​Fat.P แซนด์วิชโฮมเมด ถึงเป็นโฮมเมด ก็เสิร์ฟด่วนได้





 

     ในชั่วโมงเร่งด่วนที่ผู้คนต่างรีบเร่งเพื่อไปทำงาน หนึ่งในอาหารยอดนิยมที่มักเป็นตัวเลือกในมื้อเช้าของหนุ่มสาวออฟฟิศทั้งหลายต้องมีชื่อของ แซนด์วิช ติดอยู่ด้วยแน่นอน แม้จะไม่ใช่อาหารหลักของไทย แต่จากการพกพาสะดวก หิวเมื่อไหร่ก็หยิบขึ้นมากินได้จึงมักเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ถูกนึกถึงอยู่เสมอ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วแซนด์วิชที่วางขายอยู่ทั่วไปมักทำไว้เสร็จเรียบร้อยแล้วใส่กล่องบ้างถุงบ้างลูกค้ามาถึงก็สามารถหยิบซื้อได้ในทันที บางแห่งทำสำเร็จรูปแช่แข็ง เวลาลูกค้าสั่งก็แค่เอาออกมาอุ่นกับเตา


     แต่สำหรับ Fat.P ร้านขายแซนด์วิชและเบเกอรี่โฮมเมด ย่านซอยละลายทรัพย์ไม่ใช่แบบนั้น เพราะเป็นแซนด์วิชที่ทำสดใหม่จากเตาเพื่อเสิร์ฟร้อนๆ ให้ลูกค้า แถมยังพิเศษยิ่งกว่าเพราะทำเองทุกอย่างตั้งแต่ขนมปัง จนถึงไส้ชนิดต่างๆ และด้วยตัวร้านเล็กๆ น่ารักกะทัดรัดจนเป็นเอกลักษณ์ จึงทำให้ Fat.P Eatery เป็นตัวเลือกที่อยู่ในใจลูกค้าย่านสีลมได้ไม่ยากเลย
 



               
     Fat.P เริ่มต้นเปิดตัวเมื่อ 3 ปีก่อน โดย ชาลิสา ชววิวัฒนชัย (ปริ้น) และพัชรีพร พิบูลธนเกียรติ (โบโบ้) เริ่มต้นจากปริ้นเรียนจบด้านเบเกอรี่มาจากประเทศอังกฤษ ด้วยความที่ฝันว่าอยากมีร้านขายขนมเป็นของตัวเอง จึงเริ่มลองหาพื้นที่เช่าร้านก่อนที่จะตัดสินใจไปทำงานประจำ จนมาเจอกับพื้นที่เล็กๆ แห่งหนึ่งย่านซอยละลายทรัพย์พื้นที่ประมาณ 2 ตารางเมตรเท่านั้น
               

     “เผอิญวันนั้นตั้งใจมาเดินเล่น เห็นพื้นที่ว่างอยู่ประมาณตารางเมตรกว่าๆ เลยลองขอเช่า เจ้าใจดีก็เลยแบ่งให้เช่า จริงๆ ตอนแรกคิดไว้เยอะมากว่าจะทำอะไร เพราะแถวนี้ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นพนักงานออฟฟิศ ก็มาคิดว่าอยากทำอะไรที่สะดวก รวดเร็ว ไม่ยุ่งยาก เป็นแบบ grab and go ซื้อติดมือกลับไปกินได้ง่ายๆ ตอนแรกก็คิดไว้หลายอย่างเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็มาจบที่แซนด์วิช ซึ่งเขาสามารถหยิบกินได้ง่ายๆ กินไป ทำงานไป เป็นอาหารเช้าก็ได้กลางวันก็ได้”
               




     ปริ้นเล่าถึงที่มาของชื่อ ‘Fat.P’ ว่าเป็นการเล่นคำแปลเป็นไทยได้ตรงตัวว่า ‘อ้วนพี’ โดยจุดเด่นของแซนด์วิช Fat.P คือ ความเป็นโฮมเมด ทำเองตั้งแต่ขนมปัง ไปจนถึงไส้ชนิดต่างๆ  แถมยังทำสดใหม่แบบชิ้นต่อชิ้นกริลล์ให้ลูกค้าได้รับประทานกันแบบร้อนๆ นอกจากนี้ยังมีเบเกอรี่อีกหลากหลายชนิดที่ทำแบบวันต่อวันเช่นกันสลับสับเปลี่ยนกันไป อาทิ บราวนี่ เค้กรสชาติต่างๆ โดยเริ่มเปิดขายตั้งแต่ 7.00 – 14.00 น. (หยุดเสาร์-อาทิตย์ และนักขัตกฤษ์) ช่วงพีคที่สุด คือ ช่วงเจ็ดโมงเช้าก่อนเข้าทำงาน พอบ่ายๆ ก็เริ่มหมดแล้ว
              

 

     “ความตั้งใจของเรา คือ อยากทำขายให้หมดวันต่อวัน เพราะขนมของเราไม่ใส่สารกันบูด ในแต่ละวันเราจึงทำออกมาไม่มาก ซึ่งมีข้อเสีย คือ ของน้อย ลูกค้ามาช่วงบ่ายจะไม่ค่อยมีของแล้ว แต่เราคิดว่ามันดีกว่าลูกค้าได้กินของสดใหม่ทุกวัน เราเองก็ไม่ต้องเหนื่อยเกินไป เพราะเราทำเองทุกอย่างตั้งแต่เปิด-ปิดร้าน ไปจ่ายตลาดซื้อของ เย็นกลับไปก็ทำขนมต่อที่บ้าน เช้าก็มาเปิดร้าน ซึ่งของเราไม่ใช่อาหารคลีน เพียงแต่เราเลือกใช้ของดี เลือกใช้ของที่เราเองก็กิน และคิดว่าดีกับลูกค้าเท่านั้น อย่างมาการีนเราก็ไม่ได้ใช้ ตอนแรกคิดว่าลูกค้าที่สนใจน่าจะเป็นคนรุ่นใหม่ พนักงานออฟฟิศที่อายุยังน้อย แต่ปรากฏลูกค้าที่มาซื้อประจำ คือ กลุ่มที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาหน่อยอายุ 30 – 40 อัพ ซึ่งก็เหนือความคาดหมายเหมือนกัน”
               




     โดยแซนด์วิชของ Fat.P มีให้เลือกหลายหน้าด้วยกัน อาทิ แฮม+ชีส, เห็ด+ชีส, เบคอน+ชีส, ทูนา, กุ้งสไปซี่+แตงกวา ฯลฯ หน้าที่ขายดีเป็นเมนูแนะนำ ได้แก่ แฮม+เห็ด+ผักโขม+ชีส และมะเขือเทศย่าง+ผักโขม+ชีส นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถเลือกผสมหน้าได้ด้วยตัวเองด้วย ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 59 – 89 บาท มีให้เลือกทั้งขนมปังโฮลวีตและชาร์โคล ยอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 70 – 80 คู่ต่อวัน และถึงแม้จะเป็นโฮมเมดทำสดใหม่แบบชิ้นต่อชิ้น แต่ก็ใช้เวลาไม่นานไม่เกิน 5 นาทีต่อชิ้น ตอบโจทย์ผู้บริโภคแบบเสิร์ฟด่วน แต่ก็ได้คุณภาพด้วย ซึ่งในอนาคตทั้งปริ้นและโบโบ้ยังไม่ได้คิดวางแผนไปไกล เพียงแต่คิดว่าหากมีโอกาสก็อยากมีร้านที่ขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อจะได้ทำอาหารสไตล์โฮมเมดให้ลูกค้าได้มากขึ้น





     “เราอาจเป็นนักธุรกิจที่ไม่ค่อยเก่ง เพราะเริ่มทำทุกอย่างจาก passion ของคนทำอาหาร คือ อยากทำของดีๆ ของสดใหม่แบบวันต่อวันให้ลูกค้าได้กิน อนาคตข้างหน้าเรายังไม่ได้คิดไปไกล คิดแค่อยากประกอบอาหารในร้านได้มากขึ้น แต่ก็ยังคงความเป็นโฮมเมดอยู่ ทำเอง ขายเอง เพราะเราคิดว่าโฮมเมด คือ ความเฉพาะตัว อย่างแซนด์วิชที่ทำขายอยู่  จริงๆ ใครก็ทำขายได้ แต่เราไม่ค่อยห่วง เพราะเราทำเองตั้งแต่ขนมปังเลย ไมได้ซื้อมา ยังไงก็ไม่เหมือนกัน ยังมีเรื่องของรสมืออีก ไม่ได้หมายความว่าของเราอร่อยกว่า แต่ใครชอบกินแบบนั้น ก็จะชอบอยู่แบบนั้น นี่คือ ความเป็นโฮมเมด”     


Facebook : Fat.p_eatery





www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย

วิธีเปลี่ยนไอเดีย “ตัน” เป็น “มันส์” แบบ Matty Benedetto ยอดนักประดิษฐ์จอมกวน  

เพราะคำว่า “ไม่จำเป็น” ≠ “ไม่มีประโยชน์” ชิ้นงานแสนฮาของ Matty Benedetto “อัจฉริยะผู้ชั่วร้าย” จึงเป็นตัวอย่างชั้นดีให้กับผู้ประกอบการที่ตกอยู่ในอาการไอเดียตัน คิดอยากทำผลิตภัณฑ์ใหม่หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมได้ลองมาเรียนรู้กัน