ส่องกลยุทธ์ธุรกิจสบู่ ฉีกตัวเองยังไง? ให้แตกต่างในตลาด Red Ocean

Text       : WAN. K
P้hoto    : Cocomarine 






Main Idea
  • ตลาดความงามยังได้รับความสนใจจากผู้บริโภคดึงดูดให้มีผู้เล่นรายใหม่ๆ แวะเวียนมาชิงส่วนแบ่งตลาด Red Ocean ไม่ขาด แต่แค่นวัตกรรมคงไม่เพียงพอดึงดูดเงินจากกระเป๋าลูกค้า
 
  • Cocomarine จึงเลือกที่จะเพิ่ม option ถุงตาข่ายทำให้สูบ่มีฟองนุ่ม และสร้างแพ็กเกจจิ้งที่ล้อไปกับวัตถุดิบหลักอย่างมะพร้าว
 
  • วัตถุดิบที่มัดใจทั้งคนไทยและต่างชาติ ที่สำคัญสามารถต่อยอดไปถึงการแตกไลน์โปรดักต์อื่นๆ ในอนาคตอีกด้วย




     เรื่องความสวยความงามยังได้รับความสนใจจากหญิงสาว ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจึงครองสัดส่วนสูงถึงประมาณ 46.8 เปอร์เซ็นต์ของตลาดเครื่องสำอางในบ้านเราในปี 2560 โดยในจำนวนนั้นคิดเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าถึง 84 เปอร์เซ็นต์ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จะได้เห็นผู้ประกอบการทั้งเก่าและใหม่ต่างพากันเค้นไอเดียกันสุดฤทธิ์ เพื่อพิชิตส่วนแบ่งทางการตลาด Red Ocean หนึ่งในนั้นก็คือ Cocomarine แบรนด์ที่ชูมะพร้าวเป็นวัตถุดิบหลักในการตีตลาด


     “หากคิดจะเจาะตลาดสบู่ที่ใครๆ ก็ทำกันได้ การใช้ภูมิปัญญาแบบไทยๆ อย่างเดียวอาจจะไม่พอ เพราะฉะนั้นนวัตกรรมจึงต้องถูกหยิบมาใช้ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในการแข่งขันให้กับการทำธุรกิจ” เสียงสะท้อนของ มณีรัตน์ - จาวัลย์ บุนนาค สองพี่น้องผู้ก่อตั้งแบรนด์ Cocomarine



 


 
  • เสน่ห์มะพร้าวไทย มัดใจทั่วโลก

     สาเหตุที่ Cocomarine เลือกมะพร้าวมาเป็นวัตถุดิบหลัก เพราะเห็นถึงประโยชน์และอยากจะสนับสนุนภูมิปัญญาของไทยที่ไม่ใช่แค่คนไทยที่ชื่นชอบเท่านั้น แม้แต่ชาวต่างชาติโดยเฉพาะคนจีน ชาวอเมริกันก็ชื่นชอบในน้ำมันมะพร้าวมาก บวกกับตัวเองที่มี Passion ชื่นชอบในน้ำมันมะพร้าว จึงเห็นโอกาสต่อยอดเป็นธุรกิจ


     “ตัวสบู่ล้างหน้าซึ่งเป็นสินค้าหลักของแบรนด์นั้น มีการใช้นวัตกรรมน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นออร์แกนิกเข้ามาช่วย และที่แตกต่างจากสบู่อื่นๆ ก็คือ เราใช้กระบวนการ Steaming Process เป็นการใช้ไอน้ำในการผลิตและจะค่อยๆ ตุ๋น เพื่อรักษาคุณค่าของวิตามินที่อยู่ในสบู่ให้ครบ และการอิมัลชัน (Emulsion) หรือเป็นการผสมของน้ำมันมะพร้าวและน้ำนม ทำให้เกิดเนื้อฟองครีมนุ่มเวลาใช้ ซึ่งตัวฟองจะไม่ทำร้ายชั้นหล่อเลี้ยงผิว ที่สำคัญเป็นสูตร pH 5.5 ที่เป็น Skin Balance สร้างความนุ่ม ชุ่มชื่น กระจ่างใสและไม่แห้งตึง”







 
 
  • นวัตกรรมดีอย่างเดียวยังไม่พอ ต้องมี Option เสริม และแพ็กเกจจิ้งเจ๋ง

     ไม่เพียงคงคุณค่าคุณสมบัติวัตถุดิบให้อยู่ครบแล้ว การเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคว่าต้องการอยากใช้สบู่แบบใดยิ่งเพิ่มโอกาส เพราะจากช่วงเริ่มต้นที่ผลิตสบู่เข้าใจว่าผู้บริโภคน่าจะชอบสบู่ที่มีฟองน้อยๆ ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด เพราะยังมีผู้บริโภคอีกมากที่ชอบใช้สบู่แบบที่มีฟองเยอะๆ ทางแบรนด์จึงได้ทำถุงตาข่าย (Foam Net) เพื่อทำให้เวลาใช้สบู่เกิดฟองที่เนียนนุ่ม และหลังจากใช้เสร็จสามารถแขวนได้ เพื่อรักษาความคงรูป คงตัวของสบู่ให้สามารถใช้ได้นานมากขึ้น




 
     สำหรับการออกแบบบรรจุภัณฑ์เป็นหนึ่งในวิธีดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภค ทางแบรนด์จึงได้ดีไซน์แพ็กเกจจิ้ง ออกมาในทรงของลูกมะพร้าว เป็นการออกแบบที่ล้อไปกับสิ่งที่เป็นตัวชูโรงของแบรนด์ ต้องทำให้คนเห็นได้รับรู้ถึงกลิ่นอายของความเป็นมะพร้าวและตัวตนของแบรนด์ เพื่อให้เตะตาผู้บริโภคและร้องอ๋อได้ทันทีที่เห็นสินค้า

 
  • แตกยอดผลิตภัณฑ์ได้ แต่ต้องไม่ทิ้งวัตถุดิบหลัก

     การที่จะเดินต่อไปในอุตสาหกรรมนี้ให้ได้อย่างแข็งแรง การต่อยอดไปยังไลน์สินค้าอื่นๆ ก็มีความจำเป็น นอกจากสบู่ที่เป็นโปรดักต์หลักแล้ว ทางแบรนด์ยังมีลิปบาล์มสูตร Coconut และ Pomegranate ที่มีน้ำมันมะพร้าวเป็นส่วนผสม เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผู้ใช้ นอกจากนี้ทางแบรนด์มองไปถึงการผลิตโปรดักต์อื่นๆ ที่เกี่ยวกับการบำรุงผิวเป็นหลัก เช่น ครีมอาบน้ำ โลชั่นบำรุงผิว ซึ่งแน่นอนว่า ในทุกผลิตภัณฑ์ต้องมีวัตถุดิบที่เป็นหัวใจหลักอย่างน้ำมันมะพร้าวเข้าไปมีส่วนผสมในนั้นด้วย





www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย

วิธีเปลี่ยนไอเดีย “ตัน” เป็น “มันส์” แบบ Matty Benedetto ยอดนักประดิษฐ์จอมกวน  

เพราะคำว่า “ไม่จำเป็น” ≠ “ไม่มีประโยชน์” ชิ้นงานแสนฮาของ Matty Benedetto “อัจฉริยะผู้ชั่วร้าย” จึงเป็นตัวอย่างชั้นดีให้กับผู้ประกอบการที่ตกอยู่ในอาการไอเดียตัน คิดอยากทำผลิตภัณฑ์ใหม่หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมได้ลองมาเรียนรู้กัน