอรมันนี (ปริญญาตรี) ซึ่งปัจจุบันกำลังศึกษาปริญญาโทใบที่สองด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ (Anti-Aging) เข้ามาช่วยพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์ จำหน่ายภายใต้แบรนด์ “Organic Seeds”
“มันเริ่มจากที่เราไปเรียนต่อด้านกฎหมายทั้งปริญญาโทและปริญญาเอกอยู่ออสเตรเลียนานถึง 8 ปี ทำให้ได้ซึมซับไลฟ์สไตล์บางอย่างของผู้คนที่นั่นกลับมาด้วย คือ ไม่ว่าเข้าร้านคาเฟ่หรือร้านอาหารไหน ๆ ก็มักจะได้เห็นเมนูสมูทตี้โบวล์ชื่อเรียกแปลก ๆ เช่น อาซาอิ สมูทตี้, สไปรูลิน่า สมูทตี้ อยู่เต็มไปหมด ก็เลยไปเสิร์ชดูว่าคืออะไร และก็พบว่ามีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์เยอะมาก โดยจะเรียกรวม ๆ กันว่า Super Food เป็นสิ่งที่เข้ามาช่วยเสริมสารอาหารที่ดีให้กับร่างกาย เพราะทุกวันนี้ในแต่ละวันเราไม่มีทางรับประทานอาหารได้ครบตามโภชนาการอยู่แล้วจากความเร่งรีบที่เกิดขึ้น
“พอกลับเมืองไทย ก็อยากนำสิ่งดี ๆ มาสู่คนไทย จึงนำเข้ามาตั้งแต่ปี 2558 เรียกว่าเป็นเจ้าแรกเลยก็ว่าได้ เพราะตอนนั้นเมืองไทยยังไม่ตื่นตัวเรื่องสุขภาพเท่าทุกวันนี้ แต่เราเล็งเห็นแล้วว่ามันไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่เป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นในอนาคตและน่าจะเป็นวิธีการที่เหมาะกับผู้คนยุคนี้ได้ดี เราจึงอยากนำตรงนี้เข้ามาตอบโจทย์ เพราะมันคือรูปแบบของอาหารสุขภาพที่สะดวก รวดเร็ว พกพาไปที่ไหน ๆ ก็หยิบขึ้นมารับประทานได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก สะดวก และได้ประโยชน์เยอะกว่าเหมือนทำน้อยแต่ได้มาก เช่น การรับประทานเมล็ดเชีย 3 ช้อนโต๊ะ จะได้รับแคลเซียมมากกว่าการดื่มนม 1 แก้ว เป็นต้น นี่คือ คุณสมบัติของ Super Food จากนั้นจึงเริ่มศึกษาว่ามีอาหารอะไรอีกบ้างที่เป็น Super Food และนำเข้ามา เพราะเราอยากให้คนไทยได้ลองเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ตัวเองและเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพตั้งแต่การเริ่มต้นกินอาหารที่ดี เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยก่อนที่จะเกิดขึ้น ซึ่งไม่ใช่สิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นในโลก เป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว เพียงแต่เป็นวัฒนธรรมของประเทศอื่น ยังไม่แพร่หลายในประเทศไทย” ดร.ฐิติพรเล่าถึงที่มาแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจให้ฟัง
แม้จะมีประโยชน์และคุณสมบัติที่ดีมากมายต่อร่างกาย แต่เนื่องจากเป็นสิ่งใหม่ที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก การจะทำให้ผู้บริโภคเปิดใจยอมรับไม่ใช่เรื่องง่าย แม้จะทำการสื่อสารอย่างหนักผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์อย่างไรก็ตาม ดร.ฐิติพรได้เล็งเห็นความสำคัญจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาตรฐานระดับโลกมาช่วยเป็นเครื่องการันตีผลิตภัณฑ์
โดยตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบันสินค้าภายใต้ Organic Seeds ล้วนได้รับการรับรองมาตรฐานให้เป็นสินค้าออร์แกนิกที่มีใบ Certificate หรือหนังสือรับรองจาก EU และ USDA ซึ่งต้องมีการมาตรวจมาตรฐานเป็นประจำทุกปี จึงทำให้แม้เป็นสิ่งใหม่ แต่ก็ได้รับความเชื่อมั่นและไม่มีใครสงสัยในเรื่องคุณภาพ
นอกจากเรื่องสุขภาพทั่วไปแล้ว ในทุกวันนี้ที่เมืองไทยเองยังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุด้วย จึงอาจเรียกได้ว่าเป็นจังหวะดีของ Organic Seeds ที่ได้เริ่มต้นทำธุรกิจขึ้นมาตั้งแต่ช่วงแรกที่เทรนด์สุขภาพยังไม่ตื่นตัวอย่างทุกวันนี้ ซึ่งในส่วนนี้ก็ได้ รติพรรณ น้องสาวซึ่งได้ร่ำเรียนมาทางด้านฟู้ดไซน์โดยตรง และกำลังศึกษาต่อด้าน Anti-Aging เข้ามาถือเป็นองค์ประกอบหลักในการช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ออกมามีคุณภาพและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้
“นอกจากจะต้องมีประโยชน์แล้ว ส่วนที่ยากของการทำ Super Food ให้ออกมาถูกใจผู้บริโภค ก็คือ ทำยังไงให้รับประทานได้อร่อยรสชาติถูกปากและมีประโยชน์ด้วย รับประทานแล้วไม่เหมือนกับอาหารนก และผักเหม็นเขียว ผู้บริโภคถึงจะอยากรับประทานได้บ่อย ๆ ซึ่งตรงนี้ถือเป็นจุดเด่นของ Organic Seeds เลย เพราะนอกจากตัววัตถุดิบที่นำเข้ามาจำหน่ายโดยตรงแล้ว บางอย่างเรามีการคิดสูตรขึ้นมา เพื่อให้รับประทานได้ง่ายและอร่อยขึ้น อย่างตัวกรีนมิกซ์กับเบอรี่มิกซ์เรามีการนำรสชาติและสารอาหารจากผงผักผลไม้ 5 ชนิดเข้าไว้รวมกัน โดยไม่ได้ปรุงแต่งรสชาติแต่อย่างใด แต่ใช้รสชาติธรรมชาติจากวัตถุดิบเองนำมาปรุงให้เกิดความพอดีและอร่อย เป็น 2 รายการที่ขายดีมาก ซึ่งเราก็เป็นรายแรก ๆ ที่ทำขึ้นมาในไทยอีกเช่นกัน อย่างผงกรีนมิกซ์ของเรา 1 ซองมีไฟเบอร์เท่ากับผัก 100 กรัม หรือสลัดหนึ่งจานเลยทีเดียว” รติพรรณเล่าจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ให้ฟัง
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของ Organic Seeds มีผลิตออกมามากกว่า 20 รายการด้วยกัน จำหน่ายทั้งในรูปแบบของวัตถุดิบโดยตรงเพื่อนำไปประกอบอาหารต่อ และรูปแบบสำเร็จรูปที่สามารถรับประทานได้เลย โดยจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์และร้านสุขภาพทั่วไป เช่น กูร์เมต์, เลมอน ฟาร์ม, ใบเมี่ยง, ร้านขายยา P & F และร้านสบายใจ ราคาเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์อยู่ที่ 40 – 600 บาท โดยหากถามถึงจุดเด่นของแบรนด์ รวมถึงมุมมองการทำธุรกิจ เพื่อให้ยังคงเป็นผู้นำตลาดต่อไป ทั้งคู่ได้ตอบว่า
“เราเป็นแบรนด์ Super Food ที่มีความจริงจังและให้ความสำคัญกับมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ค่อนข้างสูง เพราะตัวเราเองเป็นคนที่เวลาทำอะไรก็มักจะมีมาตรฐานสูงกับตัวเองอยู่แล้ว นอกจากนี้เรายังมีความรู้จริง ศึกษาจริง ไม่ใช่แค่ทำตามเทรนด์ แต่พยายามเรียนรู้และหาสิ่งที่จะมาตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคให้ดีที่สุด เรามีความจริงใจกับผู้บริโภค เพราะเรารับประทานยังไง ก็อยากให้ผู้อื่นได้รับประทานสิ่งดี ๆ อย่างนั้นเช่นกัน ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าไม่มีวันที่เราจะทำสินค้าคุณภาพต่ำออกมาแน่นอน ถ้ารู้ว่าอันไหน คือ The Best เราเลือกอันนั้น
“ที่สำคัญ คือ ในฐานะผู้ผลิตและผู้จำหน่ายอาหาร ครั้งหนึ่งเราเคยได้เข้าอบรมจากสถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา ซึ่งมีแง่คิดหนึ่งทำให้เราจดจำและเป็นคติประจำใจมาจนทุกวันนี้ คือ อาจารย์กล่าวว่าในฐานะผู้ประกอบการด้านอาหารสิ่งที่จะผลิตออกสู่สังคมจะส่งผลให้เกิดคุณค่าไปในทิศทางไหนก็ได้ ถ้าคุณเลือกผลิตสินค้าที่ดีมีประโยชน์กับผู้บริโภค ไม่ได้โฆษณาอวดอ้างเกินจริง คือ คุณได้สร้างคุณค่าให้แก่สังคมแล้ว ซึ่งทุกวันนี้เวลามีลูกค้ารีวิวกลับมาว่าเขาใช้ผลิตภัณฑ์ของเราแล้วทำให้เขาดีขึ้นยังไงบ้าง อย่าหยุดทำนะ อยากให้ทำของดี ๆ แบบนี้ออกมาอีก แค่นี้มันตอบโจทย์ทุกอย่างให้เราได้หมดแล้วกับสิ่งที่ตั้งใจทำมา และแน่นอนเราจะไม่หยุดแค่นี้ จะพัฒนาและทำให้ดียิ่งขึ้นไปอีกรับรอง” สองพี่น้องเจ้าของแบรนด์ Organic Seeds กล่าวทิ้งท้ายเอาไว้
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี