มีคนกล่าวไว้ว่าคุณสมบัติที่ดีอีกข้อของการเป็นผู้ประกอบการที่ดี นั่นก็คือ การเป็นนักฟังที่ดี ลองมาดูกันสิว่ามีสถานการณ์ใดบ้างที่คุณควรหยุดฟัง เพื่อเกิดประโยชน์ที่ดีกว่าต่อธุรกิจ
เมื่อเจอลูกค้าเก่งๆ
ในการทำธุรกิจ แน่นอนผู้ประกอบการส่วนใหญ่มักอยากอธิบายสรรพคุณของสินค้าของตน เพื่อให้ผู้อื่นได้รับรู้ เป็นแรงจูงใจในการตัดสินใจซื้อ แต่รู้ไหมว่าความจริงแล้ว นอกจากการบรรยายคุณประโยชน์ต่างๆ ของสินค้า เพื่อเพิ่มยอดขาย หากคุณลองรับฟังเสียงจากลูกค้าบ้าง บางครั้งคุณอาจได้รับข้อมูลดีๆ กลับมา เพื่อใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงความคิดเห็นบางอย่างเกี่ยวกับสินค้าที่ออกมาจากความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภคก็ได้ ซึ่งผู้บริโภคบางคนบางครั้งยังเป็นนักศึกษาข้อมูลที่ดีด้วย จึงอาจทำให้คุณได้ความรู้เพิ่มเติมขึ้นมาจากพวกเขาเหล่านั้นก็ได้
เมื่อเจอกับลูกค้าที่กำลังโกรธ
สิ่งนี้นับเป็นการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเลย เมื่อเจอลูกค้าที่กำลังโกรธ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องใดก็ตาม สิ่งแรกที่คุณควรทำก่อนที่จะอธิบายหรือปรับความเข้าใจใดๆ คือ การรับฟัง เพราะสิ่งที่ทำให้ลูกค้าโกรธ เพราะเขาอาจอัดอั้นกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เมื่อได้ระบายออกมาแล้ว ความรู้สึกก็จะดีขึ้น อารมณ์เบาลง และเมื่อนั้นเขาจึงพร้อมที่จะรับฟังคำแก้ตัวหรืออธิบายใดๆ จากแบรนด์ และเมื่อคุณจึงค่อยแสดงความเห็นคิดหรือบอกเหตุผลข้อเท็จจริงออกไป โดยระหว่างรับฟังนั้นคุณอาจแสดงความเป็นห่วง เห็นใจ ถามไถ่ด้วยคำถามง่ายๆ เช่น “บอกฉันว่าเกิดอะไรขึ้น” ลูกค้าจะเกิดความรู้สึกดีขึ้น และรู้สึกว่าคุณอยู่ข้างเขา
เมื่อต้องสัมภาษณ์ใครสักคนหนึ่ง
เมื่อคุณต้องรับใครเข้าทำงานสักคนหนึ่ง โดยส่วนใหญ่แล้วเรามักอยากรู้ และซักถามเขาในข้อมูลที่คิดว่าอาจเหมาะสมและเป็นประโยชน์กับบริษัท แต่ความจริงแล้วนอกจากข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับตัวตนของเขาว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง ทัศนคติ บุคลิกภาพ ปฏิภาณไหวพริบ ก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญเช่นกันในการรับบุคคลหนึ่งเข้ามาทำงาน ดังนั้นนอกจากซักถาม คุณควรปล่อยให้เขาได้แสดงความคิดเห็นและตัวตนที่แท้จริงออกมา ไม่แน่คุณอาจได้พนักงานที่ดี มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นมาอีกคนก็ได้ มากกว่าแค่บุคคลที่สามารถทำงานตามคำสั่งได้เท่านั้น
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี