Photo : Octane Station และ Yuwadi.s
Main Idea
- ธุรกิจที่เกิดจากความหลงใหลในอะไรบางอย่างมักทรงพลังเสมอ เช่นเดียวกับ อาทิตย์ ศีลพงษ์ ผู้ลุ่มหลงในรถคลาสสิกจนแปลงความชอบสู่ธุรกิจที่คนรักรถสุดคลั่งไคล้ และยังคงต่อยอดไปเป็นอะไรอีกมากในวันนี้
- แม้เรื่องเงินทุนยังเป็นข้อจำกัดใหญ่ แต่ฝันที่ชัดเจนก็ไม่ได้ทำให้เขาล้มเลิกความตั้งใจง่ายๆ เพื่อพัฒนารถโบราณฝีมือคนไทย ให้กลายเป็นจุดขายปลุกกระแสท่องเที่ยวไทยให้คึกคักได้อีกครั้ง
โต๊ะทำงานสุดเท่ ให้อารมณ์ดั่งนั่งอยู่ในรถฟอร์ด มัสแตง (Ford Mustang) ปี 1967 ปลุกพลังความคิดสร้างสรรค์ให้ไหลลื่นเสมือนกำลังโลดแล่นอยู่บนท้องถนน นี่คือผลงานของ “ออกเทน” (Octane Station) เฟอร์นิเจอร์รถโบราณสุดเนี้ยบ ธุรกิจเล็กๆ ของ “แบงค์-อาทิตย์ ศีลพงษ์” คนหนุ่มที่ลุ่มหลงในรถอเมริกันคลาสสิก อย่าง ฟอร์ด มัสแตง สุดชีวิต เขาเริ่มจากซื้อสะสม ให้เช่าถ่ายโฆษณา จัดอีเวนต์ ก่อนต่อยอดมาพัฒนาเป็นเฟอร์นิเจอร์โต๊ะทำงาน เคาน์เตอร์บาร์ตกแต่งร้าน ฟู้ดทรัครถโบราณ ขยับสู่ Speed Way อู่ทำสีรถโบราณ (Restoration) ขายชิ้นส่วนประกอบ (Autoparts) จนมาถึง Mad Monkey ซึ่งเป็น Custom Shop ที่จะเนรมิตรถโบราณให้โลดแล่นได้จริง หวังช่วยปลุกกระแสการท่องเที่ยวไทยให้คึกคัก
“ผมชอบรถโบราณมาก เรียกว่าขายรถใหม่ไปซื้อรถเก่าเลยทีเดียว เริ่มจาก ฟอร์ด มัสแตง ปี 67 เป็นตัวแรก พอซื้อมาก็ลองปล่อยให้เช่า เพื่อใช้ในงานโฆษณา มิวสิกวิดีโอ หรือโชว์ในอีเวนต์ต่างๆ อย่างตอนเปิดตัวหนังเรื่อง จอห์น วิค ก็มาเช่าไปโชว์ ตอนนั้นผมใช้วิธีไปโพสต์ไว้ในกลุ่มคนที่เล่นรถอเมริกันด้วยกัน ก็มีคนมาเช่าไปออกงานโน่นนี่อยู่เรื่อยๆ หน้าที่คือเราต้องเตรียมรถให้พร้อม แต่พอทำไประยะหนึ่งก็เริ่มกังวลว่าระหว่างที่ขับรถไปส่งลูกค้า อาจเกิดอุบัติเหตุหรือโดนชนขึ้นมาซึ่งอาจทำให้รถเสียรูปทรงได้ เพราะรถประเภทนี้ส่วนใหญ่เขาจะเน้นเก็บสะสม ไม่ได้เอาไว้ใช้งานจริง ขณะที่อะไหล่นำเข้าจากอเมริกาก็แพงมาก และใช้เวลานานกว่าของจะมาถึง ผมจึงเริ่มจากทำชิ้นส่วนเลียนแบบขึ้นมาจากไฟเบอร์กลาส แล้วพ่นสีให้เหมือนของจริง 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อใช้เป็นอะไหล่ทดแทน และเริ่มขายเป็นชิ้นส่วนประกอบสำหรับคนที่เล่นรถรุ่นนี้เหมือนกัน”
แปลงร่างรถโบราณสู่โต๊ะทำงานสุดเฉี่ยว
ความรักและหลงใหลที่มีต่อรถคลาสสิกทำให้อาทิตย์อยากอยู่กับรถตลอดเวลา เรียกว่าแม้กระทั่งตอนนั่งทำงาน ก่อเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการแปลงร่างรถโบราณสู่โต๊ะทำงานสุดเท่ ที่เริ่มจากแค่จะทำไว้ใช้เองจนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหล่าคนรักรถโบราณต่างกดไลค์
“ผมเริ่มจากรถรุ่น ฟอร์ด มัสแตง ปี 67 เปิดเพจขายใช้ชื่อ Octane Station (www.facebook.com/octanestation) ให้ความหมายเหมือนปั้มน้ำมันที่ขายน้ำมันเกรดคุณภาพสูง เพื่อสื่อถึงการเป็นเฟอร์นิเจอร์ในโรงรถ สำหรับบ้านสไตล์การาจ หรืออินดัสเทรียล” เขาเล่า
ใครจะคิดว่าสินค้าจากความชอบ ที่เจ้าตัวเขียนแบบเองและคุมงานทุกขั้นตอนด้วยความรัก ตั้งราคาขายในหลักหมื่นปลายๆ จะมีคนสนใจซื้อตั้งแต่ตัวแรก และยังคงทำตลาดได้จนถึงทุกวันนี้ โดยจุดเด่นของออกเทนคือเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่แยกชิ้นส่วนประกอบได้ ทำให้ไม่มีอุปสรรคหากต้องไปติดตั้งในบ้านที่มีทางเข้าแคบเล็ก หรือต้องขนส่งไปในพื้นที่ไกลๆ
จากโต๊ะทำงาน ฟอร์ด มัสแตง ที่รัก ก็เริ่มมีลูกค้ามาสั่งให้ทำรถโบราณรุ่นอื่นๆ ในเวลาต่อมา อาทิ Austin 7, Valk T3, Porsche และ Karmann เป็นต้น นอกจากโต๊ะทำงาน ยังมีสั่งทำพวก เคาน์เตอร์บาร์สำหรับตกแต่งในบ้านและร้านกาแฟ ของตกแต่งในโซนเคลือบสีรถยนต์ของห้างดัง รวมถึงการเช่าไปสร้างสีสันในงานต่างๆ ก็ยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง
ต่อยอดเป็นฟู้ดทรัค สร้างเอกลักษณ์ให้คนทำธุรกิจ
ระหว่างที่ทำเฟอร์นิเจอร์ก็เริ่มมีลูกค้าเอารถมาทำสีและซ่อมแซม จากที่ต้องส่งต่ออู่เขาเลยได้ไอเดียแตกไลน์ธุรกิจสู่ Speed Way อู่ทำสีรถคลาสสิก โดยเน้นการทำ Restoration (ซ่อมแซม ปรับปรุง) ควบคู่การขายชิ้นส่วนประกอบ (Autoparts) ทั้งให้บริการลูกค้าทั่วไป การซื้อรถมาทำใหม่และขายต่อ และท้าทายตัวเองด้วยการปรับโฉมรถโบราณมาสู่ฟู้ดทรัค เพื่อให้ผู้ประกอบการที่อยากมีรถขายอาหารและเครื่องดื่มคูลๆ ไม่ซ้ำใครสามารถมาจับจองเป็นเจ้าของได้
“มันเริ่มจากผมอยากทำร้านอาหาร แต่ถามว่าทำร้านอาหารอะไรดีเพราะทุกวันนี้ต้องไปเช่าที่มันก็เสียค่าเช่า เลยคิดว่าถ้ามันเป็นรถมันไปได้ทุกที่ เลยไปเลือกรถคันนี้มา เป็น International Harvester ปี 1968 แล้วเอามาปรับเป็นฟู้ดทรัค ซึ่งใครที่สนใจฟู้ดทรัครถโบราณก็มาจ้างเราทำได้ เพราะความถนัดของเราคือการ Restoration รถ เรามองว่ากลุ่มลูกค้าหลักที่เข้าถึงได้ง่ายสุดคือลูกค้าที่ต้องการสร้างคาแรคเตอร์ให้ธุรกิจของตัวเอง ในงบประมาณที่ไม่สูงมาก ซึ่งเราสามารถตอบโจทย์เขาได้”
เข้าสู่ธุรกิจ Custom Shop เนรมิตรถโบราณให้โลดแล่นได้จริง
จากเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง ฝันของเขาเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หลังเคยฝากผลงานไว้กับ Austin 7 รถที่แสนหายากและราคาแพง แต่เขาสามารถแกะแบบจากโฟมและทำรถทั้งคันขึ้นมาได้สำเร็จ ทำให้คนหนุ่มตัดสินใจขยายธุรกิจสู่ Mad Monkey ซึ่งเป็น Custom Shop ที่ทำรถขึ้นมาใหม่ทั้งคัน โดยเริ่มต้นจากมีคนมาขอให้พัฒนารถโบราณไซส์เล็กรุ่น Ford Model สำหรับให้เด็กนั่งได้ 2 คน หรือผู้ใหญ่ขับได้คนเดียว ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างกระบวนผลิต
จากที่แค่คิดว่าจะทำรถไว้ใช้ในงานแต่งงานของตัวเองปลายปีนี้ แผนของเขาก็เริ่มใหญ่และชัดเจนขึ้น เมื่อเห็นโอกาสพัฒนารถโบราณพลังงานไฟฟ้าเพื่อใช้ในงานอีเวนต์ รถสำหรับส่งเสริมการท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ รถที่ให้บริการลูกค้าตามโรงแรม สนามกอล์ฟ หรือบริการลูกค้าขณะเยี่ยมชมโครงการบ้านตัวอย่างเพื่อสร้างความรู้สึกหรูหรามีระดับ และสร้างจุดขายที่ไม่เหมือนใครได้อีกด้วย
“ปัจจุบันรัฐบาลเองพยายามส่งเสริมเรื่องรถพลังงานทางเลือก คือรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle : EV) ซึ่งเราสามารถปรับรถโบราณให้เป็นรถพลังงานไฟฟ้าได้ และยังมองถึงการนำเทคโนโลยี IoV (Internet of Vehicle) นวัตกรรมเพื่อยานยนต์อัจฉริยะ เข้ามาใช้ด้วย เพื่อให้สามารถควบคุมผ่านมือถือได้ ซึ่งตลาดยังไม่มีสินค้าแบบนี้ และเราสามารถผลิตได้ โดยตอนนี้อยู่ระหว่างทำรถต้นแบบและเขียนแผนเพื่อขอทุนวิจัย เพราะเรื่องเงินทุนยังเป็นข้อจำกัดหนึ่งของพวกเรา” เขาบอก
ก่อนฉายภาพที่อยากเห็นในอนาคต คือตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ของประเทศไทย มีรถโบราณของพวกเขาไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างกิมมิกใหม่ให้กับประเทศของเรา
“ผมอยากเห็นชาวต่างชาติเมื่อมาประเทศไทยเขาได้แต่งชุดไทยสวยๆ แล้วนั่งรถโบราณไปถ่ายรูปตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ของบ้านเรา อย่าง วัดพระแก้ว วัดโพธิ์ หรือหัวเมืองตามต่างจังหวัด ทั้ง เชียงใหม่ ขอนแก่น สงขลา หรือจังหวัดอะไรก็ตามที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ ซึ่งมองว่าจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวบ้านเราได้อีกเยอะมาก นี่คือสิ่งที่คิดและฝันไว้” เขาบอก
เริ่มจาก Passion แล้วทำมันให้สุด
ธุรกิจเกี่ยวกับรถโบราณไม่ใช่งานเดียวที่ทำอยู่ ในโลกการทำงานอาทิตย์ยังเป็นกราฟฟิกดีไซเนอร์ โปรแกรมเมอร์ ออกแบบเว็บไซต์ รับทำคอนเทนต์ รับจ้างถ่ายรูป เขียนแอปพลิเคชั่น และงานอีกสารพัดที่คนหนุ่มอย่างเขาจะทำได้ เขาบอกว่าถ้าอยู่นิ่งๆ ไม่ทำอะไรเลยชีวิตเหมือนจะระเบิด ฉะนั้นการได้ปลดปล่อยพลังไปกับการคิดและลงมือทำอะไรมากมาย ก็เป็นความสนุกในโลกการทำงานของเขา
“ถามว่าทำอย่างไรให้อยู่กับสิ่งพวกนี้ไปได้นานๆ ไม่เบื่อหรือเลิกทำไปก่อน ไม่ว่าจะเรื่องรถ หรืองานอื่นๆ ที่ผมทำอยู่ ผมว่าคำตอบเดียวคือ ความชอบ คุณต้องชอบมันมากๆ ก่อน ด้วยความที่ผมชอบมันมาก แม้มีบางอย่างที่ไม่ชอบแต่เมื่อดูแล้วว่ามันสามารถไปต่อยอดกับสิ่งที่ผมชอบได้ก็แค่เปลี่ยนมาชอบมันให้ได้ ผมเชื่อว่าทุกอย่างถ้าเราชอบหรือรักมันแล้ว เราจะทำมันออกมาได้ดีที่สุด” อาทิตย์บอก
เส้นทางที่เลือกเดินในวันนี้ไม่มีอะไรง่าย เมื่อฝันก้อนเล็กๆ เริ่มขยายใหญ่ขึ้น ก็ยิ่งมีโจทย์ท้าทายมาให้รับมือหนักขึ้นเรื่อยๆ แต่สิ่งหนึ่งที่อาทิตย์ย้ำกับเราจนถึงบทสนทนาสุดท้ายคือคำมั่นสัญญาที่ว่า..
“ผมจะไม่เลิกทำมัน”
และคำพูดนี้ก็ตอกย้ำความมุ่งมั่นที่เขามีต่อ Passion ของตัวเองไว้ได้ชัดเจนที่สุดแล้ว
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี