แค่ความแปลกใหม่ของการใช้สารสกัดจากเปลือกกล้วยไข่มาเป็นตัวชูโรงให้กับผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างความแตกต่างในท้องตลาดอาจดูไม่เพียงพอ “พญาไพร” แบรนด์ความงามที่โลดแล่นในวงการมากว่า 25 ปี ยกระดับไปอีกขั้นด้วยการเพิ่มลูกเล่นให้กับตัวบรรจุภัณฑ์ที่เห็นครั้งแรกก็เตะตาดึงดูดใจลูกค้าได้เป็นอย่างดี มาดูแนวคิดของ สมเกียรติ เข็มวัน และศริสา เข็มวัน สองสามีภรรยาผู้เข้ามารับไม้และสานต่อตำนานกัน
เพราะมองเห็นโอกาสของการทำตลาดและความสำคัญของสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเลยเป็นที่มาของการนำสารสกัดจากเปลือกกล้วยไข่มาใช้
สมเกียรติ: ด้วยความที่เราเข้ามาสานต่อจากรุ่นคุณแม่ เราเลยอยากทำผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่างจากเครื่องสำอางในท้องตลาดทั่วไป เลยคิดว่ากำแพงเพชรบ้านเรานั้นมีชื่อเสียงในเรื่องของกล้วยไข่ที่นอกจากจะเป็นผลไม้ประจำจังหวัดแล้วยังเป็นสินค้า GI ที่ให้ประโยชน์มากกว่าการนำไปรับประทานเพียงอย่างเดียว จึงนำไปสู่การวิจัยสารสกัดจากเปลือกกล้วยไข่ซึ่งเราเป็นเจ้าเดียวที่นำสารสกัดนี้มาใช้ในการทำโปรดักต์ที่ไม่เพียงช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าแต่ยังช่วยลดขยะในชุมชนได้อีกด้วย ในสมัยก่อนผู้ประกอบการมักนำเปลือกกล้วยไข่ไปทิ้งกลายเป็นขยะโดยไม่ได้ต่อยอดอะไรหรือเอาไปทำปุ๋ยบ้างบางส่วน รวมถึงจากเมื่อก่อนที่ทางจังหวัดจะมีการปลูกกล้วยไข่ขายประมาณ 20,000 ไร่ แต่เดี๋ยวนี้ลดลงเหลือประมาณ 2,000 ไร่เท่านั้น การที่เราเห็นถึงประโยชน์และนำมาสร้างมูลค่าจึงถือเป็นส่วนเล็กๆที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้ประกอบการที่ปลูกกล้วยขายหันมาสนใจและปลูกกล้วยไข่กันมากขึ้น เป็นการช่วยต่อยอดด้านการทำเกษตรของชุมชนได้อีกทางหนึ่ง
เพื่อเพิ่มความแตกต่างไปอีกขั้น ทางแบรนด์จึงมีการออกแบบบรรจุภัณฑ์โดยใช้รูปกล้วยมาเป็นซิกเนเจอร์ดึงดูดความสนใจของลูกค้า
ศริสา: สิ่งแรกที่เราทำหลังจากเข้ามาช่วยธุรกิจเมื่อประมาณปี 2557 คือการปรับแพ็กเกจจิ้ง วแต่ก็ปรับได้ประมาณหนึ่งซึ่งก็ยังไม่ถือว่าโดดเด่นแต่ก็ปรับจากเดิมที่คุณแม่ทำ และพอมาถึงยุคหนึ่งสมัยหนึ่งอย่างปัจจุบันที่นวัตกรรมเข้ามาแล้ว การใช้นวัตกรรมเฉพาะแค่การวิจัยสารสกัดจึงไม่เพียงพอ เราเลยต้องใช้นวัตกรรมด้านบรรจุภัณฑ์เข้ามาช่วยเพราะลูกค้าจะใช้เวลาในการตัดสินใจซื้อด้วยแพ็กเกจจิ้งเพียงแค่ไม่กี่วินาที ดังนั้นเราต้องสามารถทำให้สินค้ามีความสะดุดตาหรือเรียกลูกค้าได้ในวินาทีอันสั้น แล้วเราก็จะขายได้
สมเกียรติ: แต่แรกแพ็กเกจจิ้งก็เป็นแบบขวดปั้มขวดพลาสติกปกติ ซึ่งเวลาที่เราเอาไปขายที่ไหนมันก็เดิมๆก็เหมือนกับเจ้าอื่นทั่วไป ยอดขายก็จะไม่ดีมาก แต่พอเรามาเปลี่ยนแพ็กเกจจิ้งเป็นรูปกล้วย ยอดขายของเราก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์จากเดิมที่ค่อนข้างคงที่ก่อนที่เราจะเข้ามารับช่วงต่อ และการที่เราหยิบเอานวัตกรรมของเปลือกกล้วยไข่มาใช้บวกกับการดีไซน์ที่เตะตาของตัวบรรจุภัณฑ์นั้นทำให้สามารถดึงโปรดักต์เก่าๆที่ทำมาตั้งแต่รุ่นคุณแม่ขายได้ดีตามไปด้วย ถือเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อกันเลยทำให้ธุรกิจของเราขยายยอดจำหน่ายได้เร็วขึ้นและมากขึ้นทั้งสินค้าตัวเก่าและสินค้าตัวใหม่
ด้วยความสะดุดตาในรูปลักษณ์แบบกล้วยๆทำให้ลูกค้าไม่รีรอที่จะเข้ามาดู ก่อนที่จะจบด้วยการซื้อติดไม้ติดมือไปบ้าง
สมเกียรติ: แพ็กเกจจิ้งมีส่วนสำคัญมากในการดึงดูดลูกค้า สร้างความแตกต่างเป็นเอกลักษณ์และเพิ่มยอดขาย เพราะสัมผัสแรกที่คนจะมองนั้นก็คือตัวแพ็กเกจจิ้งหรือบรรจุภัณฑ์ อย่างของทางแบรนด์ในส่วนของสินค้าที่ใช้รูปกล้วยนั้นลูกค้าส่วนมากจะตัดสินใจซื้อด้วยอารมณ์ก่อน เขาเห็นว่ามันน่ารัก น่าสนใจดี เขาก็จะซื้อด้วยอารมณ์ก่อน แล้วเวลาเขาได้ลองใช้เข้าไปจริงๆ เขาก็จะรู้สึกว่าสินค้าของเรามีคุณสมบัติที่ดีและพอจะซื้อครั้งต่อไปเขาก็จะซื้อด้วยเหตุผล ซึ่งจะช่วยทำให้ยอดขายของเราดีขึ้นเป็นลำดับ
หากแพ็กเกจจิ้งเข้าใจง่าย เรื่องปิดการขายก็ไม่ยากเย็น
สมเกียรติ: ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูออกง่าย เช่น กล้วย จะทำให้ลูกค้าเข้าใจได้ง่ายว่าผลิตภัณฑ์นั้นทำมาจากอะไร ถ้าเกิดทำเป็นขวดธรรมดาเราจะต้องอธิบายกับลูกค้าหรือใช้เวลาในการขายมากขึ้น แต่ถ้าทำแพ็กเกจจิ้งที่เป็นรูปสัมผัสที่ชัดเจนการที่จะพรีเซนต์ขายของลูกค้าก็จะง่ายขึ้นและใช้เวลาน้อยลงหรือเป็นการประหยัดเวลาในการนำเสนอขายได้มากขึ้นนั่นเอง เพราะฉะนั้นการทำแพ็กเกจจิ้งที่เห็นภาพสะท้อนของสินค้าได้อย่างชัดเจนจะช่วยให้การอธิบายขายตัวโปรดักต์ทำได้ง่ายขึ้นและเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นในท้ายที่สุด อีกทั้งการใช้สีที่แตกต่างของตัวบรรจุภัณฑ์แบบเดียวกัน เช่น ลิปบาล์มเป็นกล้วยสีเหลือง เซรั่มเป็นกล้วยสีเขียวจะช่วยให้ลูกค้าไม่สับสนเวลานำไปใช้ ดังนั้นการใช้สีจำแนกประเภทของสินค้าเป็นอีกเรื่องที่มีความสำคัญที่ช่วยให้ผู้บริโภคเลือกซื้อหรือสั่งซื้อของได้ง่ายขึ้น
ในยุคสมัยนี้ถ้าอยากแข็งแกร่งต้องไม่ลืมเรื่องนวัตกรรมซึ่งไม่จำเป็นต้องทำให้ยากหากรู้จักนำเอาสิ่งใกล้ตัวมาใช้
สมเกียรติ: งานนวัตกรรมแพ็กเกจจิ้งรูปกล้วยนี้เพิ่งเกิดขึ้นได้ประมาณ 2 ปี ยุคสมัยนี้งานนวัตกรรมเป็นสิ่งสำคัญเพราะถ้าเราอยากทำอะไรให้เกิดจุดต่างที่มีคุณค่าเราต้องค้นคว้าวิจัย พยายามคิดอะไรก็ได้ให้มีความแตกต่างจากท้องตลาด และต้องแตกต่างอย่างมีนัยและมีคุณค่า ถ้าเราไม่มีความรู้เราสามารถไปขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐที่มีทุนวิจัยให้ได้ อย่างไรก็ตามการทำแพ็กเกจจิ้งที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากการค้นหาสิ่งที่อยู่รอบตัว เช่นลองคิดอย่างง่ายๆดูว่าผลิตภัณฑ์หรือสินค้าของเรานั้นทำมาจากวัตถุดิบอะไรแล้วดีไซน์บรรจุภัณฑ์ให้มีความสอดคล้องกัน หรืออาจลองคิดว่างานเรานั้นมีสตอรี่อะไรที่น่าสนใจ เราควรหาสตอรี่เชื่อมโยงเข้าไปในคำบรรยายการขายเพราะว่าในยุคสมัยนี้เรื่องราวของสินค้าก็สำคัญ สตอรี่ที่มีความน่าสนใจและดีจะช่วยสร้างคุณค่าให้กับสินค้าของแต่ละแบรนด์ได้
การออกแบบแพ็กเกจจิ้งที่ดีต้องทำให้สินค้าทุกชิ้นน่าดูและมีความแตกต่างในแบบฉบับของตัวเอง
ศริสา: เดี๋ยวนี้ใครๆก็พูดถึงแต่เรื่องของนวัตกรรม ซึ่งการมุ่งวิจัยแค่เรื่องของพืชและวัตถุดิบในการผลิตนั้นคงไม่เพียงพอ เพราะฉะนั้นผู้ประกอบการต้องมองไปที่เรื่องนวัตกรรมของบรรจุภัณฑ์ด้วย เราอาจจะทำรูปแบบกล่องเหมือนเดิมก็ได้แต่ว่าต้องให้มีความโดดเด่นและแตกต่างเป็นเหมือนแอปเปิ้ลเขียวในลังของแอปเปิ้ลแดง สมมติทั้งลังเป็นแอปเปิ้ลแดง เราเป็นแอปเปิ้ลเขียวอยู่ในนั้นก็จะเห็นถึงความแตกต่างและโดดเด่น แต่อย่างไรก็ตามไม่จำเป็นที่สินค้าทุกชิ้นของแบรนด์ต้องใช้แพ็กเกจจิ้งแบบเดียวกัน ควรดูตามความเหมาะสมว่าชิ้นนี้เราเน้นที่ประโยชน์ใช้สอยของผลิตภัณฑ์หรือว่าชิ้นนี้เน้นขายที่ตัวบรรจุภัณฑ์เพื่อไม่ให้แย่งซีนกันจนเกินไป อย่างของทางแบรนด์ที่เราใช้แพ็กเกจจิ้งรูปกล้วยกับสินค้าที่ผลิตจากสารสกัดเปลือกกล้วยไข่เท่านั้น ถ้ามีแพ็กเกจจิ้งผลไม้อย่างอื่นเข้ามาอีกร้านของเราจะกลายเป็นร้านขายผลไม้ไม่ใช่ร้านขายเครื่องสำอาง หรือถ้าเป็นกล้วยทั้งหมดมันก็จะไม่มีอะไรเด่น เพราะฉะนั้นต้องมีการบาลานซ์ทั้งเรื่องของตัวแพ็กเกจจิ้งและคุณค่าสินค้า อย่าให้ขโมยซีนกัน ให้นึกถึงว่าแบรนด์ของเราอยากจะสื่อสารอะไรกับลูกค้า
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี