ดร.เดวิด มกรพงศ์ นักธุรกิจ นักวิจัย นักประดิษฐ์ นวัตกร อาจารย์พิเศษ ไม่มีอะไรที่...เป็นไปไม่ได้

Text : กองบรรณาธิการ Photo : กิจจา อภิชนรจเรข






Main Idea
 
  • ในวัยสามสิบต้นๆ คนหนึ่งคนจะสามารถเป็นอะไรได้บ้าง สำหรับ ดร.เดวิด มกรพงศ์ เขาเป็นทั้ง นักธุรกิจ นักวิจัย นักประดิษฐ์ นวัตกร อาจารย์พิเศษ เจ้าของผลงานนวัตกรรมระดับโลกและระดับประเทศอีกเพียบ
 
  • เขาเชื่อว่าธุรกิจจะประสบความสำเร็จได้ ต้องเริ่มต้นอย่างมีคุณค่า คือคุณค่าในสิ่งที่มีและที่คนอื่นมองว่ามีคุณค่า  ขณะที่การเติบโตของธุรกิจก็ต้องไปสร้างคุณค่าให้คนอื่นโตไปกับเราด้วย


     คุณคิดว่าในวัยสามสิบต้นๆ คนหนึ่งคนจะเป็นอะไรได้บ้าง?


      สำหรับ ดร.เดวิด มกรพงศ์ ในวัย 34 ปี เขาเป็นทั้ง นักธุรกิจ นักวิจัย นักประดิษฐ์ นวัตกร อาจารย์พิเศษ เจ้าของผลงานทรัพย์สินทางปัญญา สิทธิบัตร 1 ฉบับ อนุสิทธิบัตร 3 ฉบับ เครื่องหมายการค้า 3 ฉบับ เคยคว้า  11 รางวัลนวัตกรรมนานาชาติ 6 รางวัลระดับชาติ  4 รางวัลการจัดการนวัตกรรม





     เริ่มชีวิตผู้ประกอบการตั้งแต่ในวัยเพียง 24 ปี นั่นหมายความว่าถึงวันนี้เขาเป็นผู้ประกอบการมาแล้ว 10 ปี โดยเป็นผู้ก่อตั้ง บริษัทพรีเมียร์ โปรแพ็ค จำกัด (ปัจจุบันขายกิจการไปแล้ว) เป็นกรรมการผู้จัดการ ประธานเจ้าหน้าที่นวัตกรรม ผู้ก่อตั้ง บริษัท เดวิด เอนเตอร์ไพร์ส แอนด์ ดีวีลอปเมนต์ จำกัด ที่มีคนทำงานแค่ 2 คน แต่สร้างรายได้หลักสิบล้านบาท 
เป็นเจ้าของแบรนด์อาหารเสริม ยูนิ เอส (Uni S)  ที่ขายเฉพาะในร้านวัสสัน และยังเป็นประธานเจ้าหน้าที่นวัตกรรม บริษัท อาร์ แอนด์ ดี รีเสิร์ช อินโนเวชั่น แอนด์ซัพพลาย จำกัด ที่กำลังจะนำพาบริษัทไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เร็วๆ นี้


       ดร.เดวิดไม่ใช่เด็กเนิร์ด ไม่ได้โตมาเพราะความคลั่งไคล้ในวิทยาศาสตร์ ในวัย 10 ขวบ เขาเริ่มหัดตีกอล์ฟ และทำผลงานแข่งขันในแมทแรกของชีวิตด้วยการได้ที่โหล่สนาม เหตุการณ์ครั้งนั้นเองที่ทำให้เด็กชายเดวิดกลับมาวางแผนชีวิตใหม่ เพื่อที่จะเป็นแชมป์ให้ได้ เขาฝึกซ้อมอย่างหนัก จนอายุ 14 ปี ก็เริ่มเป็นแชมป์ และมีถ้วยรางวัลมากว่าร้อยรายการ






      พอเข้ามัธยมปลาย ครอบครัวอยากให้สอบเข้ามหาวิทยาลัย แผนเป็นนักกอล์ฟจึงหยุดไป หลังเรียนจบมัธยมปลายเขาไปเรียนต่อที่ออสเตรเลีย แต่บ้าทำงานมากกว่าเรียน สุดท้ายก็เรียนไม่จบ แต่ประสบการณ์ชีวิตมาเต็ม หลังอยู่นอกได้  2 ปี ก็กลับเมืองไทย มาเรียนต่อที่ ม.รามคำแหง ภาคอินเตอร์ แบบเต็มเวลา และจบได้ภายใน 3 ปี


       เขาเริ่มชีวิตการทำงานตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษา โดนใช้กีฬาที่ถนัดอย่างกอล์ฟนำพาตัวเองเข้าสู่โลกธุรกิจ โดยติดตามผู้ใหญ่ในวงการไปเล่นกอล์ฟ ภายหลังได้รับความไว้วางใจมอบหมายงานให้ทำ เขาทำทุกอย่างที่ทำได้ โดยไม่ร้องขอเงินเดือน เพื่อไปเรียนรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ เขาเชื่อว่า การไม่เรียกร้องผลตอบแทน จะเป็นประตูด่านแรกที่เปิดทางให้เข้าหาใครก็ได้





      ธุรกิจแรกที่สร้างมาด้วยตัวเองและประสบความสำเร็จคือ บริษัท พรีเมียร์ โปรแพ็ค จำกัด ที่เกิดจากความคิดแค่อยากทำกล่องนมป้อนโรงงานนม เขาเชื่อว่า ถ้าสามารถเข้าหาลูกค้ารายใหญ่ที่สุดในเมืองไทยได้ ก็จะเป็นในเบิกทางที่งดงามในธุรกิจนี้ แต่ 2 ปีแรกต้องทำแบบไม่มีรายได้เลย จนเริ่มขายได้ในปี 2559 โดยมีลูกค้ารายใหญ่คือ ไทย-เดนมาร์ค จนปลายปี 2561 ก็ขายธุรกิจไป แต่นั่นก็เป็นเหมือนประตูที่เปิดสู่โลกอุตสาหกรรมนม ที่สร้างโอกาสให้จนถึงทุกวันนี้


       ระหว่างทาง ดร.เดวิดยังแบ่งเวลาไปทำอะไรอีกหลายๆ อย่าง อย่างลงเรียนหลักสูตรระยะสั้น โครงการอบรมหลักสูตรมัคคุเทศก์ทั่วไปฯ (ภาษาอังกฤษ) ที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แล้วทำทัวร์จีนอยู่ช่วงหนึ่ง อยากรู้เรื่องการนำเสนอการสร้างแรงจูงใจก็ไปลองสมัครบริษัทขายตรง ได้ความรู้ก็เลิก ไปลงเรียนปริญญาโท การจัดการมหาบัณฑิต สาขาการจัดการและกลยุทธ์ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) จากนั้นก็มาต่อปริญญาเอกที่หลักสูตรธุรกิจเทคโนโลยีและการจัดการนวัตกรรม CUTIP รุ่น 9 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนั่นเองที่เปิดโลกนวัตกรรมใหม่ๆ และงานวิจัยล้ำๆ ให้กับคนมาจากภาคธุรกิจอย่างเขา





        ความรู้ใหม่ในการเรียน มาผนวกกับประสบการณ์ในธุรกิจนมที่ทำ นำมาสู่ผลงานวิจัย Pre-aseptic-Sterilization-System Plus (PASS+) for controlling the growth of microorganism in dairy industry การออกแบบระบบชั้นฟิลม์บางที่มีขนาดเฉพาะในการลดและควบคุมจุลินทรีย์ในของเหลวทึบแสงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มคุณภาพน้ำนมดิบ ตลอดจนเป็นการเพิ่มกำไรให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ(วช.) ส่งไปคว้ารางวัลนวัตกรรมระดับโลกที่เจนีวามาแล้ว  


      จากผลงานนั้นเองที่นำมาสู่ บริษัท เดวิด เอนเตอร์ไพร์ส แอนด์ ดีวีลอปเมนต์ จำกัด และ บริษัท อาร์ แอนด์ ดี รีเสิร์ช อินโนเวชั่น แอนด์ซัพพลาย จำกัด ธุรกิจใหม่ของดร.ด้านนวัตกรรมอย่างเขา


      ผลงานวิจัยตัวต่อมา Golden silk by BIO Colostrum หรือเซรั่มบำรุงผิวจากน้ำนมสีทอง ที่เกิดจากการวิจัยนมแรกเกิดของโคนมในประเทศไทย Colostrum สร้างองค์ความรู้ใหม่ในอุตสาหกรรมและในระดับวิชาการ Colostrum ที่ผ่านกระบวนนาโนแคปซูลแล้วนั้นสามารถการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังมนุษย์ได้อย่างดีเยี่ยม จนมาเป็นแบรนด์อาหารเสริมที่ชื่อ ยูนิ เอส (Uni S)  ที่ Exclusive เฉพาะในร้านวัสสันเท่านั้น


      ดร.เดวิด เป็นนวัตกรที่มาจากโลกธุรกิจ เขาทำสิ่งที่ยากจะเป็นไปได้ให้เป็นจริงขึ้นมาด้วยความเพียรพยายาม และทำงานหนัก ธุรกิจส่วนใหญ่จึงเริ่มจากตัวเขา และอาจมีผู้ช่วยอีกแค่ 1 คน ถามว่าจะสามารถสร้างรายได้ ได้สักเท่าไร
เขายกตัวอย่าง บริษัท เดวิด เอนเตอร์ไพร์ส แอนด์ ดีวีลอปเมนต์ มีเขาเป็นเจ้าของคนเดียว กับทีมงาน 1คน ที่จ้างมาทำเอกสาร ปี 2560 สามารถปิดยอดขายไปที่ 26 ล้านบาท! 


      เขาบอกว่า การจะทำเช่นนี้ได้ ต้องเริ่มต้นอย่างมีคุณค่า คือคุณค่าในสิ่งที่เรามีและคนอื่นมองว่ามันมีคุณค่า  ขณะที่การเติบโตของธุรกิจก็ต้องไปสร้างคุณค่าให้คนอื่นโตไปกับเราด้วย นั่นคือแนวคิดการทำธุรกิจของเขา






      วันนี้ในวัย 34 ปี ดร.เดวิด ยังมุ่งมั่นกับธุรกิจด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยวางแผนจะนำพาบริษัท (อาร์ แอนด์ ดี รีเสิร์ช อินโนเวชั่น แอนด์ซัพพลาย) ไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ให้ได้ภายใน 5 ปี เพื่อขยายธุรกิจให้เติบโตไปมากกว่านี้


     และแน่นอนว่ายังอยากลองทำอะไรอีกหลายๆ อย่าง เพราะสำหรับเขา...ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้
               
 





www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

พลิกตำรายา 150 ปี สู่อาณาจักรสุขภาพแห่งอนาคต ทายาทขุนอภิบาลบ่อพลับ ร่วมสร้างธุรกิจครอบครัว

เป้าหมายการทำธุรกิจของหลายคนอาจเป็นเรื่องรายได้ แต่สำหรับ ต๊อก-ปีรัชด์ อนันตพันธ์ และ แต๊ก-ปานชาติ มิตรกูล มีเป้าหมายสร้างแบรนด์ "อภิบาลบ่อพลับ" เพื่อให้ทุกคนได้ระลึกถึงตำรายาไทย 150 ปี จากบรรพบุรุษของเขาที่ชื่อ ขุนอภิบาลบ่อพลับ

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย