“ศรีงาม” ร้านค้าท้องถิ่นกว่า 6 ทศวรรษ ที่รบชนะด้วยการตลาดแบบโลคัลๆ




Main Idea
 
  • อะไรที่จะทำให้ธุรกิจท้องถิ่น ยังคงยืนหยัดได้ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงอย่างทุกวันนี้ สำหรับ ศรีงาม ร้านค้าปลีกแห่งเมืองกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งอยู่มานานกว่า 60 ปี พวกเขาใช้แนวคิดการตลาดแบบโลคัลๆ ดึงดูดลูกค้าให้แวะมาเยือนอยู่ไม่ขาด
 
  • แม้เป็นร้านติดแอร์แต่ก็ไม่ปิดประตูเพื่อให้ลูกค้ากล้าเดินเข้าร้าน ให้บริการด้วยความจริงใจและซื่อสัตย์ ค้าขายแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย และไม่เอาเปรียบลูกค้า นี่คือหนึ่งในวิธีคิดที่สร้างความสำเร็จให้กับร้านค้าปลีกภูธรแห่งนี้



               
     ในขณะที่ห้างร้านสมัยใหม่อย่างโมเดิร์นเทรดกำลังเติบโต ร้านค้าท้องถิ่นหลายแห่งได้รับผลกระทบ ที่ปิดตัวลงไปก็มีมาก แต่ทำไม ศรีงาม แบรนด์ร้านค้าปลีกดั้งเดิมย่านตลาดสดกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ถึงกลับยังดูคึกคัก มีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาใช้บริการอยู่ตลอดเวลา ทั้งที่มีอายุกว่า 60 ปีแล้ว  และปัจจุบันยังสามารถขยายสู่สาขาที่ 2 ในชื่อศรีงามสรรพสินค้าได้อีกด้วย
               



     สมศรี นาคะวนิชเวชสิทธิ์ หรือที่รู้จักกันดีในนาม “เจ๊ใหม่” หญิงสาวร่างเล็ก บุคลิกคล่องแคล่ว พูดจาฉะฉาน เล่าให้เราฟังว่า ทำค้าขายมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ สโลแกนที่ใช้มาตลอด คือ “ซื้อของครบ พบของถูก แวะศรีงาม” จนปัจจุบันได้มาปรับเพิ่ม คือ 1.สินค้าต้องสดใหม่ ดูดี น่าซื้อ จัดเรียงไว้อย่างสวยงาม 2.การบริการ การดูแลลูกค้า ต้องใส่ใจ และที่ยังคงไว้เหมือนเดิม คือ ราคาต้องย่อมเยา
               

     หากมองดูจากภายนอกร้านศรีงามคล้ายกับซูเปอร์มาร์เก็ตเล็กๆ ที่มีการจัดเรียงสินค้าเป็นหมวดหมู่ ให้สามารถหยิบจับได้ง่าย มีการติดป้ายราคาให้ลูกค้าได้ตัดสินใจเลือกได้ถูก นี่คือการปรับตัวอย่างหนึ่งของร้านค้าปลีกดั้งเดิมที่ทำภาพลักษณ์ให้ทันสมัย น่าเข้าหามากขึ้น


     ที่น่าสนใจ และดูจะเป็นสิ่งที่ทำให้ศรีงามครองใจผู้คนมาได้จนถึงทุกวันนี้ คือการทำตลาดแบบรู้ใจคนโลคัล ชนิดที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เก๋ามาจากไหนก็เลียนแบบไม่ได้
               

     “ประตูที่นี่ ไม่เคยปิดเลย เปิดไว้ตลอด ตั้งแต่เป็นพัดลม จนตอนนี้เป็นแอร์แล้วก็ยังเปิดอยู่ เพราะเราต้องการให้ลูกค้าสามารถเดินเข้ามาได้อย่างสบายใจ สะดวก ซื้อของจากตลาดเสร็จ อยากจะแวะเข้ามาซื้อของใช้กลับบ้าน ก็สามารถเข้ามาได้ทันที เพราะบางคนที่ไม่เคยซื้อ บางทีเห็นเป็นร้านกระจก ติดแอร์ ปิดประตู เขาก็ไม่กล้าเข้าแล้ว กลัวของแพงบ้าง เราเลยต้องเปิดเอาไว้ตลอด”




     เปิดแอร์เปิดประตูเลยเหมือนเอกลักษณะเฉพาะตัวของที่นี่ไปแล้ว
               

     นอกจากการเข้าใจ และคำนึงถึงความรู้สึกของลูกค้าในท้องถิ่น ด้วยรูปแบบการบริการเฉพาะตัวอย่าง

     “จริงใจ ซื่อสัตย์” ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของลูกค้า การถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกัน จนกลายเป็นความผูกพัน ยิ่งทำให้ศรีงามกลายเป็นร้านค้าของชุมชนที่ครองใจชาวกระทุ่มแบน จนไม่อยากเปลี่ยนใจไปซื้อเจ้าอื่น แม้จะมีที่ที่สะดวกกว่ามาเสนอตัวเป็นทางเลือก
               

     สมศรีเล่าว่า ลูกค้าของที่นี่ค่อนข้างหลากหลาย มีตั้งแต่เด็กๆ ไปจนถึงคนแก่ บางคนตามแม่มาตั้งแต่ยังเป็นเด็กน้อย จนทุกวันนี้โตทำงานทำการกันหมดแล้ว ก็ยังมาที่ร้านอยู่ เธอว่าที่ศรีงามค้าขายกันเหมือนพี่เหมือนน้อง ฉะนั้นอะไรแถมได้ก็แถม แบ่งๆ กันไปใช้ บางทีหมดโปรโมชั่นแจกแล้ว แต่ของยังมีเหลืออยู่ ก็แจกไปจนกว่าของจะหมด บางทีคิดเงินไปก็คุยกับลูกค้าไปด้วย ถามสารทุกข์สุกดิบ เห็นเจ็บป่วย ไม่สบาย อะไรแนะนำได้ก็ช่วยแนะนำ
แม้แต่ด้านหน้าเคาน์เตอร์คิดเงินก็ยังมีคำขวัญ แง่คิดดีๆ แปะไว้ให้ลูกค้าได้อ่าน โดยเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เธอบอกว่า บางคนสนใจ บางคนก็ไม่สนใจ แต่อย่างน้อย ก็ได้ช่วยให้แง่คิดกับเขาไปไม่มากก็น้อย


     ในเหตุการณ์วิกฤติน้ำท่วมใหญ่ปี 2554  ข้าวของขาดตลาด ในขณะที่ห้างร้านอื่นฉวยโอกาสขึ้นราคา แต่ที่ศรีงามยังยืนหยัดที่จะขายราคาเดิม เธอบอกว่าเพราะทำขายส่งด้วย จึงทำให้มีสินค้าอยู่ในสต๊อกพอสมควร ก็แค่เอามาแบ่งขายให้ครอบครัวละนิดละหน่อย


     คนอื่นเรียกการค้า แต่สำหรับสมศรี เธอบอกว่านี่คือ “หน้าที่” ถามว่าแล้วทำแบบนี้จะได้อะไร เธอเล่าผ่านเหตุการณ์หนึ่งให้ฟังว่า ครั้งหนึ่งเคยแนะนำสินค้าให้กับลูกค้า โดยบอกว่าตัวนี้ถูกมาก หาซื้อที่อื่นไม่ได้แล้ว เขาปรับขึ้นราคากันหมด สิ่งที่ลูกค้าตอบกลับมาทำให้ชื่นใจ จนถึงตอนนี้ คือคำสั้นๆ ที่ว่า


     “ไม่รู้หรอกว่าที่อื่นขายเท่าไร เพราะปกติก็ไม่ได้ซื้อที่อื่น ซื้อจากที่นี่ที่เดียว” เธอบอกว่าแค่ทำตอบนี้ก็ทำให้มีความสุขที่สุดแล้ว


     นี่คือการคิดแบบคนโลคัล ค้าขายกันแบบโลคัลๆ ที่นำมาสู่ความสำเร็จ ในยุคที่ค้าปลีกแข่งขันกันรุนแรงอย่างทุกวันนี้
 
 
 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

พลิกตำรายา 150 ปี สู่อาณาจักรสุขภาพแห่งอนาคต ทายาทขุนอภิบาลบ่อพลับ ร่วมสร้างธุรกิจครอบครัว

เป้าหมายการทำธุรกิจของหลายคนอาจเป็นเรื่องรายได้ แต่สำหรับ ต๊อก-ปีรัชด์ อนันตพันธ์ และ แต๊ก-ปานชาติ มิตรกูล มีเป้าหมายสร้างแบรนด์ "อภิบาลบ่อพลับ" เพื่อให้ทุกคนได้ระลึกถึงตำรายาไทย 150 ปี จากบรรพบุรุษของเขาที่ชื่อ ขุนอภิบาลบ่อพลับ

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย