“ห้วยปู” เครื่องพริกแกงเหนือสำเร็จรูป ที่แจ้งเกิดจากร้านดังเมืองปาย พร้อมเสิร์ฟถึงครัวไทยทั่วประเทศ

TEXT : นิตยา สุเรียมมา

PHOTO : สองภาค

 

 


Main idea


ต่อยอดธุรกิจโตแบบพอดี ฉบับ "ลาบขม ห้วยปู"
 
  • รักษาภูมิปัญญา วัฒนธรรมดั้งเดิมที่มีอยู่
 
  • นำจุดเด่นที่มีมาสร้างโอกาสต่อยอดออกไปจากเดิม
 
  • ค้นหารูปแบบวิธีการทำธุรกิจที่เหมาะสมกับตัวเอง ไม่ลงทุนเกินตัว
 
  • การลงมือทำ สำคัญกว่าผลลัพธ์ที่ได้
 
 


     จากร้านชื่อดังของอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน “ลาบขม ห้วยปู” ร้านอาหารเหนือที่ดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 18 ปี วันนี้ได้ต่อยอดธุรกิจให้เติบโตขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง ด้วยการแตกไลน์สูตรพริกแกงโบราณประจำร้านให้กลายเป็นเครื่องพริกแกงสำเร็จรูปที่ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ก็สามารถลิ้มรสความอร่อยได้ไม่แตกต่างจากมานั่งรับประทานอยู่ที่ร้านได้





     “
ศักดิ์สิทธิ์ จ่าก่าซื้อ” ทายาทรุ่นที่ 2 ที่เข้ามาช่วยสานต่อกิจการจากรุ่นแม่เมื่อ 3 ปีก่อนเล่าที่มาของไอเดียการต่อยอดธุรกิจจากร้านลาบดั้งเดิมสู่การขยายผลิตภัณฑ์มาเป็นเครื่องพริกแกงสำเร็จรูปสูตรประจำร้าน เพื่อให้นักท่องเที่ยวรวมถึงลูกค้าที่ติดใจในรสชาติได้ซื้อกลับไปทำเองที่บ้านให้ฟังว่า เริ่มออกมาวางจำหน่ายเมื่อกลางปีที่แล้ว โดยมองเห็นว่าร้านเองได้รับความนิยมจากผู้บริโภคที่แวะเวียนมาเที่ยวอำเภอปายมายาวนานเกือบยี่สิบปี ซึ่งส่วนใหญ่มักได้รับเสียงสะท้อนจากลูกค้าจำนวนมากอยากให้ขยายสาขาไปเปิดเพิ่มเติมที่อื่น เพราะหาร้านลาบเหนือที่มีรสชาติดั้งเดิมเข้มข้นแบบนี้ได้ยาก เมื่อได้เข้ามาช่วยดูแลร้าน ตนจึงมองเห็นโอกาส อีกทั้งอยากสร้างความมั่นคงให้กับธุรกิจของครอบครัวด้วย





     “เราเริ่มต้นมาจากร้านอาหารเล็กๆ ในอำเภอปายเมื่อ 18 ปีก่อน โดยเริ่มต้นกิจการจากคุณแม่ ชื่อ “ร้านลาบขม ห้วยปู” ก็มาจากชื่อหมู่บ้านที่นี่ ตัวผมเองเข้ามาช่วยสานต่อเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว เพราะเราเริ่มมองเห็นโอกาสการเติบโตของร้านที่ไม่ว่านักท่องเที่ยวแขกไปใครมา ก็มักจะแวะมาเป็นลูกค้าประจำที่ร้านและบอกต่อๆ กันมา ไม่ใช่เฉพาะแค่ในอำเภอปาย แต่ยังรวมถึงอำเภอปางมะผ้า อำเภอแม่แตง อำเภอกัลยาณิวัฒนา รวมไปถึงจังหวัดเชียงรายด้วย


     “โดยกิจการของเราได้รับการตอบรับที่ดีมาตลอด ซึ่งผมมองเห็นโอกาสจากชื่อเสียงที่เรามีตรงนี้น่าจะสามารถต่อยอดทำอะไรเพิ่มเติมขึ้นมาได้ และจากเปิดหน้าร้านเพียงอย่างเดียวมานานเกือบยี่สิบปี เราจึงอยากสร้างความมั่นคงให้กับธุรกิจมากขึ้นด้วย ลูกค้าก็เรียกร้องเข้ามาค่อนข้างเยอะว่าอยากให้ขยายสาขาไปเปิดที่อื่นเพิ่ม เราจึงพยายามคิดหาวิธีต่อยอด จนมานึกถึงเครื่องแกงสำเร็จรูป ซึ่งแม้ลูกค้าจะไม่ได้มารับประทานที่ร้าน แต่ก็ยังสามารถได้กินของอร่อยโดยไม่ต้องเดินทางไกลมาถึงที่นี่ ความรู้สึกอาจจะไม่ได้เหมือนกันหมด 100 เปอร์เซ็นต์ทีเดียวกับมานั่งกินที่ร้าน แต่ก็ทำให้ทดแทนกัน ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เราสามารถขยายธุรกิจออกไปให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นได้ โดยไม่ต้องมีกระบวนการบริหารที่ยุ่งยาก ลูกค้าเองก็ได้รับประทานรสชาติที่ชื่นชอบเหมือนกับมากินที่ร้านด้วย”





     ถามว่าจุดไอเดียการต่อยอดจากสูตรเครื่องแกงลับประจำร้านมากลายเป็นเครื่องพริกแกงสำเร็จรูปได้ยังไง ศักดิ์สิทธิ์เล่าให้ฟังเพิ่มเติมว่า


     “จริงๆ เริ่มแรกเราก็ไม่ได้นึกถึงพริกแกงสำเร็จรูปขึ้นมาซะทีเดียว มันเริ่มขึ้นมาจากที่เวลาลูกค้ามารับประทานที่ร้าน แล้วอยากซื้อกลับไป เราก็เริ่มแยกใส่ถุงระหว่างน้ำเครื่องปรุงและเนื้อสัตว์ให้ก่อน เพื่อเวลาเอากลับไปรับประทานที่บ้านรสชาติจะได้ไม่เซ็งและยังสดใหม่อยู่ เวลานำไปกินรับประทานที่บ้านจะได้คงความอร่อยไว้เช่นเดิม แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถเก็บได้นานอยู่ดี เราจึงมาคิดทบทวนว่าสิ่งที่ทำให้ลูกค้าติดใจในรสชาติของเรา ก็คือ สูตรเครื่องแกงโบราณ จึงเกิดปิ๊งไอเดียทำเป็นผงเครื่องแกงสำเร็จรูปขึ้นมา”





     โดยศักดิ์สิทธิ์เล่าถึงจุดเด่นของเครื่องพริกแกงของร้านให้ฟังว่า เป็นสูตรโบราณที่ทำสืบต่อกันมาตั้งแต่รุ่นคุณตาคุณยาย ซึ่งในตัวเครื่องแกงจะใช้เครื่องเทศสมุนไพรหลายๆ ชนิดมารวมกัน และจะใช้วิธีการทำดั้งเดิมแบบโบราณ คือ ก่อนที่จะนำมาตำเป็นเครื่องแกงจะนำวัตถุดิบต่างๆ ไปย่างไฟให้หอมก่อน และจึงนำมาตำรวมกัน เมื่อจะนำไปปรุงเป็นอาหารก็จะนำมาคั่วน้ำมันให้หอมอีกครั้ง เมื่อบวกกับรสชาติที่เข้มข้นของเครื่องแกงและรสมือ จึงทำให้ลูกค้าติดใจในรสชาติและแนะนำบอกต่อกันมา





     ซึ่งสูตรเครื่องพริกแกงสำเร็จรูปที่ทำออกมาจำหน่ายนั้นมีทั้งหมด 4 สูตรด้วยกัน ได้แก่ พริกลาบเนื้อ พริกลาบหมู แกงฮังเล และแกงอ่อม ซึ่งเป็นเมนูยอดนิยมของร้าน ที่ไม่ว่าใครมาก็มักจะสั่งมารับประทานกันแทบทุกโต๊ะ โดยนอกจากตัวเครื่องแกงที่เป็นสูตรลับเฉพาะยังผลิตเป็นเครื่องปรุงสมุนไพรต่างๆ ออกมาด้วย
              

     ศักดิ์สิทธิ์เล่าถึงผลลัพธ์ของผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ให้ฟังว่า นอกจากจะช่วยสร้างรายได้เพิ่มขึ้นมาให้กับร้านแล้ว ยังเป็นการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักออกไปมากขึ้นด้วย ไม่ว่าจะในภาคเหนือหรือภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศ ทำให้อาหารเหนือเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้นด้วย และนอกจากร้านจะได้ประโยชน์แล้ว ยังได้ช่วยชาวบ้านในพื้นที่ให้มีรายได้เพิ่มขึ้นมาด้วยจากการรับจ้างผลิตหรือจำหน่ายวัตถุดิบเพื่อผลิตเป็นเครื่องพริกแกงออกมา




     โดยอนาคตนอกจากการทำเครื่องแกงสำเร็จรูปให้สามารถกระจายออกไปได้ทั่วประเทศ หรือแม้แต่ในตลาดต่างประเทศ โมเดลธุรกิจต่อไปที่ศักดิ์สิทธิ์คิดไว้ ก็คือ การออกรถฟู้ดทรัค ซึ่งนอกจากจะทำให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงรสชาติอาหารเหนือแบบแท้ๆ แล้ว ยังนับว่าเป็นโมเดลที่น่าจะมีความเป็นไปได้ รวมถึงช่วยต่อยอดสร้างอาชีพให้กับผู้ที่สนใจอยากหารายได้เพิ่มขึ้นด้วย
              

     ในวันนี้แม้เครื่องพริกแกงเหนือ ตราห้วยปู อาจเริ่มต้นขึ้นได้ไม่นาน แถมยังต้องมาเจอกับวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านเข้ามา แต่ศักดิ์สิทธิ์มองว่าไม่ว่าผลลัพธ์ต่อไปจะเป็นยังไง สิ่งสำคัญที่สุด คือ เขาได้เริ่มต้นลงมือทำในวันนี้แล้วต่างหาก




     “ทุกวันนี้ธุรกิจมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นได้ หน้าที่ของเรา คือ ควรคิดเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้า หากเกิดอะไรขึ้นเราจะได้มีตัวอื่นเข้ามาเสริม ซึ่งผลตอบรับที่ได้ไม่ว่าจะออกมาเป็นยังไง อาจไม่สำคัญเท่ากับวันนี้เราได้เริ่มต้นลงมือทำแล้วนั่นเอง ซึ่งดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลยแน่นอน” ศักดิ์สิทธิ์กล่าวทิ้งทาย


     จะว่าไปแล้ว นอกจากเป็นการคิดวางแผนต่อยอดทางธุรกิจที่ดี การที่ร้านลาบขม ห้วยปูยังคงรักษาสูตรอาหารพื้นบ้านดั้งเดิมไว้ หรือแม้แต่การต่อยอดธุรกิจมาผลิตเป็นเครื่องแกงสำเร็จรูปออกมาก็นับเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมอาหารการกินแบบคนเหนือให้คนรุ่นหลังได้รู้จักด้วยต่อไปด้วย ซึ่งนับวันจะหากินได้ยากเต็มที่
 


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

พลิกตำรายา 150 ปี สู่อาณาจักรสุขภาพแห่งอนาคต ทายาทขุนอภิบาลบ่อพลับ ร่วมสร้างธุรกิจครอบครัว

เป้าหมายการทำธุรกิจของหลายคนอาจเป็นเรื่องรายได้ แต่สำหรับ ต๊อก-ปีรัชด์ อนันตพันธ์ และ แต๊ก-ปานชาติ มิตรกูล มีเป้าหมายสร้างแบรนด์ "อภิบาลบ่อพลับ" เพื่อให้ทุกคนได้ระลึกถึงตำรายาไทย 150 ปี จากบรรพบุรุษของเขาที่ชื่อ ขุนอภิบาลบ่อพลับ

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย