Main Idea
- ตลาดร้านอาหารเกาหลีในประเทศไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าตลาดในปัจจุบันสูงถึง 2,000 ล้านบาท มีฐานแฟนคลับคนรักอาหารเกาหลีอย่างเหนียวแน่น
- นี่คือที่มาของดีลแห่งปี ฟู้ดแพชชั่น เทคโอเวอร์ “Red Sun” ร้านอาหารเกาหลีที่อยู่ในไทยมา 4 ปี มี 12 สาขา โดยตั้งเป้าเข็น แบรนด์ขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งร้านอาหารเกาหลีในประเทศไทย มียอดขายโตถึง 40 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้!
ฟู้ดแพชชั่น ธุรกิจร้านอาหาร เดินหน้ากลยุทธ์ Brand Portfolio เทคโอเวอร์ร้านอาหารสัญชาติเกาหลีชื่อดัง “Red Sun” ในประเทศไทย ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าใหม่และเจาะตลาดร้านอาหารเกาหลีที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มั่นใจ Red Sun จะเป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์สำคัญที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับอาณาจักรฟู้ดแพชชั่นในอนาคต หลังการซื้อกิจการจะผสานจุดแข็งเดินหน้าธุรกิจเต็มรูปแบบพร้อมดัน Red Sun ขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งร้านอาหารเกาหลีในไทย ตั้งเป้าดันยอดขาย Red Sun โต 40% ภายในปีนี้
ชาตยา สุพรรณพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมา ฟู้ดแพชชั่น มองหาโอกาสที่จะขยายธุรกิจทั้งแนวลึกและแนวกว้าง ซึ่งการเพิ่มแบรนด์ใหม่เข้ามาใน Portfolio ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญ ที่ต้องการเติมเต็มโอกาสในการกินที่หลากหลาย ให้กับผู้คนจำนวนมากผ่านแบรนด์และช่องทางต่างๆ ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวไม่เพียงแต่จะเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในเชิงรายได้ แต่ยังหมายถึงการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ตลาดใหม่ สู่เป้าหมายสำคัญในการสร้างอาณาจักรความสุขผ่านมื้ออาหารให้กับคนไทย โดยที่ผ่านมาได้มีการศึกษาโอกาสและความเป็นไปได้ทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง จนนำมาสู่การประกาศความสำเร็จล่าสุด กับการปิดดีลธุรกิจครั้งนี้ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญของฟู้ดแพชชั่นในการซื้อธุรกิจร้านอาหารดังสัญชาติเกาหลี “Red Sun” ในประเทศไทย
“Red Sun คือ แบรนด์ที่มีศักยภาพและมีการเติบโตอย่างรวดเร็วแม้จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเพียง 4 ปี ซึ่งเป็นผลมาจากความเป็นเอกลักษณ์ของรสชาติและเมนูอาหารของ Red Sun จนมีกลุ่มแฟนประจำที่เหนียวแน่น อีกทั้งการบริโภคอาหารเกาหลีกำลังเป็นที่นิยมในประเทศไทย โดยพบว่าตลาดร้านอาหารเกาหลีในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากปี 2556 ที่มีมูลค่าตลาด 1,000 ล้านบาท สู่ปัจจุบันที่มีมูลค่าตลาดสูงถึง 2,000 ล้านบาท ซึ่ง Red Sun มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 5% ทั้งหมดนี้เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ฟู้ดแพชชั่น มีความมั่นใจในการเข้าซื้อกิจการของ Red Sun ซึ่งมั่นใจว่าเมื่อนำจุดแข็งของ Red Sun มาผสานกับโนว์ฮาวธุรกิจ การบริหารแบบมืออาชีพ และการตลาดที่เป็นเอกลักษณ์ของฟู้ดแพชชั่น จะยิ่งทำให้ Red Sun เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด” ชาตยา กล่าว
โดยการซื้อกิจการในครั้งนี้ ส่งผลให้ ฟู้ดแพชชั่น จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน บริษัท ฟู้ดซัน จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้าน Red Sun ในประเทศไทย ด้วยสัดส่วนหุ้น 74% และทีมผู้บริหารเดิมจะถือหุ้น 26% ซึ่งการเข้าซื้อหุ้น 74% นี้ จะรวมถึงสินทรัพย์ต่างๆ ของฟู้ดซัน ได้แก่ ร้าน Red Sun ที่มีอยู่ 12 สาขาในประเทศไทย และสิทธิ์ในการเปิดและบริหารแฟรนไชส์ Red Sun ในต่างประเทศทั่วโลก ยกเว้น 3 ประเทศ ได้แก่ เกาหลี จีน และกัมพูชา ทั้งนี้ ภายหลังการซื้อกิจการ นายนพวินท์ รอดริน ผู้บริหารเดิมจะรับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอ ของ บริษัท ฟู้ดซัน จำกัด
กลยุทธ์ Brand Portfolio
ชาตยา ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า กลยุทธ์ Brand Portfolio เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ธุรกิจของฟู้ดแพชชั่น ซึ่งแนวทางในการขยายธุรกิจของฟู้ดแพชชั่น มีด้วยกัน 3 แบบ คือ 1.การขยายธุรกิจด้วยแบรนด์เดิมที่อยู่ในพอร์ทของเรา 2.การขยายธุรกิจใหม่ที่พัฒนาขึ้นเอง และ
3. การขยายธุรกิจหรือแบรนด์ที่ซื้อเพิ่มเข้ามาในพอร์ท 4. การขยายธุรกิจในตลาดต่างประเทศภายใต้ แบรนด์ในเครือฟู้ดแพชชั่น ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมาถือว่าเราสามารถขยายธุรกิจและเพิ่มแบรนด์เสริมพอร์ตธุรกิจได้ตามเป้า โดยปัจจุบัน ฟู้ดแพชชั่นมีแบรนด์ร้านอาหารอยู่ในพอร์ตทั้งสิ้น 5แบรนด์ ได้แก่ บาร์บีคิวพลาซ่า, จุ่มแซบฮัท, Charna (ฌานา) ร้านอาหารสุขภาพกับคอนเซ็ปต์ “Full Flavor Healthy Meal”, SPACE Q (สเปช คิว) ร้านอาหารปิ้งย่างชาบูภายใต้คอนเซ็ปต์ “SOCIAL GRILL” และล่าสุด คือ Red Sun
โดยกลยุทธ์หลักสำหรับการเข้าซื้อกิจการหรือการเพิ่มแบรนด์เข้ามาในพอร์ตของฟู้ดแพชชั่นจะมีหลักคิดสำคัญ คือ 1.จะต้องอยู่ในตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโต 2. ศักยภาพของแบรนด์ที่จะเติบโตเป็นเบอร์ 1 ในตลาด 3. มีคุณค่าและแนวทางการดำเนินธุรกิจไปในทางเดียวกัน ซึ่งเมื่อนำมาผสานกับความเชี่ยวชาญในการทำตลาดของฟู้ดแพชชั่นจะเกิดเป็นสูตรลับความสำเร็จที่จะสร้างการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในระยะยาว
นพวินท์ รอดริน ผู้บริหารและผู้นำเข้าแบรนด์ Red Sun ในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ดซัน จำกัด กล่าวว่า Red Sun เป็นร้านอาหารสัญชาติเกาหลี ที่มีชื่อเสียงและโด่งดังมากในประเทศเกาหลี มีเมนูที่เป็นที่รู้จัก คือ ต๊อกปกกี่ และข้าวผัดเรดซัน ซึ่งเมนูยอดนิยมนี้เคยคว้ารางวัลแชมป์อันดับ 1 จากสถานีโทรทัศน์เอสบีเอส เครือข่ายสถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์ชั้นนำของประเทศเกาหลีใต้มาแล้ว โดยปัจจุบันมีสาขามากกว่า 50 สาขาทั่วประเทศเกาหลีใต้ โดยซื้อแฟรนไชส์เข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทย ในปี 2557 เปิดตัวครั้งแรกที่สยามสแควร์ ปัจจุบันมีสาขารวมทั้งสิ้น 12 สาขา แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 10 สาขา และ ในต่างจังหวัดอีก 2 สาขา คือ ที่พัทยา และนครราชสีมา
“การเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของฟู้ดแพชชั่นถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของ Red Sun สู่เส้นทางของการเป็นแบรนด์ร้านอาหารเกาหลีอันดับหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งด้วยเป้าหมายดังกล่าวจำเป็นต้องอาศัยความพร้อมในหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริหารจัดการที่มีศักยภาพเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต โดยภายหลังการควบรวมกิจการ ได้วางกลยุทธ์การขยายธุรกิจในทุกมิติ ทั้งการขยายสาขาในประเทศและต่างประเทศ โดยวางแผนขยายสาขา Red Sun ในประเทศไทยประมาณ 4 - 6 สาขา ภายในปีนี้ ซึ่งเน้นพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ เป็นหลัก พร้อมรีเฟรชภาพลักษณ์ของแบรนด์ Red Sun ให้มีความทันสมัย ด้วยแผนการปรับโฉมร้าน Red Sun สาขาสยามเซ็นเตอร์ ในคอนเซ็ปต์ใหม่ที่เข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นได้มากขึ้น และขยายตลาดเดลิเวอรี่ เพิ่มสัดส่วนรายได้จาก 1% เป็น 5% จากการเพิ่มเมนูสำหรับเดลิเวอร์รี่ มากกว่า 10 เมนู โดยคิดว่าในปี 2020 จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากเดลิเวอร์รี่ ประมาณ 10% ของยอดขายทั้งหมด”
ด้วยการเดินกลยุทธ์ในเชิงรุกเต็มรูปแบบในปีนี้ จึงมั่นใจว่าในปี 2562 จะเป็นปีที่ Red Sun จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดโดยตั้งเป้ารายได้โตไม่น้อยกว่า 40% และเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดจากเดิม 5% เป็น 10% โดยคาดว่าในอีก 2 ปีข้างหน้า จะมีสาขาในกรุงเทพมากกว่า 20 สาขา รวมถึงการขยายสาขาในต่างจังหวัด และการขยายธุรกิจออกไปยังต่างประเทศที่คาดว่าจะได้เห็นการเปิดสาขาในต่างประเทศภายในปี 2563
“Red Sun จะเป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่จะประสบความสำเร็จภายใต้อาณาจักรฟู้ดแพชชั่น ซึ่งนอกจากการเติบโตในส่วนของรายได้ที่คาดว่าจะมีสัดส่วนที่ 5-10% ของรายได้ทั้งหมดของกลุ่มแล้ว Red Sun จะเป็น Strategic Brand ที่เรานำเข้ามาเสริมในธุรกิจเพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบอาหารเกาหลีที่กำลังมาแรงในตอนนี้” ชาตยา กล่าวสรุป
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี