​Polar Bear Cold Brew จับกาแฟดำมาใส่ขวด ดื่มง่ายๆ ตอบโจทย์ชีวิต Busy





Cr : Polar Bear Cold Brew 
 

     เดี๋ยวนี้จะเริ่มต้นธุรกิจอะไรไม่ใช่เรื่องยาก แม้แต่ธุรกิจเครื่องดื่มเองก็สามารถเริ่มทำได้แบบไม่ต้องมีหน้าร้าน เพียงแค่มี Website มีเพจใน Facebook ก็สามารถทำแบรนด์เครื่องดื่มส่งขายแบบออนไลน์ได้แล้วอย่าง Polar Bear Cold Brew แบรนด์กาแฟดำที่ถูกบรรจุใส่ขวดขายแล้วส่งถึงมือลูกค้าแบบออนไลน์ ให้ลูกค้าได้ลิ้มรสชาติของกาแฟดำแบบ Cold Brew หอมๆ เข้มข้นโดยไม่ต้องเสียเวลาไปยืนต่อคิวในร้านกาแฟ แต่เปิดตู้เย็น เทใส่แก้วก็กินได้ทันที ตอบโจทย์ชีวิตสุด Busy ของคนยุคใหม่
 

     แต่แท้จริงแล้วจุดเริ่มต้นของแบรนด์นี้มาจากอาการแพ้ของ 1 ในเจ้าของแบรนด์อย่าง เขม อินทรรักษ์ - เคนนี่ ที่ไปตรวจแล้วพบเจอว่าตัวเองแพ้อาหารจำพวก Dairy product เช่น นม เนย ชีส ถั่ว ทำให้เขาต้องเลิกกินอาหารประเภทนี้ อีกทั้งยังต้องเปลี่ยนมากินกาแฟดำ ซึ่งในช่วงแรกนั้นทำให้เคนนี่รู้สึกว่าความสุขในการกินกาแฟของเขาหายไปจึงได้คุยกับพี่ชายหรือ พีรศุษม์ อินทรรักษ์ขนุน ประกอบกับที่ Cold Brew กำลังเข้ามาในไทยพอดี พี่ชายเลยลองทำดื่ม ปรากฏว่ารสชาติดี จนกลายเป็นไอเดียในการทำขายในที่สุด
 

     “Cold Brew มันจะต่างจากการชงกาแฟทั่วไป คือมันจะต้องบ่มน้ำเย็น 16 ชั่วโมง ไม่เหมือนพวกกาแฟดำแบบอเมริกาโน่ที่ผ่านน้ำร้อน เพื่อสกัดเป็นกาแฟออกมา แต่ Cold Brew คือมันแช่ไว้ ทำให้ซึมซับกลิ่นกาแฟได้มากกว่า พอเราคิดว่าจะทำโชคดีที่เรามีต้นทุนด้านเมล็ดกาแฟเพราะว่าพี่ชายเราทำธุรกิจโรงคั่วเมล็ดกาแฟอยู่แล้ว ทีนี้เราก็เสิร์ชหาบรรจุภัณฑ์ หาที่ทำฉลาก ดูเรื่องแพ็คเกจจิ้ง ส่วนพี่ชายจะเป็นคนดูแลเรื่องของรสชาติกาแฟ ทำมาหลายๆ สูตรแล้วมาดูว่ามันโอเคไหม อร่อยไหม”
 

     ในตอนนี้ Polar Bear Cold Brew ก็มีทั้งหมด 3 รสชาติด้วยกันคือ 1. Strong Black เป็น Cold Brew รสชาติเข้มๆ ไม่มีความเปรี้ยวเลย 2. Old School จะมีความเปรี้ยวนิดๆ มีความนุ่ม ดื่มง่าย 3. Sweet Dream เป็น Cold Brew ที่ผสมน้ำผึ้งลำไย มีกลิ่นหอม ดื่มง่าย แถมยังแค่ 70 แคลอรี่เท่านั้น โดย Polar Bear Cold Brew จะอยู่ที่ราคา 70 บาท มีขายบนโลกออนไลน์ ใน Website ที่ชื่อ www.polarbearcoldbrew.com มีในเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังวางตามร้านอาหารคลีน ร้านเพื่อสุขภาพต่างๆ เนื่องจากกาแฟดำกำลังได้รับความนิยมจากคนที่หันมาดูแลสุขภาพ ลดความอ้วน เนื่องจากกาแฟดำเพียวๆ จะไม่มีแครอลี่เลย
 


Cr : Polar Bear Cold Brew 

 
     “คนส่วนใหญ่กินกาแฟเพราะ 2 เหตุผล 1.เพราะติดกาแฟ กับ 2.เพราะมันอร่อย เราก็มีออกมาให้เลือกทั้ง 2 แบบ ถ้าคนที่ติดกาแฟเราก็มีกาแฟให้ ถ้าคนที่ติดความอร่อย เราก็มีรสชาติดี อย่าง Sweet Dream ก็กินง่าย นอกจากนี้ Cold Brew มันเป็นกาแฟที่มันสกัดเย็น ไม่ได้ผ่านแรงดันหรือความร้อน ทำให้ความเป็นกรดน้อยกว่าจะดีต่อระบบย่อยอาหารมากกว่า ซึ่งผลตอบรับจริงๆ ก็น่าตกใจเพราะว่ามันขายดีมาก เดือนแรกเราขายได้ 400 – 500 ขวด เลยรู้ว่าทุกอย่างมันเป็นไปได้ เพียงแค่เราต้องวาง Positioning ของแบรนด์ให้ดี ต้องโฆษณาให้ตรงจุดมากขึ้น”
 
 
     สิ่งสำคัญที่ทำให้ลูกค้าตอบรับการมาของ Polar Bear Cold Brew น่าจะเป็นเพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคนี้ที่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน ด้วยวิถีชีวิตที่มีความเร่งรีบในแต่ละวัน การที่จะต้องไปต่อคิวซื้อกาแฟในร้านอาจจะไม่สะดวกเท่าการมีกาแฟพร้อมดื่มแบบ Ready to eat ที่สามารถหยิบทานได้เลย นอกจากนี้ผู้คนยังให้ความนิยมในการซื้อของออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่แค่การซื้อเสื้อผ้าหรือข้าวของเครื่องใช้เพียงอย่างเดียวแล้ว แต่การซื้ออาหารและเครื่องดื่มก็กลายมาเป็นอะไรที่คนกดสั่งกันแบบออนไลน์ด้วยเช่นกัน
    

Cr : Polar Bear Cold Brew            


     “ผมว่าความจริงคนไทยกินกาแฟเยอะนะ ลูกค้าเราเองก็มีกลุ่มคนที่ออกกำลัง ดูแลสุขภาพ มีพนักงานออฟฟิศ ที่เราทำใส่ขวดแบบ Ready to eat มันง่าย ตอนเช้าตื่นมา หยิบใส่กระเป๋า ถึงที่ทำงานก็เทกินได้เลยหรือออกกำลังกายเสร็จ ไม่อยากกินกาแฟใส่นม ก็เปิดกิน มันดีต่อสุขภาพด้วย สะดวก ไม่ต้องไปต่อคิวที่ร้าน ราคาเราก็ Set ไว้ที่ 70 บาท อย่างบางคนก็ใส่น้ำแข็งเทกินได้ 2 ครั้ง แล้วยิ่งตอนนี้ที่คนส่วนใหญ่เขาก็ซื้อของบนโลกออนไลน์เป็นปกติ ผมเองก็ซื้อเยอะขึ้น จากที่เคยซื้อแต่พวกเสื้อผ้า ตอนนี้ก็มาเป็นพวกของกิน ผมว่ามันยังไปได้อีกไกล”
               

     เพราะฉะนั้นแล้วพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ การมีเครื่องดื่มอย่างกาแฟ Cold Brew ติดตู้เย็นก็เป็นอะไรที่สะดวกสบาย ตอบโจทย์ชีวิตของพวกเขา ดังนั้นหากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่สนใจการทำเครื่องดื่มแบบ Ready to eat หรืออาหารที่หยิบทานได้ง่ายๆ เหมาะกับชีวิตที่ยุ่งๆ ของคนในปัจจุบันก็อาจจะมีโอกาสอีกมากในตลาดกลุ่มนี้



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย

วิธีเปลี่ยนไอเดีย “ตัน” เป็น “มันส์” แบบ Matty Benedetto ยอดนักประดิษฐ์จอมกวน  

เพราะคำว่า “ไม่จำเป็น” ≠ “ไม่มีประโยชน์” ชิ้นงานแสนฮาของ Matty Benedetto “อัจฉริยะผู้ชั่วร้าย” จึงเป็นตัวอย่างชั้นดีให้กับผู้ประกอบการที่ตกอยู่ในอาการไอเดียตัน คิดอยากทำผลิตภัณฑ์ใหม่หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมได้ลองมาเรียนรู้กัน