Main Idea
DNA ธุรกิจแบบ Philips
- สังเกตสภาพแวดล้อมสังคม พฤติกรรมผู้คนที่เกิดขึ้น เพื่อนำมาปรับปรุงพัฒนาผลิตภัณฑ์
- ผลิตตัวอย่าง เพื่อทดลองใช้ขึ้นมาก่อน ถ้าดีจึงพัฒนาเป็นสินค้าเพื่อจำหน่าย
- คิดนำหน้าผู้บริโภคอยู่ 1 ก้าวเสมอ เพื่อเสนอทางเลือกที่ดี และจำเป็นต่อการใช้ชีวิต
ถ้าพูดถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งยุคที่ใครๆ ต่างก็พูดถึงกันมากในวันนี้ หม้อทอดไร้น้ำมัน (Air Fryer) ต้องเป็นหนึ่งในไอเทมที่ถูกนึกถึงขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ แน่นอน โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมานี้ เรียกว่าน่าจะเป็นสินค้าที่ขายดีทวนกระแสท่ามกลางโรคระบาดที่เกิดขึ้นเลยทีเดียว
Cr : Philips
ถามว่าแล้วเจ้าหม้อทอดไร้น้ำมันมีจุดกำเนิดมาจากที่ไหน? ใคร คือ คนต้นคิดผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนี้ขึ้นมา คำตอบที่ได้หลายคนน่าจะพอเดาได้ถูก ซึ่งก็คือ “Philips” เจ้าแห่งเครื่องใช้ไฟฟ้าของโลกนั่นเอง
สินค้าชิ้นแรกที่ฟิลิปส์เริ่มผลิตขึ้นมาให้กับโลก ก็คือ หลอดไฟ ที่ใช้ตามบ้านเรือนต่างๆ อย่างที่เราคุ้นเคยกันดี โดยตัวธุรกิจเริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2434 หรือเมื่อราว 129 ปีที่แล้ว ณ เมืองไอนด์โฮเวน ประเทศเนเธอร์แลนด์ ก่อตั้งโดย Gerard Philips และ Frederik Philips ผู้เป็นพ่อ ซึ่งมีความคิดริเริ่มที่จะผลิตหลอดไฟราคาประหยัดแบบไส้คาร์บอน เพื่อให้ผู้คนได้มีแสงสว่างใช้กันอย่างทั่วถึง จากที่ทำขายภายในประเทศ ก็เริ่มมีการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ จนในที่สุดได้กลายเป็นผู้ผลิตหลอดไฟรายใหญ่ที่สุดของยุโรป
แม้จะเริ่มต้นขึ้นจากหลอดไฟ แต่สินค้าที่สร้างชื่อเสียงให้กับฟิลิปส์จนเป็นที่นิยมและถูกยอมรับไปทั่วโลกก็คือ เครื่องเสียง โดยมีการเปิดตัวขึ้นครั้งแรกในปี 2470 กระทั่งต่อมาก็เริ่มมีการพัฒนาผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดต่างๆ เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ เครื่องโกนหนวดไฟฟ้า โทรทัศน์ เทปคาสเซ็ต วิดีโอ วีซีดี ไปจนถึงอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์
Cr : Philips
โดยตลอดระยะเวลาร่วมร้อยกว่าปีที่ผ่านมา ไม่ว่าธุรกิจจะถูกส่งต่อให้กับผู้บริหารกี่รุ่นก็ตาม สิ่งที่ฟิลิปส์ได้ยืดถือมาตลอดจนอาจเรียกได้ว่ากลายเป็นดีเอ็นเอของแบรนด์แล้วก็ว่าได้ ก็คือ ไม่ว่าจะคิดค้นวัตกรรมอะไรขึ้นมาจะเริ่มต้นขึ้นด้วยการสังเกตสภาพแวดล้อมของสังคมที่เกิดขึ้น ณ ช่วงเวลานั้น เพื่อศึกษาถึงพฤติกรรมความต้องการของผู้บริโภค นำไปเก็บเป็นข้อมูลเพื่อผลิตสินค้าตัวอย่างขึ้นมา ก่อนจะทดลองนำไปใช้ ทดสอบประสิทธิภาพ กระทั่งพัฒนาเป็นสินค้าชิ้นใหม่ขึ้นมาได้ในที่สุด และฟิลิปส์มักจะคิดนำหน้าผู้อื่นอยู่ 1 ก้าวเสมอ ทำให้แม้บางครั้งผู้บริโภคอาจยังไม่ทันได้รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรอะไร แต่ฟิลิปส์มักจะคิดขึ้นมาให้ก่อนแล้ว โดยวิเคราะห์แนวโน้มจากสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้น
Cr : Philips
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็เช่นเครื่องฟอกอากาศ PM2.5 ที่ถูกผลิตขึ้นมานานแล้ว ก่อนที่เราจะประสบปัญหาด้านมลภาวะทางอากาศอย่างหนักเมื่อ 2 -3 ปีก่อน หรืออย่างกรณีล่าสุด คือ หม้อทอดไร้น้ำมัน ที่โด่งดังมากในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมานี้ ทั้งที่ถูกผลิตขึ้นมาก่อนหน้านี้เป็นสิบกว่าปีมาแล้ว เนื่องจากมองเห็นว่าชีวิตคนเมืองที่ต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่จำกัด เช่น คอนโดมีเนียม อาจไม่สะดวกที่จะใช้วิธีการทำอาหารจากเตาแก๊สที่ต้องใช้กระทะหรือหม้อใบโต รวมถึงผู้คนทุกวันนี้ต่างก็หันมารักษาสุขภาพกันมากขึ้นด้วย จึงไม่นิยมอาหารที่ต้องใช้น้ำมันเยอะ โดยในแต่ละพื้นที่ทั่วโลกที่ฟิลิปส์เข้าไปทำตลาดใช่ว่าจะผลิตสินค้าออกมาเหมือนกันทั้งหมด แต่จะเลือกใช้วิธีศึกษาถึงความต้องการและความเป็นไปได้ของตลาดนั้นๆ เป็นแต่ละพื้นที่ไป
โดย ณ ปัจจุบันสิ่งฟิลิปส์พยายามมุ่งเน้นและใช้เป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจ ก็คือ การพัฒนานวัตกรรมเกี่ยวกับสุขภาพมากขึ้น ทั้งการหันมาทำธุรกิจด้านเฮลต์แคร์เพื่อผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์สมัยใหม่ รวมไปถึงการออกสินค้าที่เข้ามาช่วยตอบโจทย์ด้านสุขภาพแก่ผู้บริโภคมากขึ้น ด้วยเหตุนี้เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาฟิลิปส์จึงได้ตัดสินใจขายกิจการธุรกิจด้านหลอดไฟออกไป เพื่อหันมาดำเนินการตามเป้าหมายการทำธุรกิจใหม่ที่วางไว้นั่นเอง
แน่นอนว่าต่อไปเราคงจะได้เห็นสินค้านวัตกรรมที่เข้ามาช่วยตอบโจทย์สุขภาพ และชีวิตผู้คนในสังคมยุคใหม่จากแบรนด์เจ้าแห่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่น่าทึ่งนี้ได้อีกมากโขทีเดียว
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี