Pet Lover มีเฮ! Tamago Mouzze คลอดขนมสำหรับสัตว์ป่วยรุกตลาดสัตว์เลี้ยงแสนรัก

Text: Neung Cch.





Main Idea
 
  • เมื่อสัตว์เลี้ยงจะถูกยกระดับให้กลายเป็นลูกรัก ถูกฟูมฟักเลี้ยงดูอย่างดีกระทั่งเกิดสินค้าบริการมากมาย แม้ยามเจ็บป่วยก็มีโรงพยาบาลหรือคลินิกคอยให้การรักษาไม่ต่างจากมนุษย์
 
  • แม้จะดูเหมือนมีครบทุกอย่าง แต่สำหรับหมาหรือแมวที่ป่วยและเริ่มเบื่ออาหาร กลับหาของทานเล่นที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายลำบาก กลายเป็นช่องว่างให้เกิดผลิตภัณฑ์ขนมสำหรับสัตว์ป่วย ใครจะคิดว่าเพียงหนึ่งปีสามารถทำยอดขายแตะหลักล้านบาทได้!




     ตอกย้ำเทรนด์สุขภาพไม่ได้มีแต่ในมนุษย์เราเท่านั้น เมื่อสัตว์เลี้ยงต่างได้รับการเลี้ยงดูอย่างทะนุถนอมทำให้ธุรกิจสัตว์เลี้ยงในไทยเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ทุกปี มีมูลค่าประมาณ 32,230 ล้านบาท ทั้งในกลุ่มอาหารสัตว์ 14,600 ล้านบาท สถานพยาบาลสัตว์เลี้ยง 10,200 ล้านบาท และผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง 7,430 ล้านบาท โดยสุนัขถือเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมสูงถึง 61 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาเป็นแมว 24 เปอร์เซ็นต์ นอกนั้นเป็นสัตว์เลี้ยงอื่นๆ 15 เปอร์เซ็นต์





     ด้วยเทคโนโลยีบวกกับความผูกพันที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงต่างดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างดี ทั้งอาหารเสริม ค่ารักษาพยาบาล ฯลฯ ส่งผลให้วงจรชีวิตพวกมันอายุยืนยาวขึ้น แต่เมื่อสัตว์เลี้ยงมีอายุมากขึ้นร่างกายอวัยวะต่างๆ ก็เริ่มเสื่อมตามสภาพ ทั้งหัวใจ ไต กลายเป็นสาเหตุที่สุนัขและแมวเริ่มป่วยก็เริ่มมีอาการเบื่ออาหาร ซึ่งนอกจากการักษาแล้วหากทำให้สุนัขหรือแมวสามารถทานอาหารได้ก็จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น


     “จากการที่เราเป็นสัตวแพทย์มาประมาณ 10 ปี เห็นว่าในตลาดยังไม่มีขนมสำหรับสัตว์ที่ป่วยเลย  จึงอยากพัฒนาผลิตภัณฑ์มีประโยชน์ต่อสัตว์เลี้ยง โดยนำไข่ขาวที่มีการใช้รักษาโรคอยู่แล้วเพราะมีคุณค่าทางโภชนาการมาเป็นวัตถุดิบหลัก ผสมกับวัตถุดิบธรรมชาติตัวอื่นๆ อาทิ มันเทศ ปราศจาก Gluten ไม่มีโซเดียมและฟอสฟอรัสต่ำ เหมาะกับสัตว์เลี้ยงระยะพักฟื้น ที่ต้องการแหล่งโปรตีนคุณภาพสูง ย่อยง่าย อีกทั้งขนมไข่ขาวมูซทามาโกะ เพิ่มความสะดวกด้วยด้วยการบีบจากซองแล้วกินได้ทันที” สัตว์แพทย์ วาณีนุช เกษโกวิท ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไข่กำลังดี จำกัด กล่าวถึงการสร้างผลิตภัณฑ์ขนมสำหรับสัตว์ป่วย แบรนด์ Tamago Mouzze เข้ามารุกตลาดสัตว์เลี้ยง





     แต่กว่าจะเปลี่ยนไข่ขาวให้เป็นขนมที่มีรสชาติสุนัขรับประทานได้นั้นต้องผ่านกระบวนการค้นคว้าวิจัยไม่ต่ำกว่าสองปี โดยอาศัยความร่วมมือกับเพื่อนร่วมอาชีพให้ช่วยเก็บข้อมูลในเรื่องหลักๆ คือ รสชาติ และทานแล้วต้องไม่มีผลกระทบกับการรักษาโรค


     “ช่วงแรกๆ เราก็ลองทำเองก่อนเอาไข่ไปต้ม หมา แมว กินไม่ได้อ้วก เวลาอึออกมาก็เป็นเม็ด พอดีแฟนให้คำแนะนำว่าลองเปลี่ยนรูปแบบทำเป็นของเหลวเพื่อให้ทานง่ายก็ดีขึ้น จากนั้นก็ให้เพื่อนๆ ที่เป็นสัตว์แพทย์ช่วยลองใช้ จากข้อมูลที่เก็บมาตลอดสองปีมันทำให้ สัตว์เลี้ยงมีชีวิตชีวามากขึ้น เมื่อได้ผลการทดลองเป็นที่พอใจ จากนั้นก็ค่อยๆ พัฒนาบรรจุภัณฑ์ การจดทะเบียน การผลิตที่ได้มาตรฐานของกรมปศุสัตว์”





     ส่วนวิธีการทำตลาด วาณีนุช ได้อาศัยคอนเน็กชั่นในวงการทั้งคลินิก โรงพยาบาลสัตว์ เพื่อเป็นจุดกระจายสินค้า เพียงระยะเวลาปีกว่าๆ ก็สามารถทำยอดขายได้ 3 ล้านบาท


     “ธุรกิจโตช้ากว่าที่คิดไว้ในเรื่องของรายได้ เพราะมันก็มีความยากเหมือนกัน เพราะผู้บริโภคยังไม่รู้จักสินค้าต้องพยายามสื่อสารให้คนเข้าใจผ่านสื่อโชเชียล รวมทั้งการให้ข้อมูลสัตวแพทย์เพื่อให้เขาสื่อสารแทนเรา เหมือนให้เขาเป็น เป็นกระบอกเสียงเป็นเซลส์ให้เรา ซึ่งตรงนี้ถือว่าได้ผลสร้างการรับรู้และสร้างความเชื่อถือได้อย่างดี หลังจากนี้บริษัทก็จะทำตลาดต่างประเทศมากขึ้น”
                 

     จากจุดสังเกตเล็กๆ กับสิ่งรอบตัวที่คุ้นเคย กลายเป็นคำถามเกิดเป็นไอเดียที่นำความเชี่ยวชาญในสิ่งที่ตนถนัดได้ธุรกิจที่มีตลาดรองรับแบบ Tamago Mouzze
                 
 
 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย

วิธีเปลี่ยนไอเดีย “ตัน” เป็น “มันส์” แบบ Matty Benedetto ยอดนักประดิษฐ์จอมกวน  

เพราะคำว่า “ไม่จำเป็น” ≠ “ไม่มีประโยชน์” ชิ้นงานแสนฮาของ Matty Benedetto “อัจฉริยะผู้ชั่วร้าย” จึงเป็นตัวอย่างชั้นดีให้กับผู้ประกอบการที่ตกอยู่ในอาการไอเดียตัน คิดอยากทำผลิตภัณฑ์ใหม่หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมได้ลองมาเรียนรู้กัน