อินฟีนีตี้ โปรแม็คซ์ นวัตกรรมเครื่องกำจัดขยะฝีมือ SME ไทย เปลี่ยนพลาสติกเป็น “น้ำมัน”





 

     จากข่าวน่าสะเทือนใจเกี่ยวกับบ่อขยะที่ไฟไหม้ ส่งผลกระทบมากมายต่อประชาชน ด้วยเหตุนี้จึงจุดประกายไอเดียของ ปราสิทธิ์ พงษ์นุเคราะห์ศิริ ให้ก่อตั้ง บริษัท อินฟีนีตี้ โปรแม็คซ์ จำกัด ขึ้นเพื่อจุดมุ่งหมายที่อยากจะทำประโยชน์ให้สังคมด้วยการสร้างสรรค์เครื่องกำจัดขยะที่สามารถเปลี่ยนพลาสติกให้กลายเป็นน้ำมันได้ โดยเขาสร้างสรรค์เครื่องกำจัดขยะนี้ขึ้นมาจากการศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเอง ผ่านงานวิจัยที่ถูกเผยแพร่อย่างหนัก พร้อมกับสร้างทีมในการทดลองทำตัวโมเดลกว่า 10 แบบ จากนั้น 2 ปีต่อมาเครื่องกำจัดขยะก็เสร็จสมบูรณ์ มี 2 โมเดลด้วยกัน คือ 1.เครื่องใหญ่ กำจัดขยะได้วันละ 4.5 ตัน และ 2.เครื่องเล็ก กำจัดขยะได้วันละ 1.5 ตัน ซึ่งล่าสุดได้เปิดบริษัทใหม่ชื่อ บริษัท ซินฮวดเฮง นวัตกรรม จำกัด เพื่อดำเนินงานด้านการขายและการผลิตควบคู่ไปกับบริษัท อินฟีนีตี้ โปรแม็คซ์ จำกัด ที่เน้นการทำงานด้านการคิดค้นสิ่งใหม่ และในอนาคตคงได้เห็นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะเข้ามาจัดการขยะได้หลากหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น
      


     

     เครื่องกำจัดขยะ เป็นนวัตกรรมที่ช่วยกำจัดขยะ พลาสติกและโฟม โดยแปรเปลี่ยนสภาพจากขยะมาเป็นน้ำมันที่สามารถนำกลับไปใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม หรือใช้กับเครื่องยนต์ได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งยังไม่หลงเหลือมลพิษและควันจากกระบวนการกำจัดขยะอีกด้วย กระบวนการนี้เรียกว่ากระบวนการไพโรไลซิส (Pyrolysis) ที่จะสามารถเปลี่ยนโมเลกุลของแข็งให้กลายเป็นของเหลวในอุณหภูมิที่สูงถึง 300-500 องศาเซลเซียส ภายใต้สภาวะปิด ไร้ออกซิเจน


     หลังจากที่ขยะถูกหลอมละลายในอุณหภูมิดังกล่าวจะเกิดเป็นไอที่มีก๊าซผสมอยู่ จากนั้นไอจะลอยไปรวมอยู่ในหอควบแน่นที่จะมีกระบวนการเปลี่ยนอุณหภูมิเฉียบพลันจากร้อนจัดกลายเป็นเย็นจัดจนได้ออกมาเป็นน้ำมันที่เรียกว่าน้ำมันรวม ส่วนไอที่ลอยก็จะถูกดูดไปเก็บไว้ในถังกลายเป็นแก๊ส ซึ่งแก๊สดังกล่าวสามารถนำกลับมาเป็นเชื้อเพลิงให้ความร้อนเครื่องกำจัดขยะนี้ได้อีกด้วย





     ในส่วนของน้ำมันรวมจะถูกนำไปผ่านกระบวนการแยกน้ำมันเบนซินและดีเซลให้ออกจากกัน โดยน้ำมันเบนซินจะใช้อุณหภูมิที่ 65-150 องศาเซลเซียส จากนั้นต้องเพิ่มความร้อนเข้าไปด้วยแก๊สหรือกากน้ำมัน เมื่ออุณหภูมิอยู่ที่ 250 องศาเซลเซียส น้ำมันดีเซลจะเริ่มต้นออกมา โดยคุณภาพน้ำมันดีเซลที่ดีที่สุดจะอยู่ที่ 450 องศาเซลเซียส ในกระบวนการนี้จะหลงเหลือกากน้ำมันที่มีความเข้มข้น สามารถนำกลับมาใช้เป็นเชื้อเพลิงให้ความร้อนเครื่องกำจัดขยะได้เช่นกัน


     นับเป็นกระบวนการที่ครบวงจร ไม่ทิ้งมลพิษให้สิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังกำจัดขยะได้มากถึง 4.5 ตันสำหรับเครื่องใหญ่ จากเดิมที่ขยะพลาสติกหรือโฟมจะใช้เวลาในการย่อยสลาย 300-1,000 ปี แต่กระบวนการนี้ย่นเวลากำจัดขยะได้เหลือแค่ 1 วันเท่านั้น





     เครื่องกำจัดขยะเครื่องนี้ จะเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยลดปริมาณขยะได้ตั้งแต่จุดเริ่มต้น ซึ่งสามารถสร้างเป็นโมเดลในพื้นที่ชุมชน ทุกคนร่วมกันเก็บขยะมากำจัดในเครื่องดังกล่าว อีกทั้งรัฐบาลยังใช้งบประมาณในการกำจัดขยะน้อยลงได้อีกด้วย ในส่วนของภาคเอกชนสามารถลดต้นทุนในการทำธุรกิจด้วยเครื่องกำจัดขยะ โดยน้ำมันที่ออกมาจากเครื่องมีมูลค่าลิตรละ 12-14 บาทเท่านั้น ช่วยลดต้นทุนค่าน้ำมันให้อุตสาหกรรมต่างๆ ได้เป็นเท่าตัวเลยทีเดียว


     สุดยอดนวัตกรรมขนาดนี้ จึงเหมาะแล้วที่จะเป็นผู้ชนะคว้ารางวัล  The Best SME Thailand Inno Awards 2018 ไปครอง






www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย

วิธีเปลี่ยนไอเดีย “ตัน” เป็น “มันส์” แบบ Matty Benedetto ยอดนักประดิษฐ์จอมกวน  

เพราะคำว่า “ไม่จำเป็น” ≠ “ไม่มีประโยชน์” ชิ้นงานแสนฮาของ Matty Benedetto “อัจฉริยะผู้ชั่วร้าย” จึงเป็นตัวอย่างชั้นดีให้กับผู้ประกอบการที่ตกอยู่ในอาการไอเดียตัน คิดอยากทำผลิตภัณฑ์ใหม่หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมได้ลองมาเรียนรู้กัน