Photo เจษฎา ยอดสุรางค์
Main Idea
- เพราะไม่รับประทานผงชูรส เมื่อต้องไปใช้ชีวิตในต่างถิ่น อาหารการกินจึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ กลายเป็น Pain Point ที่ทำให้สมาชิกในครอบครัวไม่นิ่งดูดาย
- นักวิทยาศาสตร์จำเป็นของครอบครัวจึงเกิดขึ้น จนได้นวัตกรรมผงแกงปรุงรสกึ่งสำเร็จรูป และน้ำพริกผง Hotdot Curry ด้วยคอนเซปต์ เก็บนาน ทานง่าย ที่ตอบโจทย์ทั้งลูกสาวและสังคมยุคใหม่ จนได้จำหน่ายในไอคอนสยาม และ อเมริกา
ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น ยังคงเป็นสุภาษิตที่ใช้ได้ดีดั่งกรณีของ ประพนธ์ กิตติพันธ์ เจ้าของน้ำพริก Hotdot Curry ที่ใช้เวลากว่าสองปี แม้จะต้องตำน้ำพริกละลายแม่น้ำทิ้งไปเป็นร้อยกิโล เพื่อจะหาทางทำให้ลูกสาวที่ไปศึกษาอเมริกาได้รับประทานอาหารไทยจานโปรดโดยเฉพาะ แกงเขียวหวาน ซึ่งหารับประทานค่อนข้างยากเนื่องจากตามร้านอาหารมักใส่ผงชูรส กลายเป็นโจทย์นวัตกรรมที่ทรงค่าเพราะตรงกับกระแสคนรักสุขภาพในปัจจุบัน
ปฏิบัติการตำน้ำพริกละลายน้ำรับประทานได้เลย
ในเบื้องต้น ประพนธ์ใช้วิธีแก้ปัญหาโดยส่งพริกแกงจากประเทศไทยไปให้ลูกสาวนอกจากจะเสียค่าขนส่งค่อนข้างแพงแล้วบางครั้งน้ำพริกยังไปหกเลอะเสื้อผ้า ฉะนั้นโจทย์แรกของการส่งน้ำพริกข้ามโลกคือ การกำจัดความชื้น เพราะถ้าไม่มีน้ำหรือความชื้นน้ำพริกก็สามารถเก็บได้นาน จึงได้เริ่มทดลองหาวิธีค้นคว้าด้วยตัวเองตั้งแต่นำพริกแกงไปเข้าเตาอบไมโครเวฟ และอีกหลายต่อหลายวิธี ซึ่งในหนึ่งการทดลองแต่ละครั้งจะต้องใช้น้ำพริกไม่ต่ำกว่าหนึ่งกิโลกรัม
จากน้ำพริกหลักสิบก็กลายเป็นหลักร้อยกิโลกรัมที่ต้องสูญเสียไประหว่างการทดลอง แต่ผลลัพธ์ยังไม่เป็นที่พอใจ ถ้าเป็นพ่อค้าทั่วไปอาจล้มเลิก แต่ในฐานะพ่อคนเขาตัดสินใจเดินหน้าไปขอคำปรึกษาที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สถาบันอาหาร จนได้พบกับวิธีการ Rehydrate คือการระเหิดน้ำ คล้ายกับการอบลำไยแห้ง คือ ทำให้พริกแกงมีความชื้นไม่เกิน 2 เปอร์เซ็นต์ เมื่อไม่มีน้ำ เชื้อราต่างๆ ก็จะไม่มี รวมทั้งการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ดีทำให้น้ำพริกสามารถเก็บได้เป็นปี
“ความคิดตอนนั้นคือ ตั้งใจทำของดีๆ ให้ลูกรับประทานโดยไม่ใส่สารเคมีใดๆ แม้แต่สารกันบูด แล้วก็ต้องสะดวก รับประทานง่ายเหมาะกับคนที่อยู่อพาร์ตเมนต์ คือเพียงแค่เติมน้ำ ใส่เนื้อสัตว์ ใส่ผักแล้วเอาเข้าไมโครเวฟเท่านั้น ปรากฏว่าเพื่อนๆ ของลูกสาวก็ชอบใจและก็ขอสั่งซื้อกันหลายคน”
เปลี่ยนงานนวัตกรรมให้ขึ้นห้าง
ปลายทางของน้ำพริกจากลูกสาวเริ่มขยายวงไปถึงคนรอบข้าง ทำให้ประพนธ์เริ่มมองเห็นโอกาสทางธุรกิจและต้องการปูทางให้เป็นธุรกิจรองรับสำหรับลูกสาวในอนาคต น้ำพริก Hotdot Curry จึงเริ่มเป็นธุรกิจในปี 2560 พร้อมกับการศึกษาหาความรู้การทำธุรกิจเพิ่มเติมอย่างจริงจัง โดยได้ไปอบรมคอร์สการทำ Business Model Canvas ของศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ที่อาจารย์เห็นแววจึงได้แนะนำให้เข้าประกวดจนได้รับรางวัลนวัตกรรมอาหารดีเด่นจาก TCDC ปี 2561 จากรางวัลนี้ทำให้ได้รับการติดต่อจากบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัดให้นำน้ำพริกไปจำหน่ายที่ไอคอนสยาม
นับเป็นประสบการณ์ขึ้นห้างครั้งแรกนอกจากความตื่นเต้นแล้วประพนธ์ยังได้พบกับความท้าทายครั้งใหม่คือ จะทำให้กลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติตัดสินใจซื้อน้ำพริกได้นั้นน้ำพริกต้องมีรสชาติไทยแท้ จึงได้เข้าร่วมกิจกรรม “ยกระดับมาตรฐานรสไทยแท้อุตสาหกรรมอาหารไทยในตลาดโลก (Authentic Thai Food For the World)” ด้วยวัตถุดิบและสูตรดั้งเดิมจากคุณย่าทำให้น้ำพริก Hotdot Curry แกงเขียวหวานสามารถผ่านการทดสอบและได้รับการรับรองถึงรสชาติความเป็นไทยแท้
“มันไม่ใช่การเอาเงิน 3 ล้านกว่าบาทไปซื้อความพอใจให้ลูกสาว ไม่อย่างนั้นผมคงหยุดทำตั้งแต่ลูกสาวกลับมาบ้านแล้ว แต่บังเอิญช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ มีนักเรียนไทยต่างแดน เพื่อนๆ ที่เขามองเห็นว่าน้ำพริกตัวนี้มีผลดีต่อผู้บริโภค บวกกับเสียงเชียร์จากคนรอบข้างให้ทำเป็นธุรกิจ แต่การทำธุรกิจไม่ใช่แค่มีนวัตกรรมอย่างเดียวจะประสบความสำเร็จ นวัตกรรมนั้นตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคด้วย ที่สำคัญถ้าคุณลงทุนกับเรื่องนวัตกรรม 100 เปอร์เซ็นต์ แต่อาจต้องลงทุนในเรื่องมาร์เกตติ้งเพิ่มถึง 800 เปอร์เซ็นต์ การผลิตสินค้ามาจำหน่ายต้องตอบคำถามให้ได้ว่าคุณจะขายใคร 2. ขายอย่างไร 3. ใครเป็นคนขาย จะช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ”
ถึงจะออกตัวว่ายังไม่เก่งเรื่องตลาด โดยช่วงแรกใช้เพียงช่องทางตลาดออนไลน์ ต่อมาเริ่มมีตลาดออฟไลน์มากขึ้นทั้งที่ไอคอน สยาม สยามดิสคัฟเวอรี่ ฟู้ดแลนด์ ท็อปส์ และหลังจากที่บริษัทได้ออกงานแสดงสินค้าก็มีตัวแทนจำหน่ายสนใจนำน้ำพริกไปจำหน่ายที่ มัลดีฟส์ ฮ่องกง อินเดีย และร้านโชห่วยขายสินค้าไทยในบอสตัน
ปัจจุบันบริษัทได้พัฒนาผงแกงปรุงรสกึ่งสำเร็จรูปเป็น 5 รสชาติคือ แกงเขียวหวาน แกงป่า แกงเผ็ด แกงเหลือง และแกงเลียง และน้ำพริกแบบผงอีก 3 ชนิดคือ กะปิ ปลาทู ปลาทูใส่ปลาร้า ล่าสุดกำลังจะมีน้ำพริกไข่เค็ม
สิ่งที่ทำให้ Hotdot Curry ผ่านมาได้ถึงทุกวันนี้คือ การมีนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค และไม่หยุดพัฒนาสินค้า จากน้ำพริกที่ทำกันรับประทานในครอบครัวเล็กๆ ก็ขยายเป็นครอบครัวใหญ่ ที่ประพนธ์ตั้งเป้าว่าไม่เกินสามปีจะหันบุกตลาดส่งออกอย่างจริงจัง
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี