TEXT : กองบรรณาธิการ
PHOTO : กิจจา อภิชนรจเรข และ เจษฎา ยอดสุรางค์
Main Idea
- “เจ๊ง้อ-ณชนก แซ่อึ้ง” เป็น SME สู้ชีวิต ที่เริ่มธุรกิจตอนอายุกว่า 60 ปี นับถึงวันนี้วัยล่วงเลยมากว่า 80 ปีแล้ว
- ครัวเจ๊ง้อเปิดสาขาแรกที่สี่พระยา เมื่อปี 2542 ผ่านมา 21 ปี ครัวเจ๊ง้อขยายมามี 11 สาขา และสาขา สุขุมวิท 20 ยังเป็นร้านแนะนำจาก MICHELIN Guide Thailand อีกด้วย
- หลายเมนูในร้าน เจ๊ง้อคือเจ้าแรกที่ทำ ก่อนจะเป็นเมนูดังไปทั่วประเทศ เช่น หมี่ผัดกะเฉด ผัดผักบุ้งซอย ฯลฯ แม้แต่เผือกหิมะ เจ๊ง้อก็เป็นเจ้าแรกที่เอาสูตรจากฮ่องกงมาบุกเบิกความอร่อยในประเทศไทย
“เจ๊ง้อ-ณชนก แซ่อึ้ง” คืออดีตช่างตัดเสื้อที่เริ่มธุรกิจในวัยกว่า 60 ปี มีร้านแรกเมื่อปี 2542 ตรงสี่พระยา ผ่านมา 21 ปี ครัวเจ๊ง้อขยายมามี 11 สาขา ขณะที่สาขา สุขุมวิท 20 ยังเป็นร้านแนะนำจาก MICHELIN Guide Thailand อีกด้วยวันนี้ “เจ๊ง้อ” อยู่ในวัยกว่า 80 ปี เธอยังเป็นแม่ง้อของทุกคน เป็นตำนานที่ยังหายใจ และอยู่เบื้องหลังความเป็นไปของครัวเจ๊ง้อในวันนี้
“เจ๊ง้อเป็นคนจีนแต่ชีวิตก็อย่างว่า พ่อแม่ลำบาก เราเป็นลูกมันก็ต้องลำบากเหมือนกัน ตอนเด็กๆ แม่ไม่ให้เรียนหนังสือ ทีแรกเปิดร้านทำผม หลังๆ ก็มาเปิดร้านตัดเสื้อซึ่งก็ดี เป็นคนชอบทำกับข้าว ลูกค้าส่วนมากเวลาเขาไปรับลูกที่โรงเรียน แล้วก็มาเอาเสื้อผ้า เขาเห็นว่าเรามีกับข้าวก็บอก กลิ่นหอมจัง เจ๊ง้อก็เป็นคนง่ายๆ บอกกินดูสิว่าอร่อยไหม เขาก็กินแล้วบอก โห อร่อยจริงๆ เลย เอาเงินมาให้บอกซื้อได้ไหมเลยบอกเขาว่า ไม่เอา เราไม่ได้ทำขายเราทำกินกันเอง แต่ตอนหลังเขาก็ไม่ยอม กินหลายๆ ครั้งเขาก็เกรงใจเลยไปแชร์กันเอาเงินมาให้เจ๊ง้อซื้อกับข้าวให้เขากินทุกวันเลย”
เจ๊ง้อบอกจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทุกคนได้รู้จัก “ครัวเจ๊ง้อ” ซึ่งเป็นธุรกิจที่เธอเริ่มในวัย 62 ปี และมีต้นทุนชีวิตเท่ากับ “ศูนย์” สิ่งที่ติดตัวมาก็แค่ทักษะการทำอาหารที่มีเท่านั้น
“ตอนนั้นก็คิดว่าเราอายุ 62 ปีแล้ว จะมาเปิดร้านอาหารได้ยังไง แก่แล้ว แต่ก็มีเพื่อนๆ บอกอี๊เปิดเลย ผมจะไปช่วย พอช่วยไปช่วยมาเจ้าของที่นี่บอกดีๆ ทำเลย ฉันจะแต่งร้านให้เธอฟรี” เจ๊ง้อเล่าจุดเริ่มต้นในวันนั้น
ความโดดเด่นของเจ๊ง้อ คือการเป็นนักสร้างสรรค์เมนูอาหารตัวยง โดยหลายเมนูในร้าน เจ๊ง้อคือเจ้าแรกที่ทำ ก่อนจะเป็นเมนูดังไปทั่วประเทศ เช่น หมี่ผัดกะเฉด ผัดผักบุ้งซอย ฯลฯ แม้แต่เผือกหิมะ เจ๊ง้อก็เป็นเจ้าแรกที่เอาสูตรจากฮ่องกงมาบุกเบิกความอร่อยในประเทศไทยด้วย
“เราทำเป็นทุกอย่างเลยนะ ไม่ว่าจะอาหารไทยอาหารจีน ทำเป็นหมด หลายปีก่อนเคยทำสุกี้แล้วก็ซอยผักบุ้งมาใส่อร่อยมากเลย บอกว่าเอาอย่างนี้แล้วกันถ้าเรามีโอกาสเปิดร้านเราต้องเอาผักบุ้งจานนี้มาผัดให้เขากินกัน อย่าง เส้นหมี่ผัดกระเฉด สมัยก่อนเขากินเจก็ไปซื้อหน้าโรงเจที่เป็นเส้นหมี่ผัดเฉยๆ เราก็มาคิดว่าอันนี้ถ้าใส่ผักนะจะดูน่ากินกว่า เลยไปซื้อผักกระเฉดมาผัด ซึ่งอร่อยจริงๆ ลูกค้าเจ๊ง้อส่วนมากเป็นแม่บ้าน เป็นครอบครัวมากิน แล้วก็เพื่อนๆ สังสรรค์โต๊ะแชร์อะไรแบบนี้ เขามากินเสร็จตอนจะเดินออกไปเขายก 2 นิ้วให้” เจ๊ง้อเล่าความอร่อยของฝีมือที่คนกินต้องยกนิ้ว
วันนี้ธุรกิจอยู่มาได้ 21 ปี และเจ๊ง้อก็เป็นผู้ประกอบการวัยกว่า 80 ปีแล้ว แต่เธอก็ยังบอกตัวเองเสมอว่าไม่ได้สำเร็วหรือเก่งกว่าใคร เพียงแต่ตั้งใจทำธุรกิจให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นได้เท่านั้น
“ก็ไม่กล้าคิดว่าเราสำเร็จ หรือเราเก่ง มันมีคนเก่งกว่าเราเยอะแยะนะ เราก็ต้องพยายามดูอาหารเราดีๆ ถึงจะยังไงก็ต้องดูให้ดีที่สุด ต้องเอารสชาติให้เหมือนเดิม แล้วก็จะซื้อของอะไรก็ซื้อของดีๆ หน่อยมาทำให้มีคุณภาพ”
ในวันที่วิกฤติโควิด-19 มาเยือน ครัวเจ๊ง้อเป็นอีกกิจการที่ประสบปัญหาอย่างหนัก ถึงขนาดที่เจ๊ง้บอกว่าหนักที่สุดตั้งแต่ทำธุรกิจมา แต่เธอยังเลือกเลี้ยงลูกน้องและประคับประคองกิจการให้เดินหน้า และยังมีกำลังใจที่ดีให้ผู้ประกอบการรายอื่นอยู่เสมอ
“ตอนนี้ก็ต้องอดทนไปก่อน ต้องสู้ชีวิตเราไปก่อน อย่างลูกน้องเงินเดือนอะไรเราก็ไม่ได้ไปหักเขา ยังจ่ายเขาเต็ม แล้วก็เห็นใจกัน แต่ตัวเราก็เขียมๆ หน่อย ตอนนี้อยากบอกทุกคนว่า สู้ต่อไปนะ พยายามดูแลดีๆ เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีเอง”
เธอทิ้งท้ายไว้เช่นนั้น ในฐานะคนที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตและการทำธุรกิจมานานหลายปี และเชื่อว่าในวันที่แย่ที่สุดถ้ายังดูแลตัวเองให้ดี เดี๋ยวทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี