PHOTO : Pae Yodsurang
Main Idea
- จากร้านขายยาสมุนไพรจีนอายุกว่าร้อยปีย่านถนนเจริญกรุง ในวันนี้ “เอี๊ยะแซ” ได้ต่อยอดแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดหลายตัวด้วยกัน ล่าสุด คือ “ลูกอมสมุนไพรจีนเข้มข้น” ซึ่งได้ไอเดียมาจากน้ำสมุนไพรในตู้แช่หน้าร้านขายยา
- นอกจากการแตกไลน์ต่อยอดผลิตภัณฑ์ออกมาจากแบรนด์หลักแล้ว ทิศทางของร้านสมุนไพรจีนที่อยู่มาเกินกว่าศตวรรษนี้จะเป็นเช่นไร ทายาทแต่ละคนได้เข้ามามีบทบาทสำคัญอะไรบ้าง ไปติดตามพร้อมๆ กัน
หากยังพอจำกันได้สมัยก่อนเมื่อตอนเป็นเด็กเวลาเดินผ่านร้านขายยาสมุนไพรจีนโบราณไปกับคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ใหญ่ที่บ้าน การแวะจิบน้ำสมุนไพรเย็นๆ จากตู้แช่อย่างเก๊กฮวย หล่อฮังก๊วย จับเลี้ยง เพื่อดับกระหายคลายร้อนนั้น เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนชื่นชอบ และไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถดื่มได้เช่นกัน
จากภาพจำนี้ ทำให้ นพรัตน์ เฉลิมชัยกิจ ทายาทรุ่นที่ 4 ของร้านขายยาสมุนไพรจีน “เอี๊ยะแซ” ร้านขายยาเก่าแก่ย่านถนนเจริญกรุงที่มีอายุกว่าหนึ่งร้อยปี ได้คิดหยิบภาพบรรยากาศความทรงจำดังกล่าวที่เคยเห็นตั้งแต่เมื่อตอนเป็นเด็กเวลามีลูกค้าแวะเข้ามาซื้อน้ำดื่มจากตู้แช่หน้าบ้าน มาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมาในรูปแบบของลูกอมสมุนไพรจีนให้สามารถพกพาได้ง่ายขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็คงรสชาติความหวานอร่อยมีประโยชน์ของน้ำสมุนไพรเข้มข้นไว้เช่นเดิม
ปั้นน้ำให้เป็นตัว เปลี่ยนสมุนไพรในตู้แช่ สู่ลูกอมแสนอร่อย
“แรงบันดาลใจของการสร้างผลิตภัณฑ์ตัวนี้ขึ้นมา คือ เริ่มต้นจากธุรกิจที่บ้านเป็นร้านขายยาสมุนไพรจีนโบราณซึ่งมีอายุกว่าร้อยปีแล้ว เราเป็นเจเนอเรชันที่ 4 ก็จะเห็นตู้แช่น้ำสมุนไพรนี้มาตั้งแต่เด็ก ผู้คนส่วนใหญ่เวลาผ่านไปมาหน้าร้านขายยาก็จะชอบแวะซื้อดื่มเป็นประจำ เลยเกิดไอเดียจากสิ่งที่เห็นอยู่ทุกวัน ว่าถ้าจะต่อยอดให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่กว้างขึ้นได้ นอกจากขายอยู่ที่ร้านขายยาเพียงอย่างเดียวเราจะทำเป็นอะไรได้อีกบ้าง ก็เลยนึกถึงการทำลูกอมสมุนไพรขึ้นมา แรกๆ ก็แค่นึกสนุกๆ แต่พอลองทำจริงๆ มันก็สามารถทำขายเป็นธุรกิจได้ด้วย เลยลองปรึกษาเพื่อน (ปิยนุช ปัญญาทรานนท์) และร่วมกันทำขึ้นมา ในชื่อของ ‘ลูกอมสมุนไพรจีนเข้มข้นเอี๊ยะแซ’’’ โดยมีคอนเซปต์ คือ ทำให้มีรสชาติเข้มเข้นเหมือนได้ดื่มน้ำสมุนไพรจีนโบราณจากร้านขายยา แต่ขณะเดียวกันก็สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้ด้วย แถมยังมีประโยชน์แทนที่จะเป็นแค่ลูกอมธรรมดาทั่วไป ซึ่งเราให้สัดส่วน 50-50 เลย ระหว่างลูกอมและความเป็นสมุนไพร คือ ต้องกินแล้วอร่อย ขณะเดียวกันก็ต้องมีประโยชน์อย่างเข้มข้นด้วย” เธอเล่า
โดยรสชาติของลูกอมเอี๊ยะแซที่ผลิตออกมานั้นจะเลียนแบบมาจากน้ำสมุนไพรในตู้แช่ที่วางขายอยู่หน้าร้านขายยา และบางส่วนก็มาจากสมุนไพรยอดนิยมของคนไทยด้วย ในช่วงเริ่มต้นผลิตออกมาด้วยกัน 4 รสชาติ ได้แก่ เก๊กฮวย หล่อฮังก๊วย จับเลี้ยง และขิง โดยแต่ละตัว แต่ละรสชาติ ก็มีสรรพคุณแตกต่างกันออกไป แต่บางอย่างก็คล้ายคลึงกัน อาทิ เก๊กฮวย แก้ร้อนใน ชุ่มคอ บำรุงสายตา, หล่อฮังก๊วย ชุ่มคำ ละลายเสมหะ, จับเลี้ยง แก้ร้อนใน ดับพิษร้อน และขิงช่วยไล่ลม แก้วิงเวียน จำหน่ายในราคาซองละ 60 บาท
ความเชื่อใจ คุณสมบัติที่ใครก็ยากจะเลียนแบบ
เสียงตอบรับหลังจากออกสู่ตลาด นพรัตน์เล่าว่า ค่อนข้างเป็นที่ถูกใจของลูกค้า ส่วนหนึ่งแม้ไม่เคยชิมรสชาติมาก่อน แต่ก็มีความมั่นใจในแบรนด์เอี๊ยะแซ จึงทำให้เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคได้ไม่ยาก
“ยอมรับเลยว่าทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เราเพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้เอง โดยไปออกงานแรกที่ TCDC ตอนนั้นตัวอย่างอะไรก็ไม่ได้มีให้ลองชิมเลย เพราะต้องรีบทำออกมาให้ทันขาย แต่ด้วยความที่เป็นเอี๊ยะแซลูกค้าเลยค่อนข้างให้ความไว้วางใจ พอเขาได้ลองชิมรสชาติ ก็ถูกใจ และรู้สึกไม่ผิดหวังที่ซื้อไป เพราะมีความเข้มข้นความรู้สึกไม่แตกต่างจากที่ได้ดื่มน้ำสมุนไพรจริงๆ ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นจุดแข็งของเราเลยก็ว่าได้ เพราะถ้าไม่ใช่ร้านขายยาสมุนไพร เราก็คงไม่คิดทำสิ่งนี้ขึ้นมา เพราะเราเองก็คงไม่มีความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ แต่อันนี้เรากล้าพูดได้เต็มปากว่า คือ สมุนไพรแท้ และเราใส่ลงไปเยอะมากเพื่อให้เข้มข้น สิ่งที่ทำขึ้นมาเราไม่ได้เริ่มจากโมเมทำขึ้นมาเอง แต่มีที่มาที่ไปและมาจากตัวตนของเราจริงๆ ที่ทำสืบต่อกันมายาวนานเป็นร้อยๆ ปี จึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้ ซึ่งก็ยากที่ใครจะเลียนแบบ”
โดยช่องทางการจำหน่ายของลูกอมสมุนไพรจีนเข้มข้นเอี๊ยะแซปัจจุบัน ได้แก่ หน้าร้านขายยาเอี๊ยะแซ และในช่องทางออนไลน์ต่างๆ อาทิ เฟซบุ๊ก ไลน์แอด ช้อปปี้ ลาซาด้า อีกไม่นานในอนาคตอันใกล้นี้กำลังติดต่อเพื่อเข้าไปจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไปอีกด้วย
และนี่แหละที่มาของสินค้าไอเดียสร้างสรรค์ ที่เพียงแค่พลิกวิธีคิดเพียงนิดเดียว ก็สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมาได้ จากน้ำสมุนไพรในตู้แช่ ก็กลายมาเป็นลูกอมสมุนไพรเข้มข้นที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก กระหายน้ำเมื่อไหร่ก็หยิบออกมาอมให้ชุ่มคอได้ในที่สุด
- Did you know
เบื้องหลังการพัฒนาผลิตภัณฑ์ฉบับทายาทเอี๊ยะแซ
นอกจากเรื่องของลูกอมสมุนไพรที่เป็นนวัตกรรมสินค้าใหม่ เรายังได้พูดคุยกับนพรัตน์เพิ่มเติม ถึงประเด็นการเติบโตของแบรนด์เอี๊ยะแซะ และการสานต่อของทายาทธุรกิจ ซึ่งถึงแม้จะเป็นธุรกิจเล็กๆ แต่ก็มีความแข็งแกร่งและสามารถยืนหยัดมาได้ยาวนานเป็นร้อยๆ ปี แถมทำอะไรออกมา ก็มักได้ผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคมาตลอด
- ภาพจากที่เห็นเอี๊ยะแซ คือ ร้านขายยาจีนร้านหนึ่ง และเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากการผลิตยาดมออกมาขาย จนถึงลูกอมสมุนไพร อยากทราบถึงที่มาของการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ออกมา
จริงๆ สินค้าในแบรนด์เอี๊ยะแซที่ผลิตออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ นอกจากการให้บริการจำหน่ายยาสมุนไพรจีน ยังมีอีกหลายตัวด้วยกัน ไม่ใช่แค่ยาดมหรือลูกอม โดยย้อนไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน ยาดมเอี๊ยะแซ คือ สินค้าตัวแรกที่ทำออกมาขาย โดยเป็นความคิดจากน้องชายที่มักจะเห็นลูกค้าชอบมาถามถึงสูตรยาดมของเรา เพราะปกติเราจะทำยาดมสูตรเฉพาะให้ลูกค้ารายบุคคค แต่ละคนก็ไม่เหมือนกันแตกต่างกันไปตามอาการ แต่พอใช้ดีเขาเลยบอกต่อ น้องชายเลยเกิดความคิดอยากให้ทำเป็นสูตรยาดมที่คนทั่วไปใช้ได้ออกจำหน่ายด้วย นั่นเป็นครั้งแรกที่เอี๊ยะแซได้ทำผลิตภัณฑ์ออกมาจำหน่าย
จากนั้นน้องชายอีกคนก็ได้คิดทำยาแคปซูลซึ่งในภาษาจีนเรียกว่า “จับซาไท้เป้า” ออกมา เป็นยาบำรุงครรภ์ ซึ่งเป็นสูตรยาอีกตัวที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าเข้ามาซื้อที่ร้านเป็นจำนวนมาก แต่ปกติจะเป็นยาต้มเวลาใช้ก็ค่อนข้างยุ่งยาก เขาเลยคิดจะทำให้สามารถรับประทานได้ง่ายขึ้น เลยทำเป็นแคปซูลออกมา อันนั้นมีการจดอย.ขออนุญาตเรียบร้อย เพราะถือเป็นยาที่ใช้ในการรักษาโรค ต่อมาก็มีน้องสาวคิดขึ้นมาอีกเป็นยาสำหรับแก้ริดสีดวง ซึ่งเป็นยาอีกสูตรหนึ่งของทางร้านที่ได้รับความนิยมมากเช่นกัน แต่ยังไม่ได้ผลิตออกมาจำหน่าย เพราะติดเรื่องเอกสารการขออนุญาตยังไม่เรียบร้อย และสุดท้ายก็มาถึงเรา พี่สาวคนโต ที่ทำออกมาเป็นลูกอมสมุนไพรจีนเข้มข้น เราก็ได้ไอเดียมาจากที่ร้าน จากตู้แช่ขายน้ำสมุนไพรหน้าบ้านเช่นกัน เหมือนแต่ละคนมองเห็นจุดเด่นอะไร ก็จะเอามาขยายและแตกไลน์เป็นผลิตภัณฑ์ออกมา
- เท่าที่สังเกตเห็น การแตกไลน์ของผลิตภัณฑ์แบรนด์เอี๊ยะแซ ถึงจะทำออกมาหลายตัว แต่ก็มีลักษณะความเป็นโฮมเมด มีความเฉพาะตัว พิถีพิถัน ทำไมไม่คิดทำเป็นระดับอุตสาหกรรม
เป็นเพราะเราไม่ถนัดในรูปแบบนั้น เราถนัดที่จะทำอะไรเล็กๆ ทำด้วยตัวเอง และใส่ใจคุณภาพให้มาก เหมือนอย่างลูกอมสมุนไพร หลายคนอาจมองว่าเป็นแค่ลูกอม แต่จริงๆ แล้วกว่าจะทำให้ได้เข้มข้นอย่างที่ต้องการ เราทดลองมาเยอะ อาจเป็นเพราะเราเป็นร้านยาเองด้วย ในเมื่อเป็นสิ่งที่เราชำนาญ เวลาทำอะไรออกมาเราเลยอยากทำออกมาให้ดี มาตรฐาน วิธีคิดเลยแตกต่างจากคนอื่นที่เขาไม่ได้เข้ามาทำตรงนี้
- อนาคตภาพของแบรนด์จะเปลี่ยนไปไหม
ในส่วนของร้านยาคงไม่เปลี่ยน เราคงทำของเราแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ อาจมีการทำร้านที่เซ็นเตอร์ที่ให้คนเข้ามาได้ง่ายขึ้น แต่ก็ยังไม่แน่นอน ยิ่งในโลกทุกวันนี้ที่การสื่อสารสื่อถึงกันได้หมด เราคิดว่าการทำธุรกิจทุกวันนี้ ไม่จำเป็นต้องขยายสาขามีหลายๆ ร้านออกไปก็ได้ ทุกวันนี้ลูกค้าที่เข้ามาก็มาจากทั่วทุกสารทิศอยู่แล้ว เพราะเขารู้จักแบรนด์เรา จากแต่ก่อนจะเป็นแค่ลูกค้าในชุมชน ดังนั้นเราจึงมองที่การต่อยอดขยายสินค้าออกไปมากกว่า ต่อไปร้านยาสมุนไพรจีนที่มีซินแสหรือหมอแมะมาจับชีพจรเพื่อตรวจ ก็หาได้ยากเต็มที หรือแม้แต่ร้านจัดยาจีนแบนี้ก็น้อยลงทุกที อาจมีรุ่นหลานเข้ามาช่วยต่อยอด เพราะเขาเรียนมาทางด้านนี้โดยตรง แต่เราก็ไม่ได้ไปบังคับ ให้เป็นการตัดสินใจของเขา เพราะอย่างพวกเราเองป๊าก็ไม่เคยบังคับเลย อย่างตัวเราเองก็เรียนจบมัณฑนศิลป์ ศิลปากร ทำงานโฆษณา ป๊าก็ไม่เคยว่า ตอนเอ็นทรานซ์ติด เขาก็ดีใจ แต่มองตาเราก็รู้แหละว่าเขาอยากให้มีคนมาช่วยสานต่อ แต่ไม่เคยบังคับ
- แต่สุดท้ายทุกคนก็สามารถนำมาต่อยอดได้เหมือนในทุกวันนี้ เป็นเพราะเราเองก็มองเห็นถึงคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่หรือเปล่า
ใช่นะ สุดท้ายทุกอย่างมันก็เป็นไปตามธรรมชาติอย่างที่ป๊าบอก ถึงเขาไม่เคยบอก ไม่เคยบังคับ แต่สุดท้ายเราก็จะเห็นในคุณค่าของสิ่งที่มีเองและนำมาต่อยอดออกไป เพราะเรามองว่าตรงนี้ คือ หัวใจของครอบครัว พ่อแม่เราก็ทำอยู่ ถึงแต่ก่อนไม่ได้ลงมาช่วยเต็มตัว แต่เราก็ติดตามอยู่เสมอ มีอะไรก็ปรึกษากันตลอด จนวันหนึ่งเมื่อมีโอกาสจังหวะชีวิตที่เหมาะลงตัว เราเลยต่อยอดออกไปเท่านั้นเอง
- จริงๆ เอี๊ยะแซ ดังมาจากอะไร และมีความหมายว่ายังไง
เราเป็นร้านขายยาสมุนไพรจีนที่อยู่มานานอายุเป็นร้อยๆ ปี จึงเป็นที่รู้จักดีในชุมชนและจากการบอกปากต่อปาก แต่ที่ทำให้ชื่อแบรนด์ถูกกระจายออกไปในวงกว้างมากขึ้น ก็คือ จากยาดม ส่วนในความหมายของชื่อในภาษาจีน เอี๊ยะแซ แปลว่า ก่อเกิดประโยชน์ นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เราอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ก็ได้
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี