
Main Idea
- ในวงการเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้ง ราคาซื้อขายเก้าอี้หวายของแบรนด์ไฮเอนด์สูงถึงหลักแสนบาทต่อชุด แต่เมื่อหันมองแหล่งผลิตในเอเชีย กลับสามารถผลิตสินค้าคุณภาพเดียวกันได้ในราคาต่ำกว่ามาก ซึ่ง Jay Dillon และพ่อของเขาได้เห็นโอกาสของธุรกิจนี้
- การเกิดขึ้นของแบรนด์ “Yardbird” ไม่เพียงแค่อยากขายสินค้าคุณภาพดีในราคาถูก แต่เริ่มต้นด้วยจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม พวกเขาตั้งใจผลิตชิ้นงานจากขยะพลาสติกที่ถูกดักจับในมหาสมุทรออกมาขาย เป็นวิธีที่ทำให้ผู้คนเพลิดเพลินกับกิจกรรมกลางแจ้งโดยไม่ทำลายโลกไปพร้อมกัน

รู้หรือไม่ว่าในวงการเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ไฮเอนด์ซื้อขาย ชุดโต๊ะเก้าอี้หวาย กันในราคาไม่ต่ำกว่า 5,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 158,000 บาท) ชายที่ชื่อว่า “Jay Dillon” จึงได้ปรึกษาพ่อของเขาที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ เพื่อหาแหล่งผลิตในเอเชียที่เสนอราคาให้เพียง 1 ใน 7 ของราคาตลาด เขาเห็นลู่ทางในการทำธุรกิจทันที และนั่นคือที่มาของแบรนด์ Yardbird ที่สองพ่อลูกไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อจะขายเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้งคุณภาพดีในราคาที่ถูก แต่ความตั้งใจของพวกเขายิ่งใหญ่กว่านั้น คือการผลิตสินค้าจากพลาสติกที่มาจากขยะในมหาสมุทรนั่นเอง

โดย Dillon ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง และมองหาวิธีสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เขาเคยได้ยินว่า มีแบรนด์ใหญ่ที่นำพลาสติกรีไซเคิลมาใช้ในการผลิต แต่กระบวนการดังกล่าว มีขั้นตอนมากและต้นทุนก็สูงเกินไป เขาจึงเดินทางไปพบกับผู้เชี่ยวชาญด้านพลาสติกโดยตรงและสร้างความสัมพันธ์กับโรงงานรีไซเคิลในฟิลิปปินส์ เพื่อหากระบวนการที่ดีที่สุด
พวกเขาใช้เวลา 3 ปี ในการรวบรวมพลาสติกจากชายหาด ท้องทะเลและพื้นที่อื่นๆ ในฟิลิปปินส์ กว่า 40,000 กิโลกรัม นำไปให้โรงงานรีไซเคิลจัดการ และส่งต่อให้กับโรงงานสานของพวกเขาถักทอพลาสติกให้กลายเป็นเฟอร์นิเจอร์เอาท์ดอร์ขึ้นมา

สินค้าของ Yardbird มีลักษณะเหมือนเครื่องสานด้วยหวายแบบดั้งเดิม แต่ความจริงแล้วผสมพลาสติกรีไซเคิลอยู่ถึง62 เปอร์เซ็นต์ ทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า ก่อนจะบรรจุด้วยแพ็กเกจจิ้งที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลแล้วส่งถึงบ้านลูกค้า ที่สำคัญเฟอร์นิเจอร์ที่หมดอายุการใช้งานก็สามารถนำไปรีไซเคิลอีกครั้งได้แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยที่ผู้ใช้งานสามารถติดต่อมาให้บริษัทมารับกลับไปชุบชีวิตใหม่ได้ด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น ในฐานะที่เป็นองค์กรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม Yardbird ยังเข้าร่วมกับ Carbon Fund เพื่อชดเชยคาร์บอนฟุตปรินท์ 100 เปอร์เซ็นต์ อีกด้วย

ผลจากความตั้งใจของ Yardbird ทำให้หลังจากเปิดตัวขึ้นในปี 2560 พวกเขาสามารถทำเงินได้ถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐภายใน 1 เดือน และ 1 ปีหลังจากนั้น พวกเขาก็สามารถทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 4 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือนเลยทีเดียว
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี