‘ทาสแมว’ ปลุกตลาดสัตว์เลี้ยงโตพุ่ง ตอบโจทย์คนเมืองขี้เหงา-พื้นที่จำกัด

Text : sir.nim





Main Idea
 
  • ปกติถ้าพูดถึงสัตว์เลี้ยงเรามักจะนึกถึงสุนัขมาเป็นอันดับแรก แต่รู้ไหมว่าด้วยวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปในสังคมเมือง ตั้งแต่คนอยู่เป็นโสด อยู่กันแบบครอบครัวเดี่ยว นิยมอาศัยอยู่คอนโดมิเนียมมากขึ้น การเลี้ยงสุนัข ซึ่งต้องการพื้นที่กว้างๆ จึงเป็นไปได้ค่อนข้างยาก
 
  • ด้วยเหตุนี้สัตว์เลี้ยงทางเลือกถัดมาที่ถูกนึกถึง ก็คือ ‘แมว’ รู้ไหมปัจจุบันประชากรสัตว์เลี้ยงที่เป็นแมวในเมืองไทยมีเพิ่มขึ้นมากถึงครึ่งหนึ่งของประชากรสุนัขเลยทีเดียว ทำให้ตลาดสัตว์เลี้ยงโดยรวมโตสูงขึ้นกว่า 15 เปอร์เซ็นต์



                
     ในอดีตหากพูดถึงสัตว์เลี้ยงยอดนิยม เรามักจะนึกถึงน้องหมามาเป็นอันดับแรก แต่ด้วยวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนยุคนี้ที่เป็นสังคมเมืองมากขึ้น อยู่กันแบบครอบครัวเดี่ยว มีพื้นที่อาศัยน้อยลง และยังนิยมการอยู่คอนโดมากขึ้นด้วย นั่นทำให้การเลี้ยงสัตว์ไว้เป็นเพื่อนคลายเหงามีข้อจำกัดมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกับสุนัข ซึ่งค่อนข้างต้องการบริเวณกว้าง เหตุนี้เองที่ทำให้ ‘แมว’ กลายเป็นสัตว์เลี้ยงทางเลือกที่เข้ามาตอบโจทย์คนยุคนี้ได้ดีกว่า จึงทำให้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตัวเลขยอดการเลี้ยงแมวเพิ่มขึ้นทุกปี และกลายเป็นตลาดสัตว์เลี้ยงเนื้อหอมที่น่าสนใจ ส่งผลถึงโอกาสธุรกิจทั้งกลุ่มสินค้าและบริการใหม่ๆ ที่ออกมาตอบโจทย์อย่างต่อเนื่อง
               




ตลาดเหมียวโตพุ่งเป็น 1 ใน 3 ตลาดสัตว์เลี้ยงเมืองไทย



     Kofuku Cat Hotel โรงแรมแมวครบวงจรเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างบริการที่เกิดขึ้นเพื่อน้องแมวโดยเฉพาะ นัฐภูมิ โล่กันภัย หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งได้เล่าที่มาธุรกิจให้ฟังว่า เขาเองก็เป็นหนึ่งในคนเลี้ยงแมวและประสบปัญหาในการหาโรงแรมหรือที่รับฝากเลี้ยงดีๆ ให้กับแมวของตัวเองไม่ได้ เมื่อต้องมีธุระเดินทางไกลหลายวัน จึงเริ่มศึกษาหาข้อมูล จนมองเห็นช่องว่างและโอกาสในตลาดว่ายังมีคนคิดและต้องการอย่างเขาอยู่อีกมาก
               

     “ประชากรสัตว์เลี้ยงในเมืองไทยปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 21 ล้านตัว นับเฉพาะแค่สุนัขและแมวนะ โดยแบ่งเป็นสุนัข 14 ล้านตัว แมว 7 ล้านตัว เห็นได้ว่าเติบโตขึ้นครึ่งๆ ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะมาก โดยสาเหตุที่ทำให้ตลาดแมวโตขึ้นเรื่อยๆ มาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป นั่นคือ มีความเป็นสังคมเมืองมากขึ้น อาศัยอยู่คอนโดมิเนียม ซึ่งมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัดและอยู่เป็นครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น การเลี้ยงสุนัขซึ่งต้องใช้บริเวณกว้างและค่อนข้างเสียงดัง จึงอาจยากลำบาก อีกทางเลือกที่น่าสนใจก็คือ การเลี้ยงแมว เพราะแมวเป็นสัตว์ที่รักสันโดษ ชอบอยู่เงียบๆ ไม่ต้องการคนไปสุงสิงมากนัก”





     เขาบอกอีกว่า นอกจากสัตว์เลี้ยงจะเป็นเหมือนเพื่อนแล้ว ในทางการแพทย์ยังกล่าวอีกว่าสำหรับคนที่เป็นโรคซึมเศร้า ผู้สูงอายุหรือเด็ก สัตว์เลี้ยงสามารถช่วยเกี่ยวกับพัฒนาการ เยียวยาและดูแลรักษาจิตใจได้ โดยเฉพาะในตลาดผู้สูงอายุ ซึ่งโตเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งจากข้อมูลสถิติปัจจุบันตลาดสัตว์เลี้ยงในเมืองไทยมีมูลค่าการเติบโตกว่า 30,000 ล้านบาท ครึ่งหนึ่งแบ่งเป็นตลาดอาหาร 15,000 ล้านบาท ที่เหลืออีก 15,000 ล้านบาท คือ บริการต่างๆ เช่น อาบน้ำ ตัดขน รักษา รวมถึงที่พักโรงแรมสัตว์เลี้ยงด้วย ซึ่ง 5 ปีที่ผ่านมาทั้งหมดโตเพิ่มกว่า 15 เปอร์เซ็นต์
 

มองเห็นช่องว่าง รีบคว้าโอกาส ดิสรัปต์ธุรกิจเก่า
               

     ในส่วนของ Kofuku Cat Hotel ธุรกิจโรงแรมแมวที่เขาตั้งใจสร้างขึ้นมากับเพื่อนๆ นั้น นัฐภูมิเล่าว่าสิ่งที่เขาทำ หลังมองเห็นโอกาสในตลาด คือ การเก็บข้อมูลหาความเป็นไปได้ และสร้างความแตกต่างจากรูปแบบธุรกิจเดิม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคให้มากขึ้น
               




     “นอกจากมองเห็นโอกาสในตลาดที่มีอยู่มากแล้ว จากการที่คนนิยมเลี้ยงแมวมากขึ้น สิ่งที่เราทำคือให้บริการมากกว่าสิ่งที่เขาเคยได้ สมมติเขาเคยฝากแมวคืนหนึ่งตามคลินิก โรงพยาบาล 400 - 500 บาทต่อคืน และอยู่ในกรง แต่มาอยู่กับเรา เราทำเป็นห้องให้เลยราคา 250 บาทต่อคืน หรือถ้าเพิ่มกล้องวงจรปิดให้สามารถเปิดดูน้องๆ ได้ตลอดเวลาก็คืนละ 300 บาท มันคือ การ Disrupt ธุรกิจเก่าเปลี่ยนรูปแบบใหม่หมด รวมถึงความจริงใจในการรักษาคุณภาพมาตรฐานบริการที่ดีของเรา ทำให้ผลตอบรับที่ได้ค่อนข้างดีมาก เรามีการเบรกแอร์เปิด 8 ชั่วโมง และปิด 1 ชั่วโมง แอร์ที่นี่เรามีหลายตัวเพื่อเน้นการเปิดสลับ สิ่งเหล่านี้มันคือสัญญาที่เรามอบให้กับลูกค้าในการดูแลสัตว์เลี้ยงของเขาให้ดีที่สุด เราจริงใจกับลูกค้า และนี่คือชื่อเสียงที่เราสร้างมา  นอกจากนี้เรายังตอบแทนสู่สังคมด้วย โดยการมอบ 10 บาท ต่อคืน/ห้อง บริจาคให้มูลนิธิแมว เราทำแบบนี้ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มธุรกิจจนถึงวันนี้”
               

     นัฐภูมิอธิบายต่อว่า น้องแมวที่จะเข้ามาพักที่นี่จะมีการคัดกรองสุขภาพ มีการฉีดวัคซีนที่ถูกต้อง ไม่ป่วย เพื่อป้องกันการติดเชื้อภายในโรงแรม นอกจากนี้ทางโรงแรมยังมีมาตรการรักษาความสะอาดและปลอดเชื้อ โดยมีการตรวจสอบจากหน่วยงานภาครัฐทุกๆ 2 เดือน มีการรมควันฆ่าเชื้อ จึงมั่นใจได้ โดยค่าบริการเริ่มต้นที่ 250 ( 1 ตัว) - 1,500 บาท ( 8 ตัว) ต่อคืนแล้วแต่ขนาดของห้อง และจำนวนแมว โดยส่วนใหญ่มักฝากอยู่ประมาณ 3 - 5 วันไปจนถึงเดือน มีทั้งลูกค้าคนไทยและต่างชาติที่ต้องเดินทางไปทำธุระไกลๆ และนานสุดที่เคยฝาก คือ 1 ปี เพราะไปเรียนต่อต่างประเทศ





     “ทุกวันนี้คนเลี้ยงสัตว์ ไม่ได้คิดแค่ว่าเป็นสัตว์เลี้ยง แต่มองว่าเป็นเหมือนสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัว ดังนั้นการดูแลสัตว์เลี้ยงทุกวันนี้ ทุกอย่างคือการคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุด ตั้งแต่อาหารการกิน ชีวิตความเป็นอยู่ เป็นมูลค่าทางจิตใจและเขายอมจ่าย ไม่ใช่เพราะว่าซื้อมาแพงหรือไม่แพง บางตัวอาจถูกเก็บมาเลี้ยงด้วยซ้ำ แต่ก็ได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด”
 

หวังเป็นอีกหนึ่งบริการเชิดหน้าชูตาของเมืองไทย


     ในอนาคตนัฐภูมิคิดจะขยายตลาดไปหัวเมืองใหญ่ๆ ในต่างจังหวัด โดยในปีนี้ตั้งเป้าที่จะไปเปิดที่พัทยา-จอมเทียน, ภูเก็ต และในปีหน้าวางแผนที่จะสร้างแพลตฟอร์มเพื่อขยายเป็นแฟรนไชส์ตามหัวเมือง ขณะที่ตั้งเป้าในอีก 2 ปีข้างหน้า (ปี 2564) ที่จะขยายไปต่างประเทศด้วย





     “เราอยากพัฒนาแพลตฟอร์ม พัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อสร้างระบบให้ธุรกิจดูแลตัวเองได้ โดยอยากทำให้ทุกคนรู้ว่าบริการของเมืองไทยที่โดดเด่นนั้น ไม่ได้มีแค่นวด ไม่ใช่แค่สปา อาหาร หรือโรงแรม แต่ยังมีรูปแบบสินค้าและบริการอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่นเดียวกับธุรกิจโรงแรมแมวด้วย” เขาบอกในตอนท้าย
 


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย

วิธีเปลี่ยนไอเดีย “ตัน” เป็น “มันส์” แบบ Matty Benedetto ยอดนักประดิษฐ์จอมกวน  

เพราะคำว่า “ไม่จำเป็น” ≠ “ไม่มีประโยชน์” ชิ้นงานแสนฮาของ Matty Benedetto “อัจฉริยะผู้ชั่วร้าย” จึงเป็นตัวอย่างชั้นดีให้กับผู้ประกอบการที่ตกอยู่ในอาการไอเดียตัน คิดอยากทำผลิตภัณฑ์ใหม่หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมได้ลองมาเรียนรู้กัน