‘1 of a kind’ เสิร์ฟ DIY Kit ที่จะเปลี่ยนคุณให้เป็นเชฟในช่วงกักตัวหนีไวรัส

TEXT : ยุวดี ศรีภุมมา 



 
 
Main Idea
 
 
  • ร้านอาหารคือธุรกิจที่กำลังปรับตัวอย่างหนักเพื่อต่อสู้กับสถานการณ์ไวรัสในปัจจุบัน แถมตอนนี้ยังห้ามลูกค้านั่งรับประทานที่ร้านอีกด้วย 
 
  • นอกจากการปรับไปเป็นเดลิเวอรีแล้ว อีกหนึ่งไอเดียเจ๋งๆ คือการออกชุดทำอาหารกึ่งสำเร็จรูปหรือ DIY Kit ฉีกซองแล้วทำตามขั้นตอนก็ทานได้ทันที และนี่คือไอเดียดีๆ จากร้าน “1 of a kind” 
 
___________________________________________________________________________________________
 

 
     คำว่ายาก อาจจะดูเบาเกินไปในช่วงที่ผู้ประกอบการทุกคนต้องสู้กันยิบตาเพื่อเอาตัวรอดในตอนนี้ หลายธุรกิจเริ่มปรับตัว เปลี่ยนแผนกันแบบรายวันเพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าแบบไม่สะดุด โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหาร คาเฟ่ต่างๆ ที่เริ่มผันตัวเองมาให้บริการเดลิเวอรีกันแบบเต็มตัว 




     แต่หนึ่งในโมเดลสุดเก๋ช่วงนี้นั่นคือการเสิร์ฟอาหารแบบ DIY Kit ให้ลูกค้าซื้อกลับแล้วไปทำต่อเองที่บ้าน นอกจากจะได้ความสดใหม่ของอาหารทุกจานแล้วยังอร่อยเหมือนได้นั่งกินที่ร้านเลยล่ะ




 
     โดยไอเดียดังกล่าวเป็นของร้าน “1 of a kind” คาเฟ่สุดเท่ในย่านพระราม 9 ที่ไม่ได้ขายอาหารเพียงอย่างเดียว เพราะเขาเริ่มต้นมาจากการขายเฟอร์นิเจอร์สไตล์สแกนดิเนเวียน ด้วยความหลงใหลในเฟอร์นิเจอร์สไตล์นี้กอปรกับชอบทำอาหารและเรียนทำขนมมา ทำให้ “พรรณสวลี พิมพ์สมฤดี” ได้นำความชอบทั้ง 2 อย่างมาผสมผสานให้กลายเป็นพื้นที่สุดกลมกล่อมที่มีทั้งเฟอร์นิเจอร์แสนอบอุ่นตกแต่งทั่วร้านอาหาร หากลูกค้าชื่นชอบชิ้นไหนเป็นพิเศษก็สามารถจ่ายเงินแล้วยกกลับบ้านไปได้เลยด้วย 




     1 of a kind เกิดมาแล้ว 7 ปี ถ้านับถึงวันนี้ก็อายุ 7 ขวบกว่าๆ และเป็นช่วงเวลาที่ร้านเติบโตขึ้นแถมยังมีการเปลี่ยนไปจากในช่วงแรกพอสมควร 


     “เปลี่ยนไปเยอะ เราเปิดร้านไปก็เหมือนค่อยๆ ขึ้นบันได แรกๆ เราจะลงไปกับเฟอร์นิเจอร์เยอะมาก เพราะชอบ สะสม ในขณะที่คาเฟ่เป็นแค่ส่วนหนึ่ง เหมือนบ้านหลังหนึ่ง มีสี่ส่วน แล้วหนึ่งในสี่นั้นคือคาเฟ่ แต่เวลาผ่านไป เสียงตอบรับของคาเฟ่เยอะขึ้น เราก็ขยายใหญ่ขึ้นมาเรื่อยๆ จนวันนี้กลายเป็นร้านอาหารที่ใหญ่กว่าเฟอร์นิเจอร์แล้ว ต้องสลับกันเพื่อความอยู่รอด ด้วยความที่เฟอร์นิเจอร์เราเฉพาะกลุ่มมาก เป็นของเก่าด้วย ถ้าคนชอบดีไซน์จะเข้าใจ แต่ถ้าคนไม่ชอบของเก่าก็จะไม่เข้าใจ” พรรณสวลี เล่าถึงความเปลี่ยนแปลงของร้านจนถึงปัจจุบัน 




     ล่าสุดทางร้านได้ออกบริการใหม่ หลังจากที่มีมาตรการห้ามนั่งรับประทานอาหารที่ร้าน โดย 1 of a kind จึงได้เสิร์ฟ DIY Kit เป็นชุดทำอาหารกึ่งสำเร็จรูป แค่เปิดเตา ฉีกซอง ทำตามขั้นตอนก็พร้อมรับประทาน เมนูต่างๆ จะมีสปาเกตตี สเต๊ก ยำหมูย่างสไตล์ไทยๆ เพียงเท่านี้คุณก็กลายเป็นเชฟได้ง่ายๆ อยู่ที่บ้านแล้วล่ะ 

 
     “ธุรกิจอาหารมันเริ่ม Slow มาพักหนึ่งแล้ว ก่อนหน้านี้เวลาคนสั่งกลับบ้านเราจะมองตลอดและถามลูกค้าว่าถ้าซื้อกลับบ้านแบบนี้ ยังอร่อยอยู่ใช่ไหม เขาก็บอกว่ามันยังโอเคอยู่ แต่เราก็จะรู้สึกว่าจะโอเคจริงๆ เหรอ ทำไมไม่นั่งกินที่ร้าน คือร้านก็ขึ้นๆ ลงๆ มาโดยตลอดแต่ยังไม่ถึงกับลงเหวเลยนะ ด้วยความที่ช่วงต้นเดือนคนเริ่มน้อยลง พอมีไวรัสก็ยิ่งน้อยลงไปอีก เราฉีดสเปรย์ก็แล้ว คิดว่าตัวเองทำสะอาดที่สุด ลูกค้าก็ยังน้อย เลยมานั่งคิดว่าอยากทำอะไรให้ลูกค้าสามารถซื้อกลับไปกินที่บ้านแล้วยังโอเคอยู่ ทีนี้พอเขาเริ่มออกมาตรการห้ามคนมานั่งที่ร้าน ก็เลยทำออกมาเลยเป็นชุด DIY เพราะคิดว่าคุณภาพอาหารสำคัญ ตอบโจทย์อะไรหลายๆ อย่าง เช่น คน Work From Home หรือว่าบางบ้านที่คุณแม่ซื้อไปทำให้ลูกทาน” เธอเล่าถึงชุดทำอาหารของทางร้านที่ตอบโจทย์ลูกค้าในสถานการณ์ ณ  วันนี้


 


     นอกจากนี้ทางร้านยังได้สร้างแคมเปญเพื่อสร้างความสนุกให้แก่ลูกค้าด้วยแคมเปญ “Time to be 1 of a kind Chef” โดยให้ลูกค้าที่ซื้อชุด DIY Kit ของทางร้านไปทำอาหารแล้วจัดจานให้สวย ดูดี โพสต์ภาพและติด Hashtag #TimeToBe1ofAKindChef #1ofAKindCookingChallenge ก็จะได้ลุ้นรับรางวัลจากทางร้าน เป็นไอเดียที่อยากให้ลูกค้าได้ความสนุกจากการทำอาหารและมีปฏิสัมพันธ์กับทางร้านได้มากขึ้นด้วย


     และในวันนี้ที่ธุรกิจร้านอาหารกำลังถูกท้าทายเหมือนกำลังเล่นเกมด่านสุดท้ายที่ต้องต่อสู้กับตัวบอส หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าหนักและยากมาก ซึ่ง 1 of a kind เองก็กำลังปรับตัวอย่างหนักเช่นกัน 


     “ถ้าเทียบกับเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ตอนนั้นคนเยอะทุกวัน จนมาถึงตอนนี้ 7 ขวบปุ๊บ คนน้อยลง มีร้านเปิดใหม่เยอะขึ้น ยกกำลังสิบเลย คิดว่ามันยากขึ้น เราปรับตัวแหละจากเมื่อก่อนมีแต่ฮิปสเตอร์ เดี๋ยวนี้ก็มีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายขึ้น เช่น คุณป้า คุณน้า คุณอา ลูกค้าที่เคยมาเมื่อก่อนตอนยังไม่มีลูก ตอนนี้ก็พาลูกมา เราก็ปรับไปตามที่มันควรจะเป็น เลยทำให้มันไม่แย่มาก แต่ยากกว่าเดิมเพราะต้องคิดตลอดเวลา แต่ก่อนเราอาจจะไม่ได้คิดเยอะขนาดนี้ ก็ขายๆ ไป ตอนนี้ขนาดอาหารมิชลินยังต้องซื้อกลับบ้านเลย เราก็ต้องคิดแล้วว่า ฉันจะทำอะไรต่อดี มันยากขึ้นเรื่อยๆ” เธอเล่าปิดท้าย


 

     แม้ว่าจะยากแต่ก็ยังต้องสู้กันต่อไป ท่ามกลางวิกฤตในตอนนี้แต่ละธุรกิจคงกำลังต่อสู้กันสุดตัว แต่เราเชื่อว่าทุกวิกฤตจะมีโอกาสซ่อนตัวอยู่เสมอเหมือนอย่าง 1 of a kind ที่ได้ลุกขึ้นมาเสิร์ฟ DIY Kit เจ๋งๆ ตอบโจทย์ลูกค้าในช่วงกักตัวหนีไวรัสเช่นนี้ สมเป็นร้าน 1 ในโลกล้าจริงๆ! 
 

 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

พลิกตำรายา 150 ปี สู่อาณาจักรสุขภาพแห่งอนาคต ทายาทขุนอภิบาลบ่อพลับ ร่วมสร้างธุรกิจครอบครัว

เป้าหมายการทำธุรกิจของหลายคนอาจเป็นเรื่องรายได้ แต่สำหรับ ต๊อก-ปีรัชด์ อนันตพันธ์ และ แต๊ก-ปานชาติ มิตรกูล มีเป้าหมายสร้างแบรนด์ "อภิบาลบ่อพลับ" เพื่อให้ทุกคนได้ระลึกถึงตำรายาไทย 150 ปี จากบรรพบุรุษของเขาที่ชื่อ ขุนอภิบาลบ่อพลับ

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย