PAÑPURI นักสร้างแบรนด์ความงามผู้ไม่เบียดเบียนโลก






            
     ปัญญ์ปุริ (
PAÑPURI) คือ ชื่อของผลิตภัณฑ์สปาและเครื่องหอมสัญชาติไทยแท้ ที่กล้าฉีกตัวเองให้แตกต่างจากตลาดด้วยการประกาศตัวเองเป็นออร์แกนิกลักชัวรี่แบรนด์ ผู้พร้อมเสิร์ฟความงามจากธรรมชาติที่ใส่ใจและห่วงใยสิ่งแวดล้อม ในวันเริ่มต้นธุรกิจเมื่อ 15 ปีก่อนที่คนยังเข้าใจคำว่า ออร์แกนิกหรือเกษตรอินทรีย์ไม่มากนัก หลายคนอาจตั้งคำถามว่า แนวคิดแบบนี้สร้างข้อจำกัดให้ตัวเองมากไปในการทำธุรกิจหรือไม่ ทว่าในวันที่โลกเปลี่ยน ผู้บริโภควันนี้เริ่มเรียกร้องผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ส่งผลให้ปัญญ์ปุริกลายเป็นแบรนด์ที่เข้าไปอยู่ในใจของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ สามารถขยายสู่ 40 สาขาในไทย และส่งออกไปในกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในเกมธุรกิจที่พวกเขาเลือก





     เบื้องหลังความคิดสุดฉีกของปัญญ์ปุริ มาจากสองหนุ่มเพื่อนสนิท วรวิทย์ ศิริพากย์ และ วสุ สุรัติอันตรา ที่สร้างนิยามใหม่ให้ผลิตภัณฑ์สปาและเครื่องหอมไทย ด้วยการชูจุดขายความเป็นออร์แกนิกลักชัวรี่แบรนด์ ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ปลอดภัย ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นตัวเลือกใหม่ให้สปาในโรงแรม 5 ดาวต่างๆ ซึ่ง ณ ตอนนั้นยังนิยมผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศ ก่อนที่จะขยายธุรกิจสู่ PAÑPURI Organic Spa ออร์แกนิกสปารายแรกของไทย ที่ผลิตภัณฑ์ทุกอย่างล้วนเป็นออร์แกนิก แม้แต่ผ้าขนหนู เสื้อคลุม ผ้าปูเตียง ตลอดจนชาที่เสิร์ฟให้ลูกค้า พวกเขาเลือกเดินเกมธุรกิจที่ไม่ซ้ำทางใคร และชัดเจนในตัวตนตั้งแต่วันแรก
               
 



     “ผมคิดเสมอว่าการสร้างแบรนด์ไม่ใช่การวิ่ง 100 เมตร แต่คือการวิ่งมาราธอน เพราะฉะนั้นต้องอาศัยความเข้าใจ อดทน และการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญต้องชัดเจนในความเป็นตัวเราตั้งแต่วันแรก คือต้องหาตัวตนของเราให้เจอ อย่าง ปัญญ์ปุริ เราสร้างตัวตนตั้งแต่วันแรกๆ ว่า อยากเป็นลักชัวรี่แบรนด์จากเมืองไทย อยากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติและออร์แกนิกให้มากที่สุด ขณะที่แพ็กเกจจิ้ง หรือดีไซน์ เราไม่ได้ให้ความสำคัญแค่ความสวยงาม แต่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมด้วย โดยการเลือกใช้วัสดุที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม กลายเป็นเรื่องเล่าของแบรนด์ให้คนจดจำได้ ขณะเดียวกันก็สร้างความตระหนักให้กับผู้คนด้วยว่า เราสามารถใช้สินค้าฟุ่มเฟือยได้โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และให้ความสุขกับตัวเองได้โดยไม่เบียดเบียนผู้อื่น นี่คือปรัชญาที่ชัดเจนของแบรนด์เราตั้งแต่ต้น”
           




     การรับฟังเสียงจากลูกค้านำมาสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถตอบสนองความพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้ใช้  บริษัทมุ่งสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ด้วยโปรแกรม PAÑPURI FIRST Membership และช่องทางออนไลน์ ที่มีพนักงานคอยตอบกลับอย่างรวดเร็ว การเก็บข้อมูลการติชมต่างๆ มาพัฒนาปรับปรุงบริการ มีการทำวิจัยตลาดอย่างต่อเนื่อง เราเลยได้แบรนด์ปัญญ์ปุริที่มีลูกค้าเหนียวแน่นทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะเอเชียอย่าง จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง ตลอดจนลูกค้ายุโรป



     

     ขณะที่ในวันที่โลกเปลี่ยนปัญญ์ปุริยังคงปรับตัวเองอย่างต่อเนื่อง แม้ธุรกิจที่ทำจะไม่ได้ถูก Disrupt จากเทคโนโลยีมากนัก แต่เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน และดิจิทัลเข้ามามีอิทธิพลกับไลฟ์สไตล์ผู้คนยุคนี้มากขึ้น พวกเขาจึงเลือกสื่อสารการตลาดผ่านทางออนไลน์และใช้งบประมาณไปกับสื่อดิจิทัลมากขึ้นเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้แม้ทางหน้าจอมือถือ ขณะที่พวกเขายังเชื่อว่า ธรรมชาติและออร์แกนิกไปด้วยกันได้กับเทคโนโลยียุคใหม่ เพราะยิ่งโลกต้องเผชิญกับมลภาวะและความเคร่งเครียดจากการใช้เทคโนโลยีมากเท่าไร ก็ยิ่งถวิลหาธรรมชาติและการดูแลสุขภาพ ซึ่งนั่นคือโอกาสของปัญญ์ปุริ



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย

วิธีเปลี่ยนไอเดีย “ตัน” เป็น “มันส์” แบบ Matty Benedetto ยอดนักประดิษฐ์จอมกวน  

เพราะคำว่า “ไม่จำเป็น” ≠ “ไม่มีประโยชน์” ชิ้นงานแสนฮาของ Matty Benedetto “อัจฉริยะผู้ชั่วร้าย” จึงเป็นตัวอย่างชั้นดีให้กับผู้ประกอบการที่ตกอยู่ในอาการไอเดียตัน คิดอยากทำผลิตภัณฑ์ใหม่หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมได้ลองมาเรียนรู้กัน