​AmAn นวัตกรรมอัญชันบดผง ความสะดวกแบบใหม่ของวัตถุดิบอาหารและเครื่องดื่ม





 

     เมื่อสีสันที่ได้จาก “ดอกอัญชัน” และสรรพคุณมากมายสามารถสร้างแรงบันดาลใจที่จะส่งต่อสิ่งดีๆ ให้กับผู้คน ทั้งคนที่มีความคุ้นชินกับสมุนไพรชนิดนี้และหน้าใหม่ให้ได้ลิ้มลอง AmAn จึงหยิบเอานวัตกรรมบดผงมาใช้กับดอกอัญชัน บรรจุลงซอง ที่เพียงแค่ชงน้ำร้อน ทำการกรอง ก็สามารถอร่อยไปกับรสชาติแท้ๆ จากธรรมชาติได้เลย


     ซึ่งทาง ณัฐวงศ์ และ ณัฐชยา เจริญหิรัญธรณ์ สองสามี - ภรรยาเจ้าของแบรนด์ AmAn เล่าให้ฟังว่า อัญชันถือเป็นสมุนไพรที่คนไทยมีความคุ้นเคยกันมาอย่างยาวนาน แต่ยังไม่มีเจ้าไหนที่เข้ามาทำการบดผงเพื่อความสะดวกในการดื่มอย่างเป็นจริงเป็นจังหรือสร้างแบรนด์ขึ้นมา จึงเห็นช่องว่างและสบโอกาสทำการผลิตโปรดักต์ออกมาเพื่อเจาะตลาด





     “โดยทั่วไปการต้มดอกสดและดอกตากแห้งนั้นจะต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งเพื่อคั้นสีของดอกอัญชันออกมา เราเลยคิดว่าจะพัฒนาต่อยอดตรงนี้ยังไงได้บ้าง แรกเลยเราเอาดอกสดมาต้มก่อน จากนั้นเป็นดอกตากแห้ง เราเริ่มลองทีละอย่าง ลองทุกๆวันจนรู้ว่าอย่างไหนน่าจะสะดวกที่สุดสำหรับลูกค้า ซึ่งก็คือการบดให้เป็นผงนั่นเอง โดยวิธีนี้จะช่วยตอบโจทย์เรื่องความสะดวกที่ไม่ต้องเสียเวลาไปต้ม เพราะเพียงแค่เอาไปชงกับน้ำร้อนแล้วนำไปกรองก็สามารถดื่มได้เลย อีกทั้งเมื่ออยู่ในลักษณะของการเป็นผงก็สามารถบรรจุขายในซองได้ในปริมาณมากและมีอายุการเก็บรักษาได้นานถึง 1 ปี”


     นอกจากเป็นเครื่องดื่ม อัญชันยังสามารถนำไปเป็นส่วนผสมในการทำอาหาร และด้วยความที่เป็นสมุนไพรซึ่งสามารถเล่นสีสันได้หลายระดับ จึงสามารถสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆด้วยสีที่ได้จากอัญชันได้อีกด้วย อย่างถ้าบีบมะนาวลงไปก็จะทำให้ได้น้ำอัญชันที่มีสีม่วง อยากได้เฉดสีที่เข้มหรืออ่อนก็สามารถทำได้ นับเป็นวัตถุดิบชั้นยอดอีกตัวของการทำขนมหรือเบเกอรี่





     “เพราะไม่ใช่แค่ดื่มได้อย่างเดียว อัญชันยังสามารถนำไปประกอบอาหาร ทำขนมหรือเมนูที่หลากหลายได้ เรียกได้ว่าสามารถแตกยอดออกไปได้มากกว่าการเป็นส่วนผสมของเครื่องดื่ม บางคนอาจจะนำไปผสมกับข้าว บางคนเอาไปเป็นสีผสมอาหารเพื่อใช้ในการทำขนมไทยหรือเบเกอรี่ ซึ่งนอกจากจะเป็นสีที่มาจากธรรมชาติแล้ว ยังสามารถเล่นสีได้ว่าจะเอาฟ้าอ่อน ฟ้าเข้ม น้ำเงินหรือม่วงก็สามารถทำได้”


     โดยโปรดักต์ของแบรนด์มีอยู่ 2 แบบ คือ แบบผงล้วนและแบบผงปรุง ซึ่งสูตรแรกจะเป็นผงอัญชันล้วนๆ ส่วนสูตรที่สองจะมีส่วนผสมอื่นๆเพิ่มเติม เช่น น้ำตาล เกลือ ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับลูกค้าว่าจะนำไปใช้ในการทำอะไร อย่างผงปรุงก็สามารถเอาไปทำเป็นเครื่องดื่ม หรือผงล้วนก็สามารถนำไปทำอาหารหรือขนม นอกจากอาหารและเครื่องดื่ม ยังสามารถนำไปใช้ผสมเป็นแชมพูเพื่อให้ผมดกดำได้อีกด้วย





     “กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักของแบรนด์นั้นจะเน้นไปที่ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ร้านขนมไทย ร้านเบเกอรี่และโรงแรม รวมไปถึงกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนที่เคยดื่มหรือเคยทานมาแล้วหรือเป็นกลุ่มคนอายุช่วง 30 – 40 ปีขึ้นไป ซึ่งเคยมีประสบการณ์และรู้จักกับอัญชัน นอกจากนี้ ด้วยความสะดวกที่มาในรูปแบบผงยังสร้างความเป็นไปได้ที่จะตีตลาดคนรุ่นใหม่ ซึ่งเราอยากให้คนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสลองกิน ลองชิมสมุนไพรแบบไทยๆ เพราะทุกวันนี้หากพูดถึงสมุนไพร ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีอายุหรือเป็นผู้ใหญ่”


     แม้ว่าตลาดของส่วนผสมสำหรับอาหารและเครื่องดื่มรวมไปถึงสมุนไพรจะมีผู้เล่นอยู่ไม่น้อย แต่ด้วยความจริงจังในการชูอัญชันบดผงเป็นซิกเนเจอร์ จึงช่วยสร้างจุดแข็งและความแตกต่างให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี





     “ด้วยความที่เราเน้นไปที่ตัวอัญชันเพียงอย่างเดียวเลยสามารถฉีกตัวออกจากร้านสมุนไพรอื่นๆ ซึ่งส่วนมากเขาจะนำเสนอสมุนไพรหลากหลายประเภท ไม่ได้เน้นไปที่ตัวใดตัวหนึ่งเหมือนอย่างเรา ซึ่งถึงแม้ว่าการแข่งขันในตลาดสมุนไพรจะสูง แต่เราก็อาศัยกลยุทธ์ของการนำเสนอโปรดักต์ที่เป็นตัวหลักเพียงตัวเดียวเพื่อทำการเจาะตลาด อย่างที่เราเห็นว่าทุกวันนี้มีโปรดักต์อยู่เยอะแยะมากมาย ซึ่งไม่ว่าเราจะหยิบจับทำอะไรก็กลายเป็นว่าเราต้องไปแข่งกับคนอื่น ดังนั้น จุดเริ่มต้นในการแข่งขันที่ดี ควรสตาร์ทจากสิ่งที่เราชอบหรือมีแรงบันดาลใจที่จะทำในสิ่งนั้น แล้วความสร้างสรรค์ เป็นเอกลักษณ์จะตามมาและทำให้เรานั้นแตกต่างจากคนอื่น”





www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย

วิธีเปลี่ยนไอเดีย “ตัน” เป็น “มันส์” แบบ Matty Benedetto ยอดนักประดิษฐ์จอมกวน  

เพราะคำว่า “ไม่จำเป็น” ≠ “ไม่มีประโยชน์” ชิ้นงานแสนฮาของ Matty Benedetto “อัจฉริยะผู้ชั่วร้าย” จึงเป็นตัวอย่างชั้นดีให้กับผู้ประกอบการที่ตกอยู่ในอาการไอเดียตัน คิดอยากทำผลิตภัณฑ์ใหม่หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมได้ลองมาเรียนรู้กัน