ถอดสมการ “ตะขาบ 5 ตัว” ยาอมชื่อเชยที่ปรับตัวเก่งจนขายดีข้ามยุค!

Text : นิตะ สะเรียม




Main Idea

 
  • “ตะขาบ 5 ตัว” ยาอมชื่อเชย แต่ได้ผลดี จนต้องบอกต่อ และเติบโตมายาวนานกว่า 80 ปี
 
  • ไม่เพียงแต่ประสิทธิภาพของยาอมที่ใช้ได้ผล แต่ด้วยการปรับเปลี่ยนตัวเองให้ทันยุคทันสมัยอยู่ตลอดเวลา เพื่อตอบความต้องการของผู้บริโภค จึงทำให้แบรนด์ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคเสมอมา ไม่ว่ายุคสมัยใดก็ตาม
 


 

     ถ้าพูดถึง 1 ใน 5 แบรนด์ ยาอมแก้ไอชั้นดีของไทย หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ “ตะขาบ 5 ตัว” ยาอมชื่อเชยรวมอยู่ด้วยแน่นอน


     เพราะด้วยสรรพคุณที่บอกต่อๆ กันมาว่าสามารถแก้ไอได้ชะงัด จึงทำให้ยาอมตะขาบฯ ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง แต่เท่านั้นอาจยังไม่เพียงพอที่จะทำให้แบรนด์อยู่มาได้ยาวนานกว่า 80 ปี ซึ่งเหตุผลแท้จริงอีกข้อนั้นมาจากการปรับตัวของแบรนด์ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ทันกับความต้องการของผู้บริโภคตลอดเวลา จะปรับตัวยังไงและอยู่รอดได้ยังไงมาร่วมถอดสมการยาอมชื่อเชยที่แม้วันนี้กาลเวลาจะผ่านไปอย่างไรก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ทำให้ยาอมโลโก้รูปตะขาบ 5 ตัวสะเทือน! ออกไปจากแผงได้เลย



Cr : ตะขาบ 5 ตัว


     โดยที่มาของยาอมตะขาบฯ นั้น เริ่มต้นขึ้นมาจากหนุ่มชาวจีน “จุ้ยไซ แซ่ซิ้ม” ที่อพยพมาจากเมืองจีนอันไกลโพ้น ซึ่งได้นำวิชาความรู้ด้านปรุงยาสมุนไพรใช้ติดตัวมาด้วย เนื่องจากเคยทำงานในร้านขายยาจีนมาก่อน


     เมื่อได้เข้ามาลงหลักปักฐานอยู่ในเมืองไทย เขาจึงนำความรู้ที่มีทดลองปรุงยาขึ้นมาขาย โดยเริ่มจากทำใช้กันเองในหมู่ครอบครัวญาติพี่น้องก่อน ต่อมาเมื่อมีการใช้และเห็นผลได้จริง จึงนำไปฝากขายตามร้านขายยาต่างๆ ซึ่งก็มีทั้งร้านที่ยอมรับไปขายและไม่ยอมรับไปขาย เขาจึงปรับกลยุทธ์ด้วยการโฆษณาขายยาผ่านหนังกลางแปลง จึงทำให้เริ่มเป็นที่รู้จักและยอมรับมากขึ้น


     กระทั่งเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง พ่อค้าผู้ปรุงยาชาวจีนดังกล่าว จึงเริ่มคิดว่าการจะทำให้ยาขายได้ดีนั้น ต้องมีเครื่องหมายการค้าเพื่อให้คนจดจำได้ง่ายขึ้นและน่าเชื่อถือ ในช่วงนั้นเขาต้องอพยพจากบ้านที่บางรักไปอยู่บ้านสวนที่พระประแดง สมุทรปราการ เห็นตะขาบไต่หนีน้ำขึ้นมามากมาย เขาจึงนึกไปถึงตะขาบสัตว์มีพิษร้าย ซึ่งในความหมายทางยาของจีนแล้ว การจะรักษาได้ดีต้องใช้พิษแก้พิษ จึงนำมาเป็นสัญลักษณ์ทางการค้า โดยแรกๆ จะใช้เป็นตะขาบคู่และมีรูปของเขาอยู่ตรงกลาง ต่อมาในภายหลังจึงเพิ่มตะขาบขึ้นเป็นห้าตัว เพราะในความหมายของคนจีนเลข 5 และเลข 8 คือ ตัวเลขนำโชคที่นิยมใช้เพื่อการค้า


Cr : ตะขาบ 5 ตัว


     เมื่อสงครามสงบลง จึงได้มีเปิดร้ายขายยาจีนและยาสำเร็จรูปขึ้น โดยตั้งแต่ต้นนั้นมีการผลิตยาและจัดจำหน่ายยาหลายชนิดด้วยกัน อาทิ ยาหอม ยาขม ยาหม่อง ยาแก้ปวดท้อง ยาแก้หอบหืด ยาอมแก้ไอ แต่ตัวที่ขายดีและติดตลาดมาตลอดก็คือ ยาอมแก้ไอ ที่ยังคงเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคมาจนถึงปัจจุบัน และกลายเป็นสินค้าหลักของแบรนด์มาจนทุกวันนี้


     โดยหลังจากการเข้ามาดูแลของทายาทรุ่น 2 จนถึงปัจจุบัน คือ รุ่น 3 แบรนด์ตะขาบ 5 ตัว ก็มีการปรับปรุงพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อยู่เสมอ


     เริ่มจากครั้งแรกเมื่อปี 2520 ที่เปลี่ยนจากซองกระดาษมาใช้เป็นซองพลาสติก จากนั้นจึงมีการสร้างโรงงานขึ้น และจดทะเบียนในชื่อ “บริษัท  ห้าตะขาบ (ซิมเทียนฮ้อ) จำกัด” ซึ่งเกิดขึ้นในรุ่นเจเนอเรชันที่ 2


Cr : ตะขาบ 5 ตัว


     เมื่อถึงเจเนอเรชันที่ 3 เมื่อราวสิบกว่าปีก่อน จึงได้มีการรีแบรนด์ดิ้งครั้งใหญ่ ซึ่งสร้างความฮือฮาในตลาดอย่างมาก โดยได้มีการปรับปรุงรสชาติใหม่ออกมาเพื่อให้ถูกใจคนรุ่นใหม่มากขึ้น ได้แก่ รสตะไคร้ บ๊วย มินต์ รวมไปถึงการปรับปรุงแพ็กเกจจิ้งจากที่เป็นซองอย่างเดียวให้เป็นกล่องพลาสติกเล็กๆ ที่สามารถพกพาได้สะดวก แถมเปิด-ปิดใช้งานได้ง่ายขึ้น โดยเพิ่มช่องทางจำหน่ายจากแค่ร้านขายยาไปยังโมเดิร์นเทรด ปั๊มน้ำมัน และร้านสะดวกซื้อต่างๆ จึงทำให้แบรนด์ตะขาบฯ เป็นที่รู้จักของคนรุ่นใหม่ได้มากยิ่งขึ้น


     นอกจากเป็นที่นิยมของผู้บริโภคคนไทยมาอย่างยาวนานแล้ว แบรนด์ตะขาบ 5 ตัว ยังเป็นที่นิยมในตลาดต่างประเทศด้วย จนสามารถขยายตลาดไปได้ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ ยุโรป จีน ฮ่องกง มาเลเชีย ฯลฯ โดยล่าสุดได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เพิ่งออกตลาดมาสดๆ ร้อนๆ คือ ยาแก้ไอแบบสเปรย์พ่น ที่จับมือร่วมกับ BIOTEC ในการคิดค้นรูปแบบของผลิตภัณฑ์ขึ้นมา เพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่และชาวต่างชาติ ซึ่งจากผลทดสอบสามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุคออักเสบได้มากกว่า 99.9 เปอร์เซ็นต์ภายในเวลา 5 นาที


     และนี่แหละเรื่องราวของ “ตะขาบ 5 ตัว” ยาอมแก้ไอชื่อเชย แถมดูน่ากลัว แต่ได้ผลชะงัด จนมีการบอกต่อปากต่อมา และทำให้ธุรกิจสามารถคงอยู่มานานกว่า 80 ปี จากการไม่หยุดพัฒนาตนเองและปรับเปลี่ยนตัวเองให้ทันยุคทันสมัยอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
 


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

พลิกตำรายา 150 ปี สู่อาณาจักรสุขภาพแห่งอนาคต ทายาทขุนอภิบาลบ่อพลับ ร่วมสร้างธุรกิจครอบครัว

เป้าหมายการทำธุรกิจของหลายคนอาจเป็นเรื่องรายได้ แต่สำหรับ ต๊อก-ปีรัชด์ อนันตพันธ์ และ แต๊ก-ปานชาติ มิตรกูล มีเป้าหมายสร้างแบรนด์ "อภิบาลบ่อพลับ" เพื่อให้ทุกคนได้ระลึกถึงตำรายาไทย 150 ปี จากบรรพบุรุษของเขาที่ชื่อ ขุนอภิบาลบ่อพลับ

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย