สังคมสูงวัย โอกาสใหม่สำหรับผักอัดเม็ด Bioveggie






 
     Bioveggie ผักอัดเม็ดที่โลดแล่นอยู่ในตลาดมากว่า 6 ปี ไม่ได้มีประโยชน์และตอบโจทย์เฉพาะกลุ่มคนที่มีปัญหาไม่ทานผักเท่านั้น แต่วันนี้ยังได้ขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มผู้สูงอายุที่ถือเป็นอีกตลาดที่มีศักยภาพและมีการเติบโตสูง ตามแนวโน้มของการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย (Aging Society)


     สำหรับเรื่องนี้ นพสรณ์ พรทวีวัฒน์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เชียงใหม่ไบโอเว้กกี้ จำกัด บอกว่า การนำผักมาอัดเม็ดถือเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับวัตถุดิบทางการเกษตรและเป็นการส่งเสริมรายได้ให้กับเกษตรกรโดยมีเป้าหมายเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่มีปัญหาในการทานผัก แม้อาจจะฟังดูกว้าง แต่จริงๆ แล้วกลับเป็นตลาดที่มีการเฉพาะเจาะจง




     “แรกเริ่มตัวโปรดักต์นั้นสามารถเข้าไปตอบโจทย์ให้กับกลุ่มผู้บริโภคที่ไม่ชอบทานผักโดยเฉพาะกับเด็ก ซึ่งทางผู้ปกครองจำเป็นต้องแก้ปัญหาด้วยการหาอาหารเสริมหรือขนมต่างๆ เข้ามาทดแทนสารอาหารนั้นๆ ต่อมาก็เป็นกลุ่มที่รับประทานผักไม่เพียงพอเช่นผู้ใหญ่หรือคนวัยทำงาน มาสู่อีกหนึ่งตลาดใหญ่อย่างผู้สูงวัย เพราะเป็นช่วงอายุที่มีปัญหาเรื่องการเคี้ยวไม่ละเอียด ส่งผลต่อระบบการย่อยและมีปัญหาท้องผูก โดยตัวโปรดักต์นั้นมีใยอาหารจากธรรมชาติซึ่งหากรับประทานเป็นประจำจะไปช่วยกระตุ้นเรื่องของระบบขับถ่ายให้ดีขึ้นได้”


     ด้วยการใช้นวัตกรรมความร้อนต่ำในการอบ ทำให้แห้งแล้วนำมาอัดเม็ด ทำให้ผลิตภัณฑ์ผักอัดเม็ดของแบรนด์เป็นเหมือนอีกฟังก์ชั่นของการทานผักแต่เป็นในรูปแบบที่ทานง่ายขึ้น ส่งผลให้ผู้สูงอายุที่มีปัญหาหรือความลำบากในการเคี้ยวสามารถรับประทานได้โดยไม่ยากหรือเพียงแค่กลืนตามน้ำได้เลย





     ปัจจุบันตัวโปรดักต์นั้นเป็นสูตรผัก 12 ชนิด ประกอบด้วยพริกหยวก กะหล่ำปลีม่วง บีตรูต ป๋วยเล้ง ผักชีล้อม ขึ้นฉ่าย พาร์สลีย์ บร็อคโคลี หอมต้นเดี่ยว ฟักทอง มะเขือเทศราชินีและแครอท บรรจุอยู่ในรูปแบบซองแบบอัดเม็ด 5 เม็ดที่มีคุณประโยชน์เทียบเท่ากับผักสลัดชามใหญ่ 1 ชามหรือมีปริมาณ 150 กรัม ซึ่งตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกบอกว่าวันหนึ่งเราควรทานผัก 400 กรัมเป็นอย่างต่ำ ดังนั้นผลิตภัณฑ์ตัวนี้สามารถทานแทนผักสดได้เลย และด้วยนวัตกรรมอัดเม็ดทำให้สามารถรักษาคุณค่าและใยอาหารไว้ได้ถึง 80 - 90 เปอร์เซ็นต์ซึ่งจะแตกต่างจากกระบวนการแปรรูปอื่นๆที่คุณค่าทางอาหารนั้นจะหายไป


     “จากกระแสของเทรนด์สุขภาพ ทำให้ผู้บริโภคในกลุ่มผู้สูงอายุเป็นอีกหนึ่งตลาดที่น่าสนใจเพราะด้วยวิวัฒนาการหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ทางการแพทย์ ยารักษาโรคหรืออาหาร รวมถึงการมีบทบาทที่มากขึ้นของโลกออนไลน์ทำให้ผู้บริโภคได้รับข้อมูลข่าวสารและความรู้เรื่องการดูแลรักษาสุขภาพ ส่งผลให้พวกเขาหันมาดูแลสุขภาพของตัวเองมากขึ้น”





     หากให้มองถึงการแข่งขันของตลาดผักอัดเม็ด นพสรณ์ บอกว่าขึ้นอยู่กับมุมมองของผู้บริโภคว่าคำนึงถึงประโยชน์ด้านไหนและต้องการโปรดักต์แบบไหนเข้ามาตอบโจทย์ให้ตรงกับความต้องการ


     “สำหรับเรื่องของการแข่งขันนั้นอยู่ที่มุมมองของผู้บริโภค ถ้าพวกเขามองว่าอยากทานอาหารเสริมที่เพิ่มวิตามินให้กับร่างกายและเข้าใจว่าการทานอาหารเสริมเป็นสิ่งที่ให้ประโยชน์ในขณะที่มีสุขภาพดีอยู่แล้วนั้น ผักอัดเม็ดก็จะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ค่อนข้างอยู่ล่างๆเพราะวิตามินของตัวโปรดักต์จะไม่ได้เยอะเหมือนกับพวกวิตามินสังเคราะห์ที่สามารถปรุงแต่งได้เป็นปริมาณมาก แต่ถ้าสำหรับกลุ่มที่ใส่ใจสุขภาพ พวกเขาจะคำนึงถึงสิ่งที่ทานเข้าไปว่าต้องมีประโยชน์จากธรรมชาติและไม่มีส่วนประกอบของสารเคมีซึ่งผลิตภัณฑ์ของเราจะเข้าไปตอบโจทย์โดยตรงกับคนกลุ่มนี้ เพราะฉะนั้นจึงอยู่ที่มุมมองของผู้บริโภคว่าพวกเขาตระหนักในเรื่องไหนมากกว่ากัน นอกจากนี้ด้วยการเป็นโปรดักต์ที่มุ่งเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มทำให้การแข่งขันในไลน์ของผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกันนั้นยังไม่สูงมากอีกด้วย”  
 
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย

วิธีเปลี่ยนไอเดีย “ตัน” เป็น “มันส์” แบบ Matty Benedetto ยอดนักประดิษฐ์จอมกวน  

เพราะคำว่า “ไม่จำเป็น” ≠ “ไม่มีประโยชน์” ชิ้นงานแสนฮาของ Matty Benedetto “อัจฉริยะผู้ชั่วร้าย” จึงเป็นตัวอย่างชั้นดีให้กับผู้ประกอบการที่ตกอยู่ในอาการไอเดียตัน คิดอยากทำผลิตภัณฑ์ใหม่หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมได้ลองมาเรียนรู้กัน