“เพรลูด มิวสิก” ลมหายใจสุดท้ายของร้านหนังสือดนตรีแห่งแรกและแห่งเดียวในไทย




Main Idea
 
  • “เพรลูด มิวสิก” คือร้านหนังสือดนตรีแห่งแรก แห่งเดียว และกำลังจะเป็น ‘แห่งสุดท้าย’ ในไทย ในยุคที่คนอ่านหนังสือน้อยลง และการเข้ามารุกรานของสื่อออนไลน์
 
  • สำหรับ “ธณา เขมาธรามาศ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพรลูด มิวสิก จำกัด ผู้ก่อตั้งร้านจำหน่ายเฉพาะหนังสือและสื่อการสอนดนตรี เขายังคงมุ่งมั่นและอยากผลักดันธุรกิจนี้ให้อยู่ในประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน




     14 ปีที่แล้ว ประเทศไทยได้รู้จักกับร้านเล็กๆ ที่ชื่อ “เพรลูด มิวสิก” (Prelude Music) ร้านจำหน่ายหนังสือและสื่อการสอนดนตรีที่ครอบคลุมทุกประเภทและสไตล์ของดนตรีแห่งแรกและแห่งเดียวในไทย แหล่งรวมความสุขของครูสอนดนตรี นักเรียนดนตรี ศิลปินมืออาชีพ มือสมัครเล่น และผู้ที่สนใจเรื่องดนตรี
               





     ธุรกิจนี้เกิดขึ้นจากความฝันของคนหนุ่มที่ชื่อ “ธณา เขมาธรามาศ”  ซึ่งไม่ใช่นักดนตรี แถมยังเล่นเครื่องดนตรีไม่เป็นสักชิ้น Passion เดียวที่เขามี คือความฝันที่อยากเปิดร้านขายหนังสือดนตรีในประเทศไทย เขาเชื่อว่าถ้าประเทศเรามีสิ่งนี้เกิดขึ้นก็คงจะพัฒนาการเรียนการสอนดนตรีในไทยได้อีกไกลมาก
               

     ก่อนเริ่มธุรกิจเขาเดินทางไปประเทศออสเตรีย เมืองของโมสาร์ท คีตกวีเอกของโลก เพื่อหาคำตอบว่าถ้าจะเปิดร้านหนังสือดนตรีในไทยจะพอเป็นไปได้หรือไม่ จนได้เจอกับร้านหนังสือดนตรีเก่าที่เปิดมานานกว่า 60 ปี  ร้านที่ขายแค่หนังสือดนตรีแต่ยังเปิดมาได้นานขนาดนี้ นั่นเองที่เป็นแรงบันดาลใจให้เขากล้าเข้ามาในธุรกิจนี้
               

     ธณา รักดนตรีแต่ไม่มีความรู้เรื่องดนตรี เขามีประสบการณ์จากเคยเป็นพนักงานฝ่ายการตลาดของโรงเรียนสอนดนตรีแห่งหนึ่ง ที่เหลือจึงเป็นพรแสวงล้วนๆ โดยอาศัยถามเอาจากครูสอนดนตรี หนังสือแต่ละเล่มใช้อย่างไร สัญลักษณ์แบบนี้มีความหมายว่าอะไร เด็กเรียนแล้วจะได้อะไร สงสัยอะไรก็ถามเอาจากลูกค้า อาศัยการจำและความเพียรพยายาม จนร้านเล็กๆ ที่ชื่อ “เพรลูด มิวสิก”  ถือกำเนิดขึ้น และให้บริการคนดนตรีอยู่ตรงชั้น 3 อาคารธนิยะพลาซ่า ใจกลางสีลม
               




     แต่วันนี้ธุรกิจของพวกเขากำลังถูกท้าทายจากคลื่นความเปลี่ยนแปลงลูกใหญ่ ธุรกิจสิ่งพิมพ์เข้าสู่ยุคขาลง ในขณะที่คนในวงการสิ่งพิมพ์ต้องรับมือกับคู่แข่งตัวฉกาจอย่างสื่อดิจิทัล ทำให้บริษัทสิ่งพิมพ์หลายแห่งปิดตัวลง ยุบหัวหนังสือบางเล่มที่ไม่สร้างกำไรหรือโยกไปทำสื่อดิจิทัลแทน หรือแม้กระทั่งร้านหนังสือเองก็ทยอยปิดสาขา


     แต่ ธณา  บอกเราว่า สำหรับเขา ดิจิทัลไม่ใช่ศัตรูของร้านหนังสือดนตรี เพราะกลุ่มลูกค้า ทั้งครูสอนดนตรี นักเรียนดนตรี ศิลปินมืออาชีพ มือสมัครเล่น และผู้ที่สนใจเรื่องดนตรี ยังคงเลือกใช้หนังสือที่เขาสัมผัสมันได้ ไม่ปันใจไปที่สื่อดิจิทัล แต่ยอมรับว่า วันนี้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น เกิดอาชีพรับจ้างซื้อของจากต่างประเทศเข้ามา แล้วบวกส่วนต่างเป็นค่าหิ้ว หรือการที่สามารถสั่งหนังสือออนไลน์จากต่างประเทศด้วยตนเองได้ แม้จะต้องจ่ายแพงกว่าเพราะรวมค่าขนส่งอีก แต่นั่นก็สะท้อนให้เห็นว่าลูกค้าไม่จำเป็นต้องง้อพวกเขาอีกแล้ว
               




     ธณาบอกว่า วิกฤตเช่นนี้ทุกธุรกิจต้องเจอ ถ้าไม่ปรับตัวและเปลี่ยนแปลง ก็ต้องล้มหายตายจากไปเหมือนกัน สิ่งที่เขาทำคือ เลือกที่จะฟังความต้องการของลูกค้า มองหาความต้องการนั้น และสร้างโอกาสที่จะเข้าถึงและเข้าใจพวกเขามากขึ้น โดยผ่านการจัดอบรมสัมมนาดนตรีในหัวข้อต่างๆ ที่ลูกค้าสนใจ เพื่อเปลี่ยนเพรลูดให้เป็นพื้นที่ให้คนดนตรีมาสื่อสารสนทนากัน สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ และมีเป้าหมายที่อยากขยายไปสู่การจัดอบรมความรู้ด้านดนตรีสำหรับครูดนตรีทั่วประเทศอีกด้วย
               



     แม้วันนี้จะเจอกับบททดสอบที่หนักหน่วง แต่พันธกิจในการรักษาลมหายใจสุดท้ายของร้านหนังสือดนตรีแห่งแรกและแห่งเดียวในไทยของเขาก็ยังไม่หายไปไหน โดยล่าสุด เพรลูดกำลังจะย้ายไปที่ใหม่ จามจุรีสแควร์ เร็วๆ นี้
               

     ธณาบอกเราว่า เป้าหมายของเขาไปไกลกว่าแค่การทำให้ธุรกิจร้านหนังสือดนตรีของตัวเองอยู่รอด แต่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมดนตรีของไทยให้แข็งแกร่งและเติบโตต่อไป
                 

     และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงยังไม่ยอมแพ้...
 



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

พลิกตำรายา 150 ปี สู่อาณาจักรสุขภาพแห่งอนาคต ทายาทขุนอภิบาลบ่อพลับ ร่วมสร้างธุรกิจครอบครัว

เป้าหมายการทำธุรกิจของหลายคนอาจเป็นเรื่องรายได้ แต่สำหรับ ต๊อก-ปีรัชด์ อนันตพันธ์ และ แต๊ก-ปานชาติ มิตรกูล มีเป้าหมายสร้างแบรนด์ "อภิบาลบ่อพลับ" เพื่อให้ทุกคนได้ระลึกถึงตำรายาไทย 150 ปี จากบรรพบุรุษของเขาที่ชื่อ ขุนอภิบาลบ่อพลับ

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย