ด้วยความที่เมืองไทยตั้งอยู่ในเขตร้อนใกล้เส้นศูนย์สูตร ทำให้มีภูมิอากาศแบบร้อนชื้น พืชพันธุ์ต่างๆ จึงมีความโดดเด่นเฉพาะตัวต่างจากภูมิประเทศอื่น มะพร้าว เป็นต้นไม้ที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์และหาได้ยาก ถ้าไม่ใช่แถบประเทศบ้านเราแล้วแทบไม่มี ทำให้โปรดักต์จากมะพร้าวเริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย และหนึ่งในแบรนด์ที่เห็นโอกาสจากวัตถุดิบที่ทรงคุณค่าอย่างมะพร้าว มาพัฒนาต่อยอดให้กลายเป็น Lifestyle Product คือแบรนด์ Nuttarin โดย ไมค์ - อธิปปวรรธน์ สิริอรรถิยะประภา กับพี่สาวได้เริ่มต้นจากการเห็นเพื่อนของอาม่าใช้น้ำมันมะพร้าวแล้วผิวดูเต่งตึง เปล่งปลั่ง ต่างจากผู้สูงอายุทั่วไป จึงเกิดแรงบันดาลใจเล็กๆ ขึ้น
“ผมกับพี่สาวได้ไปเจอเพื่อนของอาม่าแล้วเห็นว่าเขาดูต่างจากคนอื่นเลย ผิวพรรณเปล่งปลั่ง เต่งตึง ดูสาวกว่าคนอื่น เราก็ถามเคล็ดลับเขาว่าเขาทำอะไร ทำไมดูดีแบบนี้ เพื่อนอาม่าก็บอกว่า ฉันใช้น้ำมันมะพร้าวทำเอง ทั้งกิน ทั้งทา ใช้ในชีวิตประจำวัน เกิดเป็นแรงบันดาบใจให้เรากับพี่สาวว่า หรือเราควรจะทำน้ำมันมะพร้าวดูบ้าง เพราะเราเชื่อว่ามันเป็นสินค้าที่ดี บวกกับความที่น้ำมันมะพร้าวเป็น Geographical Product หาได้เฉพาะภูมิประเทศเขตร้อนชื้นแบบนี้ ต่างชาติจะไม่มีเลย เราเลยตัดสินใจเริ่มทำแบรนด์ Nuttarin (ชื่อเก่าของพี่สาว)”
หลังจากได้รับแรงบันดาลใจ ไมค์และพี่สาวก็เปลี่ยนเป็นแรงฮึดในการทำแบรนด์ เริ่มต้นด้วยการศึกษาเกี่ยวกับวัตถุดิบมะพร้าว เริ่มลองทำ ลองใช้เองดูก่อนว่ามันดีจริง
“ก่อนจะเริ่มทำ เราสองคนก็ศึกษา เราทำแต่ละอย่างออกมาสำเร็จไม่ใช่ว่าจะขายได้เลย ต้องทดลองใช้เอง คิดสูตรว่ามันเหมาะมั้ย ใช้ดีมั้ย ถึงจะเริ่มออกมาเป็นโพรดักส์ในแต่ละตัว ถ้าอะไรไม่ดีเราก็เปลี่ยนให้มันเหมาะกับการใช้งานมากขึ้น”
โดยในตอนนี้โพรดักส์เกี่ยวกับมะพร้าวของแบรนด์ Nuttarin มีมากมายด้วยกันตั้งแต่น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นบริสุทธิ์ที่สามารถใช้บริโภคได้หลากหลายตั้งแต่ทาผิว ทาหน้า หมักผม กินสดเลยก็ยังได้ นอกจากนี้ยังมีน้ำมันมะพร้าวทำอาหาร แป้งมะพร้าว น้ำหวานดอกมะพร้าว ยาหม่องมะพร้าว แม้แต่ยากันจากมะพร้าวก็ยังมี ล่าสุดยังเน้นออกสกินแคร์ ดูแลผิวมากขึ้นเช่น ครีมทาผิว สบู่ แชมพู เรียกได้ว่าสร้างสรรค์มะพร้าวให้ครบทุกการใช้งานในชีวิตประจำวัน
จุดเด่นหลักๆ ของแบรนด์ Nuttarin ด้วยความที่วางตัวเองเป็น Coconut Lifestyle Products หน้าตาของแพ็กเกจจิ้งจึงมีความดูดี เหมาะสำหรับคนยุคใหม่ที่จะเลือกหยิบขึ้นมาใช้ เน้นบรรจุภัณฑ์ที่ดูเรียบง่ายแต่แฝงความเก๋เอาไว้เบาๆ ผ่านตัวอักษรและการจัดวาง อีกเรื่องที่สำคัญมากที่สุดคือคุณภาพของสินค้าที่เน้นตั้งแต่การเลือกมะพร้าวเลยทีเดียว
“แก่นแท้ของแบรนด์ที่ทำให้เราเติบโตจริงๆ คือคุณภาพสินค้า น้ำมันมะพร้าวมีมากมายหลายแบรนด์ทำไมคนต้องเลือกเรา ดูภายนอกอาจจะเหมือนกันหมดแต่มันต้องลองถึงจะรู้ความต่าง มีลูกค้าเองเคยมาบอกว่าเขาเคยใช้น้ำมันมะพร้าวมาแต่ไม่ชอบเลยจนได้มาเจอของเราทำให้ความคิดเขาเปลี่ยนไป กลิ่นมันต่าง เนื้อสัมผัสมันต่าง เป็น Brand Impression ผมจะมีทริคให้ลูกค้าเวลาเลือกซื้อน้ำมันมะพร้าวคือ กลิ่นต้องหอมแบบไม่มีการแต่งกลิ่น ไม่ใส่น้ำหอม ไม่เหม็นหืน ลองเทสเนื้อดู เหนียวมั้ย ซึมเข้าผิวเรามั้ย ที่สำคัญต้องลองเทสด้วยการกินดู กินสดได้เลย ถ้าของที่ดีจะมีความหอม เวลาเราเลือกวัตถุดิบ เราจะต้องทำ Contract Farming กับสวนที่ไม่มีการปลูกสัปปะรดเพราะจะทำให้หน้าดินเสีย ต้องไม่มียาฆ่าแมลงหรือยาเร่งผลผลิตอะไรพวกนี้ด้วย”
สำหรับการวางขายของแบรนด์ Nuttarin ก็มีจัดจำหน่ายตาม Supermarket ชั้นนำและร้านสะดวกซื้อ อาทิ Gourmet Market, Home Fresh Mart, Villa Market, Boots นอกจากนี้ยังมีขายออนไลน์ผ่านทางแฟนเพจใน Facebook, Lazada, Shopee และมีหน้าร้านที่สวนจตุจักรด้วย โดยไมค์เล่าให้ฟังว่าเขานำแบรนด์ Nuttarin เข้า Modern Trade ได้ตั้งแต่ในปีแรกและเป็นใบเบิกทางสำคัญที่ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น
“ตอนแรกๆ ที่เราทำแบรนด์ เราก็เริ่มจากการออกบูธ ตามสถานที่ต่างๆ ที่เป็น Target เรา ดูฟีดแบ็ค พอมันโอเค เริ่มได้แล้วเราก็เอาเข้าห้างเลย ก่อนหน้านี้ผมทำงานเกี่ยวกับพวก Modern trade ก็จะรู้กระบวนการของห้าง เลยไม่ยากซะทีเดียว ห้างก็จะถามหา Product Information ต่างๆ ดูเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก ต้องมีความน่าดึงดูด ทำให้ฝ่ายจัดซื้อสนใจเรา ถ้าเขาชอบสินค้าเรา ก็สามารถเข้าได้แล้ว”
โดยไมค์ได้ปิดท้ายถึงหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจว่า ความซื่อสัตย์ต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง ต้องจริงใจกับลูกค้า สินค้าตัวไหนดีไม่ดี ต้องพูดความจริง ทดลองใช้ด้วยตัวเองก่อนเพื่อที่จะได้บอกลูกค้าได้ว่ามันดีจริง อะไรที่ทำออกมาก็ต้องดีเหมือนที่ทำใช้เอง
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
