Main Idea
- “ไร้ท์ โซลูชั่น” คือธุรกิจที่เกิดจาการรวมตัวของพี่น้องและญาติสนิท 4 คน ที่มีพื้นฐานความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม โดยใช้เงินเริ่มต้นแค่หลักหมื่นบาท ผ่านมาสิบปีธุรกิจเติบโตเป็นกิจการหลายร้อยล้าน และหวังก้าวไกลสู่การเป็นบริษัทระดับโลกในอนาคต
- สิ่งที่พวกเขาขาย ไม่ใช่ตัวสินค้าหรือบริการ แต่กำลังขายในสิ่งที่เรียกว่า “ความจริงใจ” และ “ความแตกต่าง” สองสิ่งนี้สร้างโอกาสให้กับธุรกิจได้อย่างไร ไปติดตามกัน!
เมื่อกว่าสิบปีก่อน กลุ่มพี่น้องและญาติสนิท 4 คน ที่มีพื้นฐานความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม รวมตัวกันก่อตั้งบริษัทที่ชื่อ ไร้ท์ โซลูชั่น จำกัด ขึ้น โดยใช้เงินเริ่มต้นแค่หลักหมื่นบาท
วันนี้ธุรกิจเล็กๆ เติบโตเป็นกิจการหลายร้อยล้าน จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) และหวังก้าวไกลสู่การเป็นบริษัทระดับโลกในอนาคต
พวกเขาทำได้อย่างไร? ไปหาคำตอบกัน
“แสงชัย ธีรกุลวาณิช” คือหนึ่งในผู้ก่อตั้ง บริษัท ไร้ท์ โซลูชั่น จำกัด เขารวมตัวกับกลุ่มพี่น้องทำธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่ายสารกรองน้ำให้กับกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม โดยมุ่งไปที่ ถ่านกัมมันต์ หรือ Activated Carbon ที่ผลิตจากกะลามะพร้าวเพราะขึ้นชื่อว่ามีประสิทธิภาพดีและเป็นที่นิยม
แน่นอนว่าพวกเขาไม่ใช่รายแรกที่เข้ามาในธุรกิจนี้ แต่จะทำอย่างไรที่จะทำตลาดได้และฉีกตัวเองออกจากผู้เล่นเก่าในสนาม คำตอบที่เด็กสายวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมอย่างพวกเขาคิดได้ในตอนนั้นก็คือ “ต้องแตกต่าง”
คนอื่นขายสินค้า พวกเขามีสินค้า แต่ขายการเป็น “ที่ปรึกษา” คนอื่นมีสินค้าและพัฒนาตัวสินค้าให้ดีขึ้น แต่พวกเขาต่อยอดไป “รับออกแบบระบบ” เพื่อให้ใช้สินค้านั้นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยต่อยอดมาทำบริการออกแบบระบบบำบัดน้ำและอากาศให้โรงงานต่างๆ แก้ปัญหาให้ภาคอุตสาหกรรม เพราะเชื่อว่าเรื่องสิ่งแวดล้อมสำคัญต่อการทำธุรกิจ
คนอื่นให้ความสำคัญกับกำไร แต่พวกเขาให้ความสำคัญกับ “ความจริงใจ” ฉะนั้นหลายครั้งสิ่งที่ช่วยเหลือลูกค้าอาจไม่ส่งผลต่อธุรกิจ ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ทำ หรืออาจทำให้ต้องส่งต่อลูกค้าไปให้กับคนอื่น แต่ถ้าได้ช่วยด้วยความจริงใจ พวกเขาก็เลือกที่จะทำ เพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้เกิดขึ้น
ทำธุรกิจทุกคนก็มุ่งกับการขาย แต่สไตล์ของ ไร้ท์ โซลูชั่น คือ “การขายแบบไม่ขาย” แต่ใช้ความเป็นเพื่อนและที่ปรึกษาที่ดีที่สุดมัดใจลูกค้า
คนอื่นทำธุรกิจด้วยฝีมือ แต่พวกเขาทำธุรกิจ “ด้วยหัวใจ” โดยเลือกที่จะเอาใจเขามาใส่ใจเรา อยากได้ลูกค้าหรือคู่ค้าแบบไหนก็ปฏิบัติตัวแบบนั้น เพื่อดึงดูดคนที่ใช่ให้เข้าหา
คนอื่นการปิดการขายคือที่สุด แต่พวกเขา “การรักษาลูกค้า” ให้อยู่กับบริษัทตลอดไปหรือนานที่สุด เป็นสิ่งที่มีคุณค่าเกินกว่าอะไรทั้งนั้น
คนอื่นมองคู่แข่งเป็นศัตรู แต่พวกเขา “คู่แข่งคือเพื่อนร่วมธุรกิจ” ที่คอยกระตุ้นให้เราตื่นตัวและอยากพัฒนาให้ดีขึ้นอยู่เสมอ
คนอื่นสร้างธุรกิจ แต่พวกเขาเลือก “สร้างโนว์ฮาว” แม้แต่ในเรื่องของการบริการ เพื่อให้ใช้คนน้อยลง มีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
ค่าแรงเพิ่ม คนอื่นพยายามลดคนเพื่อลดต้นทุน แต่พวกเขาเลือกใช้เทคโนโลยีมาช่วยงานคน ให้คนทำงานน้อยลง เพื่อมีเวลาไปฝึกทักษะด้านอื่นให้เก่งขึ้น พวกเขาไม่ได้สร้างองค์กรธุรกิจ แต่กำลังสร้าง “องค์กรแห่งการเรียนรู้”
พนักงานที่อื่นต่างคนต่างทำหน้าที่ แต่พนักงานที่นี่ทุกคนทำงานด้วยกัน เล่นเพลงคีย์เดียวกัน ขณะที่แต่ละคนถูกฝึกให้มีทักษะที่หลากหลาย ไม่ต้องเชี่ยวชาญแค่ด้านใดด้านหนึ่ง
คนอื่นซื้อนวัตกรรมเข้ามาใช้ แต่ที่นี่พวกเขาให้พนักงานได้มาคิดค้นนวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาของตัวเอง มีการประกวดแข่งขัน มอบรางวัล ได้ทำงานร่วมกับเพื่อนต่างแผนกอยู่เสมอ
คนอื่นเลือกทำสิ่งที่แตกต่าง แต่พวกเขาพยายามที่จะสร้างความแตกต่างมากขึ้นไปอีก โดยใช้ความรู้และประสบการณ์ที่มี ไปเชื่อมโยงกับองค์ความรู้ภายนอก ร่วมมือกับนักวิชาการ นำงานวิจัยบนหิ้งมาต่อยอดในเชิงพาณิชย์
คนอื่นทำโรงงาน แต่สิ่งที่พวกเขากำลังทำคือ โรงงานดิจิทัล (Digital Factory) นำเอาเทคโนโลยี IoT เข้ามาใช้บูรณาการในโรงงาน ใช้คนน้อยลง แล้วเอาคนไปอัพสกิลให้เก่งขึ้น เพื่อไปทำเรื่องที่อื่นๆ
คนอื่นสร้างพนักงาน แต่พวกเขาเลือกสร้างความเป็นผู้ประกอบการให้กับพนักงาน ให้ทำงานด้วยหัวใจของเจ้าของ
คนอื่นเน้นยอดขายที่โตขึ้น แต่สำหรับพวกเขา ยอดขายจะลดลงบ้างก็ได้ ถ้ายังมี “กำไร” อยู่
คนอื่นอาจมองแค่ตลาดในประเทศ แต่พวกเขาฝันที่จะเป็นบริษัทระดับโลก อยากผลิตสินค้าด้วยเทคโนโลยีของคนไทย ไปขายต่างชาติดูบ้าง ซึ่งพวกเขาไม่ใช่แค่ฝัน แต่ทุกอย่างที่ทำอยู่ในวันนี้กำลังปูทางไปสู่จุดนั้น
แล้วทำแบบนี้จะได้อะไร?
ทำให้กิจการเล็กๆ ที่เริ่มจากคน 4 คน และเงินหลักหมื่นบาท เติบโตมามียอดขายในระดับหลายร้อยล้านบาท มีพนักงานในกลุ่มร้อยราย ที่สำคัญลูกค้ากว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ยังเป็นลูกค้าเก่าที่อยู่กับพวกเขามากว่าสิบปีแล้ว
ทุกการกระทำมีความหมายเสมอ และนี่ก็คือผลลัพธ์จากการขาย “ความจริงใจ” และ “ความแตกต่าง” ของพวกเขาที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วในวันนี้
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี