Photo : Buddy BKK, Chef’s Table by Chef Art, Table X
Main Idea
- ใครก็ต้องการเป็นคนสำคัญ การบริการแบบเอ็กซ์คลูซีฟอย่างธุรกิจ Chef’s Table การกินอาหารที่มาแรงในตอนนี้ มีเชฟมาปรุงอาหารให้คุณต่อหน้าพร้อมเล่าเรื่องราวที่มาที่ไปในแต่ละเมนูให้ฟังแบบเอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ คงจะฟินไม่น้อย
- ข้อดีของการทำธุรกิจอาหารในรูปแบบนี้อยู่ตรงที่การสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าและเปิดประสบการณ์ใหม่ให้พวกเขาเพื่อเกิดการแชร์และบอกต่อ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสามารถสร้างธุรกิจอาหารแบบ Chef’s Table ให้สำเร็จได้
- ลองดูตัวอย่างจาก 3 ร้าน Chef’s Table ยอดฮิตที่แต่ละร้านมีความน่าสนใจและมีเอกลักษณ์ของตัวเองนั่นคือ ร้าน Chef’s Table by Chef Art ร้าน Buddy BKK และร้าน Table X
ลองนึกภาพตัวคุณกำลังนั่งกินฟาสต์ฟูดอย่างเร่งรีบในห้างสรรพสินค้าที่มีเสียงดังวุ่นวายอยู่รายล้อม รีบกิน รีบเสร็จ แทบไม่ได้ลิ้มรสชาติที่แท้จริงของอาหารที่อยู่ตรงหน้ากับการดินเนอร์ที่บ้านเชฟแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่มีโต๊ะคุณแค่โต๊ะเดียว มีเชฟทำอาหารผ่านกระจกให้คุณมองเห็นทุกกระบวนการที่น่าตื่นตาตื่นใจพร้อมยกมาเสิร์ฟและเล่าเรื่องราวของแต่ละเมนูให้คุณได้ฟังแบบเจาะลึก แบบไหนจะประทับใจกว่ากัน!
สิ่งที่แตกต่างระหว่างการกินอาหารทั้ง 2 รูปแบบคือเรื่องของประสบการณ์แปลกใหม่และความประทับใจที่ลูกค้าได้รับ ซึ่งในตอนนี้รูปแบบการกินที่ 2 เรียกว่า Chef’s Table กำลังมาแรงมากในเมืองไทย มีทั้งกลุ่มลูกค้าที่พร้อมจ่ายและเริ่มมีร้าน Chef’s Table หน้าใหม่มากขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของผู้คนที่มองหาความแปลกใหม่ในการรับประทานอาหาร
ข้อดีของการทำร้านอาหารแบบ Chef’s Table
แน่นอนว่าการทำธุรกิจในรูปแบบนี้เป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้แก่ลูกค้าที่มาเยือน หากคุณสามารถทำให้ลูกค้าประทับใจได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้บริการ เท่ากับเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าหรือที่เรียกว่า Engagement ให้เกิดขึ้น สิ่งที่ตามมาคือการเกิดการแชร์และบอกต่อ ยิ่งผู้คนยุคนี้มีชีวิตที่ผูกติดกับโซเชียลมีเดีย เมื่อเขามีความประทับใจอะไรก็จะถ่ายรูปและโพสต์ลงบนโลกออนไลน์ ในบางครั้งคุณอาจจะไม่ต้องเสียเงินในการทำตลาดเลยถ้าหากทำให้ลูกค้าประทับใจได้
แต่การทำร้านอาหารแบบ Chef’s Table ไม่ใช่เรื่องง่าย หากว่าคุณไม่ได้เป็นเชฟก็ต้องมีเชฟที่เชี่ยวชาญด้านการทำอาหาร มีสไตล์ในการทำอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ ชอบสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ อยู่เสมอ ที่สำคัญเมนูเหล่านี้ต้องมีเรื่องราวและที่มาที่ไป ตั้งแต่วัตถุดิบที่ใช้จนถึงรสชาติ ทุกอย่างต้องมีเหตุผลมารองรับ รสชาติจะอร่อยอย่างเดียวไม่ได้ต้องน่าสนใจด้วยถึงจะดึงดูดให้คนต้องการมารับประทานอาหารกับคุณแบบเอ็กซ์คลูซีฟ
เราจึงขอหยิบยกตัวอย่างร้าน Chef’s Table ที่น่าสนใจมาให้ดูกัน
- Chef’s Table by Chef Art
เชฟอาร์ตนับว่าเป็นผู้บุกเบิกยุคแรกของร้านอาหารแบบ Chef’s Table เลยก็ว่าได้ โดยร้าน Chef’s Table by Chef Art ที่นำโดยเชฟอาร์ตผู้ซึ่งเป็นครูสอนในโรงเรียนทำอาหารที่ดังที่สุดในเมืองไทยอย่าง Le Cordon Bleu เพราะฉะนั้นเมื่อคุณได้มารับประทานอาหารที่นี่เท่ากับว่าได้ลิ้มรสฝีมือของเชฟระดับปรมาจารย์เลยทีเดียว การทำอาหารของเชฟอาร์ตจะมีความพิถีพิถันตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบด้วยตัวเอง
คุณจะเห็นได้จาก Instagram ของเชฟที่ถือปลาตัวใหญ่ยักษ์ ขาปูอลาสก้าไปจนถึงมะม่วงไซส์จิ๋ว ทุกเมนูของเชฟอาร์ตจะถูกคิดมาอย่างดีในทุกกระบวนการเพื่อถ่ายทอดเสน่ห์ของแต่ละเมนูออกมาให้ละเมียดละไมที่สุด เรียกได้ว่า 1 คอร์สกับการรับประทานอาหารกับเชฟอาร์ต แม้ว่าจะใช้เวลานานหลายชั่วโมง แต่ทุกนาทีที่ผ่านไปนั้นคุ้มค่า แค่ได้ดูเชฟบรรจงลงมือทำอาหารต่อหน้าก็เพลิดเพลินจนลืมเวลาแล้ว
- ร้าน Buddy BKK
เปลี่ยนบรรยากาศการรับประทานอาหารทั่วไปมาลิ้มรสความอร่อยกันถึงบ้านเชฟกับร้าน Chef’s Table ที่ชื่อว่า Buddy BKK สำหรับเชฟที่เปิดประตูบ้านต้อนรับทุกคนเข้ามาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ในครั้งนี้คือเชฟบัดดี้ที่จะเสิร์ฟอาหารให้คุณได้รับประทานในคอนเซปต์ Fat Kid at Heart เด็กอ้วน เน้นพื้นฐานอาหารที่ทุกคนรู้จักแต่ใส่ความแปลกใหม่ ความสนุก ความอร่อยและสีสันลงไปในแต่ละเมนู เช่น บะหมี่หยกต้มและเอามาจี่ให้กรอบเสิร์ฟพร้อมลิ้นวัวและฟัวกราส์ โดยเชฟบัดดี้จะมีการเปลี่ยนเมนูไปเรื่อยๆ เพื่อสร้างสิ่งใหม่อยู่เสมอ
ทางร้านจะรับลูกค้าแค่ครั้งละกรุ๊ปเท่านั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว หากใครอยากเปิดประสบการณ์รับประทานอาหารแบบ Chef’s Table ลองมาเริ่มต้นที่ร้าน Buddy น่าจะทำให้คุณประทับใจได้มากทีเดียว
- Table X
พบกับร้าน Chef’s Table สไตล์ฝรั่งเศสที่ถูกปรุงรสอาหารผ่านฝีมือเชฟที่คร่ำหวอดในวงการอาหารอย่างเชฟหมู ที่นักธุรกิจและไฮโซหลายคนรู้จักกันในฐานะเชฟที่ไปทำอาหารแบบ Private Dinning ให้ถึงบ้าน โดยร้าน Table X จะเปิดรับกลุ่มลูกค้าแค่ครั้งละไม่เกิน 10 ที่นั่ง อย่างต่ำ 6 ท่านขึ้นไป ความพิเศษของทางร้านคือวัตถุดิบที่ถูกส่งจากทั่วทุกมุมโลกตรงมายังร้าน Table X ย่านอารีย์ที่เชฟหมูให้ความสำคัญในเรื่องการสรรหาวัตถุดิบและเครื่องปรุงเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ ทั้งเชฟและลูกมือล้วนผ่านงานโรงแรมระดับ 5 ดาวมาแล้วทั้งสิ้น คุณจะได้รับประทานอาหารในบรรยากาศสบายๆ ที่มีเชฟทำให้ดูต่อหน้าแถมยังได้คุยกับเชฟแบบเจาะลึกว่าแต่ละเมนูคืออะไร กินแบบไหนถึงได้รสชาติดีที่สุด ใครที่เป็นแฟนอาหารฝรั่งเศสอยู่แล้วห้ามพลาดร้าน Table X เลยล่ะ
บทเรียนจากธุรกิจร้าน Chef’s Table สอนว่าผู้บริโภคในยุคนี้ชอบความรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ ชอบความเอ็กซ์คลูซีฟและความพิเศษที่ธุรกิจของคุณมอบให้แก่พวกเขา คนยุคนี้ขี้เบื่อและชอบความแปลกใหม่ หากคุณอยากทำธุรกิจให้เข้าไปอยู่ในใจพวกเขาต้องคิดอะไรที่ออกนอกกรอบ สร้างความสนุกให้ลูกค้าอยู่ตลอดเวลา อย่างธุรกิจ Chef’s Table ที่พวกเขาไม่หยุดสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ อยู่เสมอ
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี