ไม่ต้องพูดเยอะ! เต้าหู้ เส่งเฮง มีดีที่สูตรลับตำรับจีนโบราณ

Text : อนัญชนา สาระคู Photo :  เจษฎา ยอดสุรางค์






Main Idea
 
  • จากธุรกิจเล็กๆ ในครอบครัวอาศัยจักรยานเป็นพาหนะไปขายในตลาดสดย่านธนบุรี ด้วยไม้เด็ดสูตรลับประจำตระกูล ทำให้ “เต้าหู้เส่งเฮง” กลายเป็นที่รู้จัก
 
  • ไม่ต้องพูดถึงรสชาติที่ทำให้ติดตลาด แต่การปรับตัวของทายาททั้ง 3 รุ่นช่วยทำให้ธุรกิจไม่ตกยุค สามารถยืนหยัดมากว่า 6 ทศวรรษและพร้อมจะเติบโตก้าวต่อไปในตลาดต่างประเทศ




     กระแสคนรักสุขภาพที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องช่วยผลักดันตลาดอาหารเพื่อสุขภาพให้ขยายตัวตามไปด้วย และหนึ่งในนั้นคือ “เต้าหู้” แหล่งโปรตีนชั้นยอดที่สามารถทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อพูดถึงเต้าหู้ ทุกคนคงรู้จักและคุ้นเคยกันมานานจนอาจมองว่าเป็นอาหารหรือวัตถุดิบในการประกอบอาหารธรรมดาทั่วไป ซึ่งความคิดนั้นคงใช้ไม่ได้กับ “เต้าหู้เส่งเฮง” แบรนด์เต้าหู้ที่มีเรื่องราวความไม่ธรรมดาเกิดขึ้นมานานถึง 65 ปี


     เป็นความไม่ธรรมดาที่เกิดจากกรรมวิธีในการผลิต ด้วยสูตรลับเฉพาะซึ่งจะถ่ายทอดให้กับเฉพาะลูกสาวและลูกชายเท่านั้น และการผลิตด้วยสูตรจีนโบราณแบบดั้งเดิมนี่เองที่ทำให้เต้าหู้เส่งเฮงมีความพิเศษแตกต่างจากเต้าหู้ในท้องตลาดทั่วไป เพราะจะมีรสชาติที่เข้มข้นจากถั่วเหลือง ผิวและเนื้อของเต้าหู้จะมีความเนียนนุ่ม จึงเป็นที่นิยมอย่างมากในย่านตลาดสด ฝั่งกรุงธนบุรี
                

     ประกอบกับเอกลักษณ์ของการนำใบตองมารองเต้าหู้แต่ละแผ่นแต่ละก้อน ตั้งแต่ยุคเริ่มต้นกิจการซึ่งผลิตกันภายในครอบครัว เต้าหู้เส่งเฮงในเวลานั้นจึงถูกเรียกขานอีกชื่อหนึ่งว่า “เต้าหู้ใบตอง” และกลายเป็นสัญลักษณ์มาจนถึงปัจจุบัน



               

     ทั้งนี้ คำว่า “เส่งเฮง” ในภาษาแต้จิ๋วหมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง และ ความโชคดี คือชื่อตราสินค้าเต้าหู้ที่ผลิตโดย “ถ่งเหลี่ยง แซ่กัว และ ไฉง้อ แซ่ลิ้ม” สองสามีภรรยาชาวจีนที่เริ่มต้นสร้างกิจการขนาดเล็กภายในครอบครัว ผลิตเต้าหู้ด้วยสูตรพิเศษตำรับจีนโบราณและนำออกขายตามตลาดสด โดยในยุคเริ่มต้นของความอร่อยนั้นจะใช้ตราประทับซึ่งทำจากไม้ปั๊มชื่อตราสินค้าลงบนเต้าหู้แต่ละแผ่น
               

     มาสู่ยุคบุกเบิก โดยทายาทรุ่นที่ 2 ที่ได้เริ่มนำเทคโนโลยีเข้ามาผสมผสานในกระบวนการผลิต เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์จากใบตองมาเป็นการห่อแบบสุญญากาศเพื่อยืดอายุของเต้าหู้ให้นานขึ้น อีกทั้งยังขยายช่องทางการตลาดจากเดิมที่ขี่จักรยานนำออกจำหน่ายตามตลาดสดเปลี่ยนเป็นสินค้าขึ้นห้าง วางจำหน่ายในซูปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ ตลอดจนการเพิ่มรายการสินค้าจากเต้าหู้ให้มีความหลากหลายมากขึ้น
               

     “ในยุคแรกนั้นจะเป็นกิจการเล็กๆ ทำกันเองภายในครอบครัว และขี่จักรยานใส่ใบตองนำออกไปขายตามตลาดฝั่งธนฯ แต่รุ่นที่ 2 นี้ถือว่าเป็นรุ่นบุกเบิกธุรกิจอย่างแท้จริงเพราะได้มีการพัฒนา ปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ เพิ่มตัวสินค้ามากขึ้น และวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า รวมถึงการย้ายโรงงานผลิตมายังอำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อปี 2546 ซึ่งผมยังถือเป็นรุ่นที่ 2 และขณะนี้เริ่มส่งต่อกิจการไปยังรุ่นที่ 3 ซึ่งเขาได้เข้ามาพัฒนาให้บริษัทเติบโตมากยิ่งขึ้น เรียกว่าเป็นรุ่นที่จะทำให้กิจการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและยั่งยืน” วัฒณ์ธนากร เมธีวัชรสิริชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินทัชธนกร จำกัด ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เต้าหู้แบรนด์เส่งเฮง กล่าว
               

     โดยทายาทรุ่นที่ 3 นี้เองที่ได้เข้ามาเป็นกำลังสำคัญในการฟื้นฟูกิจการในช่วงที่บริษัทกำลังประสบปัญหาเมื่อ 4 ปีก่อน นอกจากนี้ ยังได้นำนวัตกรรมเข้ามาช่วยในการพัฒนาสินค้าเพื่อตอบโจทย์ความเป็นผู้ผลิตอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เต้าหู้ขาวแข็งออร์แกนิกที่มีแคลเซี่ยมสูงและความเค็มลดลง รวมทั้งผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน และยังมีน้ำเต้าหู้ออร์แกนิกเพิ่มเข้ามาเป็นสินค้าใหม่ให้กับบริษัท ขณะเดียวกันก็ยังเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ด้วยการรับจ้างผลิต (OEM) สินค้าที่ทำจากเต้าหู้เพิ่มเติมอีกด้วย
               




     “ถือได้ว่าตอนนี้บริษัทได้เข้าสู่จุดสมดุลที่พร้อมจะก้าวไปข้างหน้าและเติบโต โดยมีเป้าหมายในขณะนี้คือการขยายตลาดส่งออกซึ่งจะมีตัวผลิตภัณฑ์ เต้าหู้ขาวแข็งออร์แกนิก เป็นสินค้าเรือธงในการบุกตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะจีน ไต้หวัน ฮ่องกง และยุโรป ซึ่งการบุกตลาดจีนนั้นเราค่อนข้างเชื่อมั่นเพราะคนจีนเองมีความเชื่อมั่นในมาตรฐานของสินค้าอาหารของไทยอยู่แล้ว” วัฒณ์ธนากร กล่าวและบอกอีกด้วยว่า
                

     บริษัทฯ เน้นย้ำด้านมาตรฐานคุณภาพของสินค้าเป็นสำคัญ โดยมุ่งมั่นที่จะผลิตสินค้าอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค ตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการคัดสรรวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพ ได้มาตรฐานเหมาะสมสำหรับการแปรรูปและไม่มีการตัดแต่งพันธุกรรม อีกทั้งยังใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติโดยไม่ใส่วัตถุกันเสียและไม่ใส่สารปรุงแต่งใดๆ ใส่ใจการผลิตในทุกขั้นตอน และต่อจากนี้ ไม่ว่าบริษัทฯ จะออกผลิตภัณฑ์อะไรใหม่ๆ ออกมาก็จะคำนึงถึงเรื่องสุขภาพของผู้บริโภคมาก่อนเสมอ

 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย

วิธีเปลี่ยนไอเดีย “ตัน” เป็น “มันส์” แบบ Matty Benedetto ยอดนักประดิษฐ์จอมกวน  

เพราะคำว่า “ไม่จำเป็น” ≠ “ไม่มีประโยชน์” ชิ้นงานแสนฮาของ Matty Benedetto “อัจฉริยะผู้ชั่วร้าย” จึงเป็นตัวอย่างชั้นดีให้กับผู้ประกอบการที่ตกอยู่ในอาการไอเดียตัน คิดอยากทำผลิตภัณฑ์ใหม่หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมได้ลองมาเรียนรู้กัน