PHOTO : มนต์ นมสด
Main Idea
- “มนต์นมสด” ร้านนมชื่อดังในตำนานของคนกรุงเทพ ที่ใครอยากจะลิ้มลองชิมเครื่องดื่มอร่อยๆ หรือขนมปังปิ้งแบบสดใหม่ก็ต้องมาที่นี่
- จากการเป็นลูกจ้างอยู่ร้านกาแฟ จนมาเปิดร้านเป็นของตัวเอง วันนี้ผ่านมาเกือบ 6 ทศวรรษแล้วที่ “มนต์ วนิศรกุล” คลุกคลีกับอาชีพคนชงกาแฟเครื่องดื่ม และผู้ปรุงสูตรความอร่อยของขนมปังหน้าต่างๆ ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพ และมักจะนึกถึงลูกค้ามาเป็นอันดับหนึ่งเสมอ
ถ้าพูดถึงร้านนมในกรุงเทพ หรือแม้แต่ในระดับประเทศที่ถูกพูดถึงกันมาก หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ “มนต์นมสด” ร้านนมชื่อดังที่ตั้งอยู่ตรงข้ามศาลาว่าการกรุงเทพมหานครรวมอยู่ด้วยแน่นอน
แต่กว่าจะมาเป็นร้านนมเจ้าดังที่เข้าไปเมื่อไหร่ ก็เจอแต่ลูกค้าแน่นร้านเมื่อนั้น รู้ไหมว่าจริงๆ แล้วเริ่มต้นธุรกิจมาจากร้านขายกาแฟเล็กๆ บนรถกระบะ และถูกย้ายร้านมาแล้วกว่า 4 ครั้ง จึงจะมีร้านของตัวเองได้ ซึ่งปัจจุบันก็ไม่ได้มีเพียงแห่งเดียวเท่านั้น แต่ยังขยายสาขาออกไปในพื้นที่ของกรุงเทพมหานครและเชียงใหม่ รวมแล้วกว่า 7 แห่งด้วยกัน
โดยจุดกำเนิดของร้านมนต์นมสดนั้น เริ่มต้นมาจาก “มนต์ วนิศรกุล” และคุณพ่อของเขา ซึ่งเริ่มจากทำงานเป็นลูกจ้างอยู่ร้านกาแฟแถวศาลาว่าการกรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี 2507 โดยทำอยู่นานกว่า 15 ปี จนเมื่อเจ้าของร้านต้องเลิกกิจการไป เพราะเจ้าของห้องแถวมาขอที่คืน ทำให้เขาและพ่อต้องตกงาน แต่ด้วยประสบการณ์ที่ทำมานาน ทั้งมนต์และพ่อจึงตัดสินใจซื้อรถกระบะมาทำเป็นร้านกาแฟเล็กๆ ขายกันเอง เมนูก็เหมือนกับร้านกาแฟโบราณทั่วไปที่มีชา กาแฟ โอวัลติน ไข่ลวก แต่มีการเพิ่มเมนูนมสดและขนมปังสังขยาเข้ามาด้วย
แต่ขายอยู่ได้เพียงไม่กี่ปี เมื่อต้องย้ายที่จอดอยู่บ่อยๆ เพราะเทศกิจไล่ จึงทำให้เขาเกิดความคิดอยากหาที่ทางเพื่อเปิดร้านจริงจังขึ้นมา จนมาได้ทำเลร้านเช่าแถวริมคลองข้างศาลาว่าการฯ และเปิดเป็นร้านขึ้นมาครั้งแรกในปี 2527 ซึ่งเมื่อมีร้านเป็นเรื่องเป็นราวก็ได้มีการคิดเมนูสินค้าเพิ่มขึ้นมาเป็นขนมปังปิ้งหน้าต่างๆ อาทิ เนยนม เนยน้ำตาล แยม และนี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของเมนูยอดฮิตอีกหนึ่งอย่างของร้าน นอกจากเครื่องดื่มนมสด ที่มาเมื่อไหร่ก็ต้องสั่งมากินคู่กัน แถมปัจจุบันยังมีการดัดแปลงออกมาให้เลือกกันหลากหลายรสชาติอีกด้วย
แต่ด้วยความที่เปิดร้านในช่วงเศรษฐกิจขาลง ประกอบกับอยู่ในช่วงข่าวดังเรื่องแชร์แม่ชม้อยที่พาคนล่มหมดเงินหมดทองกันเป็นระนาว จึงทำให้ผลประกอบการช่วงแรกนั้นไม่ดีเท่าที่ควร
แต่ด้วยความอดทนและซื่อสัตย์ต่อลูกค้า คิดถึงลูกค้าเป็นสำคัญมาตลอด ซึ่งทำสืบเนื่องมายาวนานตั้งแต่ตอนที่ขายบนรถกะบะ อาทิ การใช้นมผงผสมเข้ากับนมสด เพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมแทนที่จะผสมน้ำลงไปเหมือนเจ้าอื่นๆ หรือแม้แต่การเลือกใช้แก้วนำเข้าจากฝรั่งเศสราคาใบละ 35 บาท ในขณะที่ตอนนั้นขายกาแฟเพียงแก้วละ 3 บาท เพียงเพราะไม่อยากให้แก้วบิ่น บาดปากลูกค้า หรือบาดมือคนล้าง จึงทำให้มนต์นมสดเป็นที่ยอมรับและบอกกันปากต่อปากจากลูกค้า จนกลายเป็นร้านนมชื่อดังย่านเสาชิงช้า มีพนักงานออฟฟิศ นักเรียน นักศึกษาเข้ามาใช้บริการอย่างล้นหลาม ซึ่งใช้กว่าจะมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับขึ้นมาได้ ก็ต้องใช้เวลาทั้งหมดกว่า 7 ปีด้วยกัน
โดยย้อนกลับไปก่อนหน้าที่จะเริ่มเปิดร้านครั้งแรกนั้น ในช่วงระหว่างที่ยังขายอยู่บนรถกระบะ ด้วยความที่ต้องย้ายที่จอดขายไปเรื่อยๆ ซึ่งอาจทำให้ลูกค้าเกิดความสับสนและจดจำร้านไม่ได้ จึงมีลูกค้าแนะนำว่าควรตั้งชื่อร้านขึ้นมา ร้านกาแฟเล็กๆ บนรถกระบะจึงมีชื่อแรกว่า “มนต์ คาเฟ่” ซึ่งตั้งขึ้นเมื่อปี 2522 แต่ภายหลังเมื่อมีการออกแบบโลโก้ร้าน จึงเปลี่ยนมาใช้ชื่อ “มนต์นมสด” อย่างที่เราคุ้นเคยและรู้จักกันดีในทุกวันนี้
ทุกอย่างเหมือนกำลังจะไปได้ดี แต่แล้วเหมือนโชคชะตาเล่นตลกอีกครั้ง เมื่อเจ้าของห้องแถวที่เช่าอยู่มาขอเรียกพื้นที่คืน ด้วยความที่ต้องระหกระเหินย้ายที่ทำมาหากินครั้งแล้วครั้งเล่า มนต์จึงคิดอยากตัดปัญหาให้จบลง เขากัดฟันกู้เงินกว่าหลายล้านบาท เพื่อมาเซ้งห้องเช่าที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงกันบนถนนดินสอ ซึ่งเปิดให้เซ้งอยู่พอดี และจากจุดนั้นเองที่ทำให้มนต์นมสดได้มีร้านของตัวเองขึ้นมาอย่างแท้จริง
โดยเปิดให้บริการขึ้นมาเมื่อปี 2537 มีการจัดแต่งภาพลักษณ์ร้านใหม่ให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น มีการติดแอร์ ติดผนังกระจกใส ตกแต่งด้วยดวงไฟสว่างไสว จนกลายมาเป็นภาพของร้านมนต์นมสด ร้านนมชื่อดังย่านศาลาว่าการกรุงเทพและเสาชิงช้าที่เห็นกันในปัจจุบันที่ไม่ว่าเข้าไปเมื่อไหร่ ก็ไม่เคยว่างเว้นจากผู้คนทุกเพศทุกวัยเลย
และถึงแม้จะเป็นร้านยอดนิยม มีคนรู้จักเพิ่มขึ้นมากมาย แต่มนต์นมสดก็ไม่เคยมีความคิดที่จะขายแฟรนส์ไชส์ หรือขยายสาขาออกไปจำนวนมากๆ เหตุผลไม่ใช่เพราะห่วงสูตรลับ แต่เป็นเพราะอยากคงคุณภาพเอาไว้ด้วยตนเอง
ที่สำคัญ คือ เพราะอยากคงความรู้สึกพิเศษของธุรกิจเอาไว้ ที่หากใครอยากมากินก็ต้องมาที่ร้านต้นตำรับหรือสาขาของครอบครัว เพราะเชื่อว่าจะสามารถสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าได้มากกว่า เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน เหมือนเช่นกับวันวานนั่นเอง
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
