เปิดอาณาจักร “ฮั่วเซ่งเฮง” ตำนานห้างขายทองครบวงจรของเมืองไทย

TEXT : นิตยา สุเรียมมา
PHOTO : ฮั่วเซ่งเฮง
 


 

Main Idea
 
  • “ฮั่วเซ่งเฮง” ร้านขายทองเก่าแก่บนถนนเยาวราชที่มีอายุกว่า 70 ปี แม้ไม่ใช่ร้านทองร้านแรก แต่ก็ถือเป็นร้านทองผู้บุกเบิกบนถนนเยาวราชในยุคแรกๆ ที่สร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จัก
 
  • นอกจากคุณภาพของทองที่ได้รับการยอมรับในมาตรฐานการผลิตแล้ว ฮั่วเซ่งเฮงยังถือเป็นธุรกิจค้าทองคำที่มีความครบวงจร ตั้งแต่การขายทองรูปพรรณ ทองคำแท่ง การซื้อขายทองออนไลน์ ไปจนถึงการลงทุนและซื้อขายทองคำในตลาดค้าทองโลกอีกด้วย

 
               
     “มีเงินนับเป็นน้อง มีทองนับเป็นพี่…”


     คำพังเพยที่มักได้ยินกันอยู่บ่อยๆ นำมาใช้เปรียบเปรยถึงผู้มีฐานะดี มีเงินทองใช้สอยไม่ขาดมือ เพราะไม่ว่าตั้งแต่ยุคสมัยใดมาแล้ว ทองคำ ถือเป็นเครื่องประดับล้ำค่า เป็นแร่ธรรมชาติที่มนุษย์ให้ความสำคัญและให้ค่ามาตั้งแต่โบราณกาล  ประเทศใดเมืองใดหรือผู้ใดมีทองคำมาก ก็ถือว่าเป็นผู้มีอำนาจ ร่ำรวย มีผู้นับหน้าถือตามากมาย





     โดยหากจะกล่าวถึงสถานที่จำหน่ายทองมีชื่อของเมืองไทยที่ทำการค้าขายทองมายาวนาน คงหนีไม่พ้นถนนเยาวราช หรือชื่อเดิมคือ ถนนยุพราช ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านทองมากมาย หนึ่งในนั้นคือ “ฮั่วเซ่งเฮง” ร้านขายทองเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 70 ปี แม้จะไม่ใช่ร้านทองแห่งแรกบนถนนเยาวราช (ร้านแรก คือ ตั้งโต๊ะกัง) แต่ฮั่วเซ่งเฮงก็ถือเป็นร้านทองยุคแรกๆ ที่ทำให้ทองเยาวราชเป็นที่รู้จักและยอมรับของผู้บริโภคชาวไทยว่าเป็นทองเนื้อดี มีคุณภาพสูง ได้มาตรฐาน โดยทุกชิ้นงานจะมีตราสัญลักษณ์ของร้านตอกประทับเอาไว้เสมอ ภายหลังเมื่อมีร้านทองเปิดขายจำนวนมากขึ้น เยาวราชจึงได้รับการขนานนามว่าเป็นถนนสายทองคำในที่สุด
               




     ร้านทองฮั่วเซ่งเฮงแห่งแรกถือกำเนิดขึ้นเมื่อ ปี 2493 ซึ่งก็คือสาขาแปลงนามนั่นเอง โดยเริ่มต้นมาจากธุรกิจโรงรับจำนำเล็กๆ มาก่อน ภายหลังจึงตัดสินใจเปิดเป็นร้านขายทองรูปพรรณขึ้นมา โดยไม่เพียงผลิตทองคำที่ได้มาตรฐาน แต่ยังให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ โดยมีการทำโฆษณาทางโทรทัศน์และสื่อต่างๆ เพื่อให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น จนสามารถเปลี่ยนรูปแบบจากร้านขายทองตู้แดงทั่วไป มีการขยับขยายพื้นที่และติดแอร์เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น ทำให้ได้รับความนิยมจากลูกค้า จนภายหลังร้านอื่นๆ นำไปทำตามบ้าง





     โดยร้านทองฮั่วเซ่งเฮงอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของครอบครัวพสวงศ์ ซึ่งปัจจุบันดูแลโดยทายาทรุ่นที่ 2 และ 3 คำว่า “ฮั่วเซ่งเฮง” เป็นคำภาษาจีนมีความหมายโดยรวมว่า “ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน” และยังหมายถึงความสำเร็จ ความซื่อสัตย์ ขยันอดทนอีกด้วย


     เส้นทางการดำเนินธุรกิจของฮั่วเซ่งเฮง ไม่ได้มีแค่เพียงการขายทองรูปพรรณเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังแตกไลน์สู่รูปแบบการค้าทองคำที่หลากหลาย เพื่อเป็นทางเลือกและตอบสนองความต้องการของลูกค้า รวมถึงการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ เช่น การซื้อขายทองคำแท่งผ่านระบบออนไลน์ หรือตู้ซื้อขายทองคำอัตโนมัติ (Gold Express)





     โดยหากแบ่งรูปแบบการทำธุรกิจของกลุ่มฮั่วเซ่งเฮงสามารถแบ่งได้เป็น 3 ส่วน คือ ห้างขายทองรูปพรรณฮั่วเซ่งเฮง 6 สาขา, บริษัทด้านการลงทุนและนำเข้าส่งออกทองคำแท่ง (ฮั่วเซ่งเฮง คอมโมดิทัซ) และบริษัทนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินค้าประเภทโลหะ (ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส)


     มีข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ได้เปิดเผยข้อมูลรายได้ของกลุ่มธุรกิจฮั่วเซ่งเฮงในปี 2559 โดยหากนำมารวมกันทุกกลุ่มแล้วจะมีรายได้รวมประมาณ 584,403 ล้านบาททีเดียว โดยคิดเป็นกำไรอยู่ที่ 253 ล้านบาท





     และนี่เอง คือ ที่มาของร้านขายทองครบวงจรของเมืองไทย ซึ่งการดำเนินธุรกิจของกลุ่มฮั่วเซ่งเฮงแสดงให้เห็นว่าถึงแม้จะเป็นธุรกิจที่ดูเหมือนแตกไลน์อะไรออกไปได้ไม่มาก เพราะทองคำยังไง ก็คือ ทองคำ แต่ด้วยการไม่ยอมหยุดนิ่งอยู่กับที่พยายามค้นหาช่องทางการทำธุรกิจใหม่ๆ จนในที่สุดก็สามารถแตกไลน์รูปแบบการให้บริการและธุรกิจใหม่ขึ้นมาได้ สมกับที่มาของชื่อฮั่วเซ่งเฮง - การรวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และนำพาธุรกิจให้เจริญเติบโตรุ่งเรืองมาอย่างทุกวันนี้นั่นเอง
 


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

พลิกตำรายา 150 ปี สู่อาณาจักรสุขภาพแห่งอนาคต ทายาทขุนอภิบาลบ่อพลับ ร่วมสร้างธุรกิจครอบครัว

เป้าหมายการทำธุรกิจของหลายคนอาจเป็นเรื่องรายได้ แต่สำหรับ ต๊อก-ปีรัชด์ อนันตพันธ์ และ แต๊ก-ปานชาติ มิตรกูล มีเป้าหมายสร้างแบรนด์ "อภิบาลบ่อพลับ" เพื่อให้ทุกคนได้ระลึกถึงตำรายาไทย 150 ปี จากบรรพบุรุษของเขาที่ชื่อ ขุนอภิบาลบ่อพลับ

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย