ไส้กรอกแดง “แหลมทอง” ทำไมถึงอร่อยที่สุด และใครคือเจ้าของตัวจริง?

TEXT : กองบรรณาธิการ




               
      ถ้าใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ไส้กรอกแดง ต้องรู้แน่ว่าหนึ่งในแบรนด์อันดับต้นๆ ระดับตำนานที่ใครๆ ต่างก็พูดถึงยอมรับในรสชาติความอร่อยและคุณภาพ ต้องมีชื่อของ “ไส้กรอกแดงแหลมทอง” รวมอยู่ด้วยแน่นอน จนเกิดเป็นกระแสในโลกโซเชียล มีลูกค้าตัวจริงเสียงจริงออกมาช่วยยืนยันให้การสนับสนุนมากมายตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้ก็ยังถูกพูดถึงอยู่
               

     หากจะกล่าวถึงเรื่องราวความเป็นมาของไส้กรอกแดง พาลให้นึกไปถึงร้านลูกชิ้นทอดหน้าโรงเรียนที่แต่เดิมจะขายคู่กันทั้งลูกชิ้นปลาระเบิด (บางคนเรียกว่าลูกชิ้นเหม็น) และไส้กรอกสีแดง ที่เวลาทอดมักมีเอกลักษณ์จะต้องทอดให้กรอบและพองจนถึงขีดสุด คล้ายกับว่าจะระเบิดออกมา เมื่อทอดเสร็จก็มักจะยุบตัวลง เพื่อให้คงความกรอบนอกนุ่มในเอาไว้ จากนั้นจะราดด้วยน้ำจิ้มเหนียวข้นสีน้ำตาลที่มีทั้งรสหวาน เปรี้ยว เผ็ด กลมกล่อมครบสามรส เป็นรสชาติของลูกชิ้นทอดในตำนานที่ยังติดตราตรึงใจของใครหลายคน ด้วยเอกลักษณ์ที่มีเมื่อวันเวลาผ่านไปจึงมีหลายคนหยิบนำมาสร้างเป็นแบรนด์จริงจังขึ้นมาหลายแบรนด์ด้วยกัน อาทิ ไจแอ้น, ซูโม่, เศรษฐีเรือทอง ฯลฯ
               

     โดยจากที่ลองสำรวจข้อมูลในท้องตลาด แบรนด์ไส้กรอกแดงที่มักได้รับความนิยมจากพ่อค้าแม่ค้าร้านลูกชิ้นทอด รวมไปถึงรถเข็นขายลูกปิ้งทั่วไป จนติดอกติดใจลูกค้า ก็คือ แบรนด์แหลมทอง แต่ก่อนจะไปรู้เหตุผลว่าเพราะเหตุใด เราลองมาทำความรู้จักกับเจ้าของตัวจริงกันเสียก่อน



 
           
“ใคร” คือเจ้าของตัวจริง


     ไส้กรอกแดงแหลมทอง คือหนึ่งในผลิตภัณฑ์ยอดนิยมที่ผลิตขึ้นมาจากกลุ่มบริษัทแหลมทองสหการ บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการเกษตรหลายตัวด้วยกัน ตั้งแต่ แป้งสาลี ไข่ไก่ ไก่สด ไก่ปรุงสุก ไส้กรอก ลูกชิ้น จนถึงนมเปรี้ยว โดยเริ่มต้นธุรกิจจากด้านปศุสัตว์ ผลิตอาหารสัตว์และอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์ และจดทะเบียนเป็นบริษัทประกอบกิจการส่งออกพืชผลทางการเกษตรเป็นครั้งแรกในปี 2493 หรือเมื่อ 60 ปีที่แล้ว  



 
           
ทำไมถึงอร่อยสุด!
           

     ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมผู้บริโภคส่วนใหญ่จึงติดอกติดใจในรสชาติของไส้กรอกแดงแหลมทองมากกว่าแบรนด์อื่น ย่อมไม่ใช่เพราะแบรนด์อยู่มานานอย่างเดียวเป็นแน่ แต่การได้มาของฉายาว่า “ไส้กรอกแดงในตำนาน” ของแบรนด์แหลมทองนั้นมาจากคุณสมบัติที่แตกต่างของตัวแบรนด์เอง
               

     ซึ่งนอกจากการโหวตให้คะแนนกันเองของผู้บริโภคแล้ว ยังมีการไปสืบเสาะหาข้อมูลมาประกอบด้วย โดยว่ากันว่า เหตุผลที่ทำให้ไส้กรอกแดงแหลมทองนั้นอร่อยกว่าไส้กรอกแดงอื่นๆ เป็นเพราะว่าตัวของไส้กรอกเองที่ชูความเป็นไส้กรอกไก่แท้ ไม่ใช่ไส้กรอกแป้งเหมือนทั่วๆ ไป เวลากินจึงได้รสชาติของไส้กรอกไก่เต็มๆ คำ ข้อมูลนี้การันตีได้จากส่วนผสมที่มีการระบุไว้หลังซองว่า มีเนื้อไก่เป็นส่วนประกอบมากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ และแป้งไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ
               

      เมื่อเห็นกระแสความนิยมเพิ่มมากขึ้น ทางแบรนด์เองจึงได้พยายามออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ผู้บริโภคได้เกิดความเข้าใจและรู้จักในไส้กรอกแสนรักของพวกเขามากขึ้น โดยผ่านเพจเฟซบุ๊กของบริษัท “Laemthong Corporation Group” อาทิ ไส้กรอกแดงแหลมทองนั้นผลิตมาจากเนื้อไก่อนามัยแท้ ไม่ใช้สารเร่งฮอร์โมน ไม่ใส่สารบอแรกซ์, ใส่เครื่องเทศแบบเต็มๆ รสชาติจึงเข้มข้นอร่อย, ตัวไส้กรอกผ่านกรรมวิธีรมควันด้วยไม้บีชจากเยอรมนีจึงหอมไม่เหมือนใคร





      ส่วนที่หลายคนสงสัยกันว่า ทำไมจึงต้องเป็นไส้กรอกแดง ทางแบรนด์ได้ให้เหตุผลอธิบายว่าบริษัทไม่ได้ใส่สารเคมีลงไปแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะการคัดสรรนำเนื้อไก่ส่วนที่ติดกับโครงไก่มาบดทำเป็นไส้กรอก สีของไส้กรอกที่ได้จึงเป็นสีแดงตามธรรมชาติ


      โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวที่แบรนด์เริ่มออกมาสื่อสารกับผู้บริโภคซึ่งเป็นลูกค้าตัวจริงมากขึ้น เริ่มเห็นได้ชัดขึ้นตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วนี่เอง จากที่ก่อตั้งเพจมาตั้งแต่เมื่อปี 2554 เหตุผลอาจมาจากกระแสความนิยมที่แบรนด์ถูกพูดถึงมากขึ้นก็ได้


     นอกจากจะนำเสนอเรื่องราวของไส้กรอกแดงให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นแล้ว ยังมีการแนะนำไปถึงเทคนิคการปรุงอาหารและการเก็บรักษา เช่น หากอยากให้ไส้กรอกพองนานและอยู่ตัว ไม่ยุบ ไม่เหี่ยว ไม่ดำ ให้ทอดที่ไฟกลางนาน 15 นาที หรือหากอยากให้ไส้กรอกสดใหม่เสมอ เด้ง กรอบอร่อย ควรเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 0 - 4 องศาเซลเซียสที่ชั้นวางปกติ ไม่ควรนำไปแช่ช่องฟรีซ เพราะจะทำให้เนื้อสัมผัสฉีกขาดได้ ไม่กรอบ เด้งเหมือนเดิม


     ด้วยหลายๆ ปัจจัยที่กล่าวมานี้เอง จึงเป็นข้อสรุปได้ว่า เพราะเหตุใดไส้กรอกแดงแบรนด์แหลมทอง จึงกลายเป็นไส้กรอกแดงเบอร์ต้นๆ ที่อยู่ในใจของผู้บริโภคมาจนถึงทุกวันนี้
 





 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

พลิกตำรายา 150 ปี สู่อาณาจักรสุขภาพแห่งอนาคต ทายาทขุนอภิบาลบ่อพลับ ร่วมสร้างธุรกิจครอบครัว

เป้าหมายการทำธุรกิจของหลายคนอาจเป็นเรื่องรายได้ แต่สำหรับ ต๊อก-ปีรัชด์ อนันตพันธ์ และ แต๊ก-ปานชาติ มิตรกูล มีเป้าหมายสร้างแบรนด์ "อภิบาลบ่อพลับ" เพื่อให้ทุกคนได้ระลึกถึงตำรายาไทย 150 ปี จากบรรพบุรุษของเขาที่ชื่อ ขุนอภิบาลบ่อพลับ

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย