เจ๋งสุด! ทายาทโรงงานเหล็กหล่อ พลิกมาทำฝาท่อสีดีไซน์สุดไฮเทค ขยับธุรกิจครอบครัวสู่ร้อยล้าน!

TEXT : กองบรรณาธิการ
PHOTO : นวกาญจน์โลหะชลบุรี





     ฝาท่อสีสันสดใส ลวดลายสะดุดตา ฝัง QR Code และเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) ให้กลายเป็นสื่อใต้ฝ่าเท้าที่สามารถส่องดูข้อมูล แผนที่ และภาพเสมือนจริงได้ นี่คือผลงานของสองพี่น้องทายาทโรงงานเหล็กหล่อ “ภูริทัต เจียมบรรจง”  กรรมการผู้จัดการ และ “อัชฌาวดี เจียมบรรจง” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นวกาญจน์โลหะชลบุรี จำกัด ที่กลับมาสานต่อธุรกิจครอบครัว และเริ่มทำสิ่งใหม่พลิกโฉมอุตสาหกรรมหนักได้อย่างเยี่ยมยุทธ์
               
 
เปลี่ยนธุรกิจครอบครัวให้เป็นระบบ หาจุดต่างสร้างโอกาสธุรกิจใหม่


     เมื่อประมาณ 7 ปีก่อน ภูริทัต เป็นทายาทคนแรกที่เริ่มเข้ามาสานต่อธุรกิจครอบครัว เขาบอกว่าเดิมกิจการของที่บ้านซึ่งทำเกี่ยวกับชิ้นส่วนเหล็กหล่อ ตะแกรงและฝาท่อระบายน้ำ ยังทำแบบยุคเก่า คือบริหารโดยพ่อแม่ไม่ได้มีระบบหรือแบ่งเป็นแผนกอะไรที่ชัดเจน เรียกว่าทำแบบบ้านๆ ลุยๆ สไตล์คนรุ่นก่อน จนเมื่อเขาเริ่มเข้ามาสานต่อและเริ่มไปรับงานของหน่วยงานภาครัฐที่ระบุชัดว่าบริษัทที่รับงานจะต้องมีมาตรฐาน ISO และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการนำ ISO เข้ามาวางระบบองค์กร และพัฒนาการจัดการภายในให้มีการแบ่งการทำงานที่ชัดเจนและเป็นระบบมากขึ้น


      “พอเราเริ่มมีการเอา ISO เข้ามา การทำงานของเราก็เริ่มเป็นระบบมากขึ้น โครงสร้างภายใน การบริหารจัดการต่างๆ เริ่มโอเคขึ้น ทำให้เรามีเวลาไปคิดเรื่องอื่น เลยพยายามมองหาจุดเด่นของเรา อย่างที่รู้กันว่าการทำฝาท่อที่เน้นฟังก์ชันนั้นมีมานานแล้ว อย่างเราจะเห็นฝาท่อของญี่ปุ่นที่มีดีไซน์สวยๆ ขณะที่ประเทศไทยในส่วนของฝาท่อเราเข้ามาทีหลัง ในตลาดมีบริษัทที่ทำมาก่อนเราเป็น 10 ปีและเป็นเจ้าใหญ่ๆ ด้วย มีคนทำอยู่ประมาณ 20 ราย ฉะนั้นถ้าเราจะเอาฝาท่อแบบเดิมๆ ไปสู้เขาก็คงสู้ไม่ได้  เราจึงต้องสร้างความแตกต่าง โดยต้องใช้ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพื่อสร้างแบรนด์ของเราขึ้นมา”


     หลังพี่ชายเข้ามาปรับระบบธุรกิจจนเข้าที่ เมื่อประมาณ 4 ปีก่อน น้องสาวอย่างอัชฌาวดี ก็เข้ามาสานต่อและนั่นคือที่มาของไอเดียการทำฝาท่อสีดีไซน์ขึ้นเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย



 
 
สร้างนิยามใหม่ให้ฝาท่อ จากสินค้าฟังก์ชั่น สู่ผลิตภัณฑ์ดีไซน์สุดไฮเทค


     ทำไมอยู่ดีๆ โรงงานทำฝาท่อถึงลุกมาทำเรื่องฝาท่อสีดีไซน์ขึ้นมาได้ ทั้งที่ในประเทศไทย ณ ตอนนั้นยังไม่มีใครทำ ถนนหนทางที่ใช้ฝาท่อสีก็มีแค่นับชิ้นได้ ซึ่งล้วนเป็นของนำเข้าจากต่างประเทศโดยเฉพาะญี่ปุ่นทั้งนั้น ทายาททั้งสองบอกจุดเริ่มว่า มาจากการนำปัญหาเรื่องเหล็กหล่อไปปรึกษากับอาจารย์หัวหน้าภาคที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พอแก้ปัญหาได้ เลยได้รับคำแนะนำให้ไปเข้าโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (ITAP) ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ  (สวทช.) เลยเลือกพัฒนาฝาท่อของครอบครัวมาเป็นฝาท่อสีดีไซน์เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน และพัฒนาต่อมาให้เป็นฝาท่อที่ฝัง QR Code และเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) สามารถใส่เติมข้อมูลที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ลงไปได้


     “จริงๆ ตลาดฝาท่อมีอยู่ 2 กลุ่มหลักๆ คือ หน่วยงานภาครัฐ ที่ทำงานถนนต่างๆ และเอกชน อย่างโครงการบ้านจัดสรร คอนโด หรือคอมมูนิตี้มอลล์ ซึ่งลูกค้าของเรามีทั้งสองกลุ่ม ด้วยความที่ปัจจุบันเทรนด์มันเปลี่ยนไป  อย่างแรกเลยคือคนใช้มือถือมากขึ้น เวลาไปเที่ยวที่ไหนก็ต้องมีการถ่ายรูป เช็คอิน ซึ่งฝาท่อสีดีไซน์เป็นเหมือนจุดเช็คอินใหม่ เหมือนแลนด์มาร์คที่ทำให้สถานที่นั้นๆ น่าสนใจและสวยงามขึ้น นอกจากนั้นเรายังเอาเรื่องของ QR Code ใส่เข้าไปในฝาท่อด้วย อย่างสมัยก่อนเมื่อพูดถึงการใช้ QR Code คนอาจจะยังไม่ค่อยชิน แต่ปัจจุบันมันกลายเป็น New Normal ไปแล้ว เราเลยเอามาแปลงใช้กับฝาท่อเพื่อเพิ่มแวลู่ให้กับสินค้าของเรา”


     จากฝาท่อธรรมดา กลายเป็นฝาท่อดีไซน์ใหม่ สดใสและไฉไลขึ้น แถมยังมี QR Code ที่สามารถใส่เรื่องราวลงไปได้ เช่น ประวัติของหน่วยงาน ข้อมูลสำคัญต่างๆ แผนที่ ข้อมูลร้านของฝาก จุดไฮไลท์ของสถานที่นั้นๆ เหล่านี้ ก็สามารถใส่เติมลงไปได้ ไม่ต่างจากป้ายโฆษณาที่กำลังสื่อสารกับคนมาเยือนตรงใต้ฝ่าเท้า


     “เอาง่ายๆ ว่าพื้นที่ใต้ฝ่าเท้าเราเป็นสิ่งที่วันหนึ่งๆ คนเดินผ่านเป็นร้อยเป็นพัน ซึ่งเราสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ตรงนั้นได้ แทนที่เมื่อก่อนการจะประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่างๆ หรือโฆษณาก็ต้องเป็นป้ายบิวบอร์ด ป้ายตามทาง หรืออะไรไป แต่พื้นที่ทางเท้าเราก็สามารถใช้ประโยชน์ได้ โดยเพิ่มความสวยงามลงไปหรือเอาข้อมูลบางอย่างใส่ลงไปได้ ในขณะที่ต้นทุนก็ยังถูกกว่าการทำป้ายบิลบอร์ดใหญ่ๆ ด้วยซ้ำ” พวกเขาว่า



 
 
เปิดตลาดใหม่ ทำได้ไม่มีขั้นต่ำ คัสตอมไมซ์ตามใจลูกค้า


     ฝาท่อแบบใหม่ ไม่ได้โดดเด่นแค่เรื่องดีไซน์และความไฮเทค แต่ยังผลิตได้ไม่มีขั้นต่ำ ทำได้ตามใจปรารถนาของลูกค้า


     “บริษัทเราไม่มีขั้นต่ำในการผลิต จุดเด่นเลยคืองานส่วนมากจะเป็นการคัสตอมไมซ์ให้กับลูกค้า โดยสามารถสั่งแบบที่ต้องการเพื่อสร้างจุดเด่นให้กับสถานที่ของตัวเองได้ และสามารถสั่งทำได้ตั้งแต่ 1 ชิ้นขึ้นไปเลย อย่าง ถนนตามเทศบาลต่างๆ เราจะมีไซส์มาตรฐานอยู่แล้ว แต่ในส่วนของโลโก้จะสามารถเปลี่ยนไปตามโลโก้ของเทศบาลนั้นๆ ได้ หรืออย่าง ร้านอาหารญี่ปุ่นเขาก็สั่งเราแค่ตัวเดียวเพื่อไปวางหน้าร้านของเขา เพราะต้องการใช้แค่นั้นเราก็ทำให้ได้เหมือนกัน เรามีความยืดหยุ่นในการทำงานตามความต้องการของลูกค้า” พวกเขาเล่าจุดแข็ง


     ในส่วนของราคาขึ้นกับขนาด ลวดลาย และความยากง่ายในการผลิต ถ้าสั่งจำนวนน้อยต้องขึ้นแม่แบบใหม่ ก็ย่อมจ่ายแพงกว่าการสั่งจำนวนมากชิ้น แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาเทียบให้ฟังว่า ฝาท่อสีดีไซน์ของนวกาญจน์โลหะ ถูกกว่าสินค้านำเข้าถึง  3-4 เท่า ในขณะที่คุณภาพใกล้เคียงกัน



 
 
     หลังปล่อยฝาท่อสีดีไซน์ออกสู่ตลาดในแบบทำได้ตามใจสั่ง ทายาทบอกเราว่า ธุรกิจก็ได้รับการตอบรับดีขึ้นเรื่อยๆ โดยพวกเขาเชื่อว่า สินค้ามีความต้องการอยู่แล้วในตลาด เพียงแต่ที่ผ่านมายังไม่มีใครทำมาตอบสนองเท่านั้น เมื่อทุกคนได้รู้ว่ามีพวกเขาเป็นผู้ผลิตในไทย แถมยังทำได้ราคาถูกกว่าสินค้านำเข้า ก็ค่อยๆ ให้การตอบรับมากขึ้น และปัจจุบันเทรนด์การปรับภูมิทัศน์ให้สวยก็ได้รับความนิยมขึ้น ซึ่งฝาท่อสีดีไซน์ของพวกเขา ก็จะเข้าไปช่วยแต่งเติมความสวยงามให้กับสถานที่ต่างๆ ได้มากขึ้นด้วย


     “ในส่วนของฝาท่อสีดีไซน์เราทำมาได้ประมาณ 2 ปี ก็ยังเป็นการเริ่มต้นอยู่ มีลูกค้ายังไม่ได้เยอะมากนัก แต่เราก็คาดหวังว่าต่อไปสถานที่ท่องเที่ยว หรือจังหวัดต่างๆ ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่ต้องการให้เป็นแลนด์มาร์คก็อยากให้มีฝาท่อสีมากขึ้นเหมือนประเทศญี่ปุ่น ที่ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนก็จะเห็นฝาท่อดีไซน์สวยงาม และจะยิ่งดีกว่านั้นถ้ามันเป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัทของเรา”


     จากธุรกิจเล็กๆ ยังไม่มีระบบ วันนี้นวกาญจน์โลหะชลบุรี ภายใต้การเข้ามาสานต่อของทายาทธุรกิจ ขยับขยายใหญ่โตขึ้น โดยมีการสร้างโรงงานใหม่ แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ขยายตลาดใหม่ๆ จนธุรกิจหลักสิบล้าน ขยับมาเป็นธุรกิจหลักร้อยล้าน และยอดขายเพิ่มขึ้นทุกปีด้วยฝีมือของทายาท




 
เชื่อมต่อคนสองรุ่น ผสานจุดแข็งธุรกิจครอบครัว


     ทายาททั้งสองบอกเราว่า ตั้งใจเข้ามาสานต่อธุรกิจครอบครัวและสร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น แต่ยอมรับว่าการสืบสานธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขาต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ตัวเองและปรับจูนความเข้าใจระหว่างคนสองรุ่นอยู่พอสมควร


     “จริงๆ ก็ยากนะในการมาสานต่อธุรกิจครอบครัว เพราะคนรุ่นเก่าเขาก็ทำมาจนประสบความสำเร็จ เราก็ไปพูดอะไรมากไม่ได้ เพราะพวกเราก็เพิ่งกลับเข้ามาทำ ก็ต้องใช้เวลาและอธิบายให้เขาเห็นว่า สิ่งที่พวกเราจะทำมันสามารถต่อยอดไปเป็นอะไรได้บ้าง ซึ่งก็ต้องใช้เวลาในการให้เขารับรู้ แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนได้ ข้อดีของครอบครัวเราคือเขาข้างเปิดใจ ขณะที่พวกเราเองก็มองว่า คนรุ่นเก่าเขามีประสบการณ์ที่เราไม่มี เขารอบคอบกว่าเรา เดินช้าแต่ปลอดภัยกว่าเรา ส่วนรุ่นเราก็มีความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เขาอาจจะไม่รู้จักหรือตามไม่ทัน เราก็ต้องเอาสองส่วนนี้มาผสมผสานกันเพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ๆ เข้ามา เอาข้อดีของเขากับข้อดีของเรามารวมกัน จนเป็นที่มาของธุรกิจเราในวันนี้”


     วันนี้ นวกาญจน์โลหะชลบุรี ยังเป็นการบริหารของคนสองรุ่น โดยที่คนรุ่นก่อนให้อิสระในการคิดนอกกรอบกับทายาทรุ่นใหม่เยอะขึ้น  ให้โอกาสทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ใช้ทักษะที่คนรุ่นใหม่ถนัดไปทำเรื่องใหม่ๆ เช่น การตลาดออนไลน์  การใช้เทคโนโลยี หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มจุดแข็งให้กับธุรกิจของพวกเขาในวันนี้


     และนี่คือเรื่องราวของคนทำฝาท่อ ที่ได้ไปต่อในยุค New Normal เพราะไอเดียของคนรุ่นใหม่ ซึ่งการเปิดรับและปรับจูนความคิดระหว่างคนสองรุ่น คือหนึ่งในหนทางที่จะทำให้ธุรกิจครอบครัวยังคงแข็งแกร่งและต่อสู้ได้ในยุคที่ท้าทายอย่างวันนี้
 










 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

พลิกตำรายา 150 ปี สู่อาณาจักรสุขภาพแห่งอนาคต ทายาทขุนอภิบาลบ่อพลับ ร่วมสร้างธุรกิจครอบครัว

เป้าหมายการทำธุรกิจของหลายคนอาจเป็นเรื่องรายได้ แต่สำหรับ ต๊อก-ปีรัชด์ อนันตพันธ์ และ แต๊ก-ปานชาติ มิตรกูล มีเป้าหมายสร้างแบรนด์ "อภิบาลบ่อพลับ" เพื่อให้ทุกคนได้ระลึกถึงตำรายาไทย 150 ปี จากบรรพบุรุษของเขาที่ชื่อ ขุนอภิบาลบ่อพลับ

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย