สำหรับธุรกิจร้านค้าออนไลน์ต่าง ๆ นับวันยิ่งแข่งขันกันมากขึ้น เรียกได้ว่าทุกวันนี้แค่สินค้าดี โปรโมชั่นโดน อาจไม่เพียงพอที่จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ เพราะอีกปัจจัยหนึ่งที่ลูกค้าต้องการได้รับ คือการบริการขนส่งที่รวดเร็วทันใจ ด้วยเหตุนี้ ร้านค้าต่าง ๆ จำเป็นต้องเลือกเฟ้นผู้ให้บริการขนส่งที่ดี เพื่อจะได้ตอบโจทย์ลูกค้าได้ ขณะเดียวกันก็ช่วยให้การบริหารจัดการต้นทุนด้านการขนส่งของตนเองมีประสิทธิภาพขึ้นด้วย
เลือกขนส่งแบบไหนให้เหมาะกับธุรกิจ?
แต่ด้วยทุกวันนี้มีบริษัทขนส่งเกิดขึ้นมากมาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งมีรูปแบบการให้บริการ จุดเด่นจุดด้อยที่แตกต่างกันไป ทำอย่างไรจึงจะสามารถเลือกบริษัทขนส่งได้โดนใจตรงกับความต้องการทั้งผู้ส่งและผู้รับ ดังนั้นมาดูกันว่า ในการจะเลือกบริษัทขนส่งสักแห่งหนึ่งควรคำนึงถึงปัจจัยอะไรบ้าง
รู้ความต้องการของลูกค้า ก่อนอื่นลองดูที่ความต้องการของลูกค้าก่อน ว่าต้องการให้จัดส่งในรูปแบบใด ระยะเวลาความรวดเร็วในการจัดส่งที่สามารถรอรับได้ เพื่อนำมาตรวจเช็คหารูปแบบบริการขนส่งที่เหมาะสม
เลือกบริการขนส่งที่น่าเชื่อถือ ตรวจสอบได้ เมื่อรู้ความต้องการของลูกค้าแล้ว ในการเลือกใช้บริการบริษัทขนส่งควรเลือกบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ ลองตรวจสอบจากประวัติการทำงาน บริการครอบคลุมพื้นที่ขนส่งมากน้อยเพียงใด ระบบบริหารการจัดการ ไปจนถึงกฎระเบียบข้อชดเชยต่าง ๆ หากสินค้าเกิดชำรุด หรือสูญหาย
มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถตรวจเช็คสถานะการจัดส่งได้ตลอดเวลา ตั้งแต่ต้นทาง จนถึงปลายทาง ถึงมือลูกค้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า
คุ้มค่า คุ้มราคาที่จ่าย แม้รูปแบบบริการและบริษัทขนส่งจะมีให้เลือกจำนวนมาก แต่ควรเลือกให้เหมาะสม พอดีกับต้นทุนการจัดส่งสินค้าที่กำหนดไว้ (ในกรณีการจัดส่งรูปแบบปกติ ไม่ใช่คำขอพิเศษจากลูกค้า)
รูปแบบการชำระเงิน ดูว่ามีรูปแบบการชำระเงินแบบใดให้เลือกบ้าง เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า เช่น ชำระเงินปลายทาง ชำระเงินผ่านออนไลน์
แต่บางครั้งการที่ร้านค้าต้องมาคอยหาข้อมูล นั่งเปรียบเทียบราคาผู้ให้บริการขนส่งแต่ละเจ้าด้วยตัวเอง เพื่อเลือกผู้ให้บริการที่ดีที่สุด อาจทำให้เสียเวลามากและสร้างความยุ่งยากจนเกินไป เพราะแบบนี้เองจึงมีตัวช่วยที่ทำให้ผู้ประกอบการสามารถเปรียบเทียบบริการและราคาได้ง่ายยิ่งขึ้น
Shipjung ผู้ให้บริการขนส่งที่รวมหลากหลายบริษัทขนส่งชั้นนำ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ อาทิ ไปรษณีย์ไทย, DHL, ARAMEX, SCG EXPRESS คือ หนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพื่อช่วยให้การทำงานของผู้ประกอบการง่ายขึ้น สามารถเลือกวิธีส่งพัสดุได้อย่างเหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด ไม่ต้องเสียเวลานั่งเปรียบเทียบราคา รูปแบบบริการแต่ละเจ้าให้ยุ่งยากอีกต่อไป รวมถึงเชื่อมต่อ Market Place ต่าง ๆ ด้วยระบบ API ทำให้สามารถตรวจเช็คข้อมูลการส่งสินค้าได้ทันที จึงทำให้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีบริการเก็บเงินปลายทาง COD (Cash On Delivery) จึงทำให้อุ่นใจได้ทั้งผู้ส่งสินค้าและผู้รับสินค้า เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้า ช่วยทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น รวมถึงยังมีบริการตรวจสอบยอดการโอนเงินง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชั่นได้ตลอดเวลา ยิ่งสร้างความสะดวกให้กับร้านค้า สำหรับการใช้งาน Shipjung นั้น ร้านค้าหรือผู้ส่งสินค้าสามารถทำการจองขนส่ง โดยสร้างรายการเพื่อทำการจัดส่งสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะรู้ค่าจัดส่งที่แน่นอน ชำระค่าขนส่งตามจริง โดยไม่มีการบวกเพิ่มใด ๆ
เพียงเท่านี้เรื่องการขนส่งสินค้า ก็จะไม่ใช่เรื่องยุ่งยากสำหรับผู้ประกอบการอีกต่อไป แถมยังควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้นอีกด้วย ที่สำคัญลูกค้าเองก็ถูกใจ เพราะได้รับสินค้าตามที่ต้องการในเวลาที่รวดเร็ว Win-Win ทุกฝ่ายแบบนี้เป็นอีกทางเลือกที่น่าลองสำหรับ SME
สำหรับลูกค้าที่สนใจ สามารถมาติดต่อได้ที่ SCB Business Center ทั้ง 5 สาขา สยามสแควร์ ซอย 1 เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 5 (ฝั่งอิเซตัน) เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ (ชั้น 3 ฝั่งโรงภาพยนตร์) สำเพ็ง และเดอะแพลทินัม แฟชั่นมอลล์ ชั้น 5 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://businesscenter.scb.co.th หรือติดตามข้อมูลข่าวสารความเคลื่อนไหวของ SCB SME ได้ที่ facebook.com/groups/scbsme
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี