Triple P เปิดสูตรลับไขความสำเร็จ PLANTOYS





 
                 
     วันนี้ใครๆ ก็อยากทำธุรกิจให้ยั่งยืนกันทั้งนั้น และคำว่า Sustainability เป็นโจทย์ที่สำคัญไม่แพ้ยอดขายและผลกำไรที่เกิดขึ้นในธุรกิจ สำหรับ แปลนทอยส์ (PLANTOYS) ผู้ผลิตของเล่นที่ไม่คิดเบียดเบียนสังคมและสิ่งแวดล้อม ความยั่งยืนเป็นเสมือนเข็มทิศที่คอยนำทางธุรกิจ และเป็นดั่งอาวุธลับที่พลิกเกมสู่ความสำเร็จได้ในวันนี้ พิสูจน์ด้วยการอยู่ในตลาดอย่างแข็งแกร่งมาได้ถึง 37 ปี สามารถส่งออกของเล่นภายใต้คอนเซปต์ “การสร้างรากฐานทางความคิด ผ่านวิธีเล่นอย่างยั่งยืน (Sustainable Play)” ไปกระจายความสุขให้กับเด็กๆ อยู่ใน 65 ประเทศทั่วโลก และยังมีบริษัทลูกอยู่ในต่างประเทศอีกด้วย





     โกสินทร์ วิระพรสวรรค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แปลน ครีเอชั่นส์ จำกัด กล่าวถึงจุดยืนที่ชัดเจนตั้งแต่ต้นว่า อยากทำธุรกิจที่ดีไม่เบียดเบียนสังคมและสิ่งแวดล้อม ใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเป็นรายแรกของโลกที่นำไม้ยางพารามาแปรรูปเป็นของเล่น มุ่งเน้นการส่งเสริมพัฒนาการของเด็กทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ ที่สำคัญเป็นของเล่นที่ปราศจากสารเคมีซึ่งปลอดภัยต่อเด็กและสิ่งแวดล้อม



     

     “แนวคิดการทำธุรกิจของเราเพื่อไปสู่ความยั่งยืน เราเรียกว่า Triple P โดย P ตัวแรกก็คือ Profit เราต้องการกำไรเพราะถ้าไม่มีกำไรก็คงไม่สามารถนำเงินมาลงทุน หรือมาทำในสิ่งดีๆ ได้ แต่เราไม่ได้คำนึงถึงกำไรสูงสุด ไม่ใช่เป็นองค์กรที่แสวงหากำไรเป็นตัวตั้ง ตัวที่ 2 คือ Planet โลกและสิ่งแวดล้อมคือสิ่งที่เราต้องการดูแล โดยทุกกิจกรรมที่ทำเราให้ความสำคัญในเรื่องนี้ และ 3 คือ People ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ตั้งแต่คนงานของเราเองที่ต้องดูแลให้ดี โดยเรามีนโยบายว่า เราจะเป็นองค์กรแห่งความเปี่ยมสุข ที่คนทำงานต้องมีความสุข ขณะที่ลูกค้าเองก็ต้องมั่นใจว่าเราจะไม่เอาเปรียบเขา”





     แปลนทอยส์ นับเป็นองค์กรต้นแบบที่ให้ความสำคัญกับคนทำงานอย่างมาก โดยมีการจัดตั้งสหกรณ์พนักงาน เพื่อลดปัญหาการกู้ยืมเงินนอกระบบ รวมถึงยังใส่ใจดูแลความเป็นอยู่ของพนักงานเสมือนคนในครอบครัว เช่น การจัดสรรสถานที่พักให้ และอนุญาตให้หยุดงานในวันเกิดได้ เป็นต้น


     นอกจากเรื่องคนแล้วก็ยังเลือกเปลี่ยนกระบวนการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้วัตถุดิบให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีการนำพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานไอน้ำมาใช้ในกระบวนการผลิต และลดภาวะโลกร้อนด้วยการเข้าสู่กระบวนการคาร์บอน ฟุตพรินต์ (Carbon Footprint) อย่าคิดว่าทำแบบนี้จะมีแต่โลกที่ได้ เพราะผลลัพธ์ที่ย้อนกลับมาสู่ธุรกิจคือ ช่วยประหยัดพลังงานและลดความสูญเสียลงได้อีกมาก ขณะที่ความพยายามไปสู่ Zero Waste ก็ทำให้มีวัสดุใหม่ๆ มาทำของเล่น จึงพูดได้ว่าการทำธุรกิจที่ยั่งยืนส่งผลกระทบต่อทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภค สังคม และองค์กร
วันแรกที่ทำของเล่นรักษ์โลก หลายคนอาจตั้งคำถามว่า ทำไมถึงต้องคิดอะไรให้มากมายขนาดนี้ ทว่าวันที่ตลาดโลกเริ่มเรียกร้องความรับผิดชอบที่เกิดจากผู้ผลิตของเล่น นั่นคือวินาทีแห่งชัยชนะของแปลนทอยส์





     “ช่วงปี พ.ศ.2551 ที่อเมริกาเกิดวิกฤตจากการตรวจพบโลหะหนักในของเล่น ผู้ผลิตของเล่นหลายรายได้รับผลกระทบ แต่แปลนทอยส์กลับเติบโตสวนทาง เพราะทุกคนเมื่อนึกถึงแบรนด์ผู้ผลิตของเล่นที่ปลอดภัยก็จะนึกถึงเรา จุดนั้นยังไม่พอ เรายังให้ความสำคัญกับพัฒนาการเด็ก นั่นคือของเล่นของเราทุกชิ้นจะต้องมั่นใจว่า ออกแบบมาเพื่อตอบสนองพัฒนาการเด็กในช่วงนั้นๆ เพื่อให้เป็นของเล่นที่มีประโยชน์จริงๆ นอกจากนี้ เรายังโดดเด่นเรื่องการออกแบบและนวัตกรรม ซึ่งในอุตสาหกรรมนี้สามารถพูดได้ว่าเราเป็น TOP 3 ของการออกแบบของเล่นไม้”
               




     การทำธุรกิจที่ไม่คำนึงถึงแต่ตัวเองเหมือนวิธีคิดแบบเก่าๆ ทำให้แปลนทอยส์ ประกาศความสำเร็จของการเป็นนักสร้างของเล่นผู้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่มีวิถีของตัวเองอย่างชัดเจน






www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี


 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย

วิธีเปลี่ยนไอเดีย “ตัน” เป็น “มันส์” แบบ Matty Benedetto ยอดนักประดิษฐ์จอมกวน  

เพราะคำว่า “ไม่จำเป็น” ≠ “ไม่มีประโยชน์” ชิ้นงานแสนฮาของ Matty Benedetto “อัจฉริยะผู้ชั่วร้าย” จึงเป็นตัวอย่างชั้นดีให้กับผู้ประกอบการที่ตกอยู่ในอาการไอเดียตัน คิดอยากทำผลิตภัณฑ์ใหม่หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมได้ลองมาเรียนรู้กัน