7 สิ่งสุดเฟล...ต้นเหตุทำชีวิตผู้ประกอบการพัง!






 
     กว่าที่คนคนหนึ่งจะฝ่าฟันอุปสรรคและกลายมาเป็นผู้ประกอบการที่สำเร็จนั้นไม่ง่าย คุณต้องใช้ทั้งความพยายาม ความอดทน ความขยัน ความรู้และความสามารถ เมื่อถึงจุดสูงสุดที่คุณยืนอยู่ คุณคงเต็มไปด้วยความภาคภูมิ แต่หลายคนกลับมีอีโก้ที่เพิ่มขึ้นมาด้วยเช่นกัน นอกจากนี้เมื่อคุณอยู่ในจุดที่สูง คุณมักจะมองข้ามสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่คุณทำ รวมทั้งคุณอาจจะคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นถูกอยู่เสมอ สิ่งเหล่านี้แหละที่จะกลายเป็นดาบแหลมคมที่ทิ่มแทงคุณในตอนสุดท้าย ดังนั้นหากคุณอยากเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จแบบยั่งยืน ต้องหลีกเลี่ยงการทำ 7 สิ่งสุดเฟลเหล่านี้ที่อาจจะทำลายชีวิตการเป็นผู้ประกอบการของคุณได้ 

 
1. พูดอย่างเดียวแต่ไม่ทำ 

     ในการเป็นผู้ประกอบการโดยเฉพาะระยะเริ่มต้น คุณมักจะใช้เวลากว่า 80% ในการพูดคุยไอเดียใหม่กับทีม ใช้เวลาครุ่นคิดว่าจะต้องทำอย่างไรในการพัฒนาธุรกิจ แต่ท้ายที่สุดกลับมีแค่ไอเดียน้อยนิดที่ถูกเอามาใช้แบบจริงจัง นอกจากนี้ผู้ประกอบการหลายท่านอาจเสียเวลามากมายไปกับการประชุม พูดคุยสิ่งต่างๆ จนลืมลงมือทำ บางครั้งคุณอาจจะลืมสิ่งที่คุณเคยพูดไปทำให้คุณกลายเป็นผู้ประกอบการที่ดูไม่น่าเชื่อถือไปในที่สุด 

 
2. ตั้งเป้าหมายที่เกินจริง 

     เชื่อว่าผู้ประกอบการหลายคนอยากที่จะประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว บางคนใช้ทางลัด บางคนใช้วิธีการตั้งเป้าหมายสูงๆ เข้าไว้ ซึ่งการตั้งเป้าหมายเป็นอะไรที่ดีแน่นอนอยู่แล้ว แต่การตั้งเป้าหมายที่สูงเกินไปและดูท่าจะทำไม่ได้นั่นอาจทำให้คุณเจ็บหนัก เมื่อคุณตั้งเป้าหมายที่ดูจะเป็นไปไม่ได้ คุณต้องใช้ทั้งแรงกาย แรงคน แรงเงิน ทุ่มลงไปเพื่อทำให้เป้าที่คุณคิดไว้สำเร็จ แต่กว่าที่จะสำเร็จมันอาจทำให้คุณเสียทรัพยากรไปมากโดยไม่จำเป็น อย่างที่มีคนเคยบอกไว้ว่า ให้รบในสนามที่เรารู้อยู่แล้วว่าจะชนะ สิ่งที่คุณควรทำคือการวางแผน มองดูตัวเองว่าพร้อมมากแค่ไหน มีทั้งการวางแผนในระยะสั้นและระยะยาว ตั้งเป้าหมายที่ดูท้าทาย ไม่ใช่เป้าหมายที่เป็นไปไม่ได้ 

 
3. ผัดวันประกันพรุ่ง 

     ไม่ใช่แค่คนทั่วไปเท่านั้นที่มีอารมณ์ขี้เกียจเข้าครอบงำ แต่ผู้ประกอบการบางคนก็มีอารมณ์แบบนี้เช่นกัน บางทีเวลาที่คุณต้องจัดการอะไรมากมายหลายอย่าง แล้วคุณคิดว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวค่อยทำเมื่อไหร่ก็ได้ นั่นคือการผัดวันประกันพรุ่ง ยืดเวลาออกไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายอะไรก็ไม่เป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง คุณควรที่จะมีเป้าหมายให้ตัวเองในแต่ละวัน ว่าคุณต้องจัดการอะไรให้เสร็จบ้าง รวมทั้งการวางแผนให้ธุรกิจ คุณจะได้รู้ว่าคุณต้องทำอะไรก่อน อะไรหลัง 

 
4. ขาดความมุ่งมั่นและอดทน 

     เวลาที่คุณก้าวเข้ามาสู่วงการธุรกิจแรกๆ มันอาจจะเต็มไปด้วยไฟและพลังในด้านบวก แต่เมื่อทำไปสักพัก ไฟเหล่านี้ก็มอดลงได้ง่ายๆ ยิ่งถ้าเจอปัญหาและอุปสรรคแล้วล่ะก็ อาจส่งผลให้คุณถึงกับล้มเลิกการทำธุรกิจเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นความเฟลสุดๆ สำหรับการเป็นผู้ประกอบการก็คือการขาดความมุ่งมั่นและความอดทน ถ้าคุณมีสิ่งเหล่านี้ไม่พอ ชีวิตการเป็นผู้ประกอบการของคุณอาจจะสั้นแค่นิดเดียว แต่ถ้าคุณอดทนในสิ่งที่กำลังทำ เราเชื่อว่าธุรกิจของคุณจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน 

 
5. มีปัญหาเรื่องการจัดการ 

     ความยากอย่างหนึ่งของการทำธุรกิจนั่นคือการบริหารจัดการสิ่งต่างๆ คุณต้องบริหารทั้งคน บริหารทั้งการผลิต ดูเรื่องของการทำตลาด การขายไปจนถึงการพัฒนาธุรกิจในอนาคต ทำให้คุณอาจจะต้องปวดหัวอยู่บ่อยๆ ที่สำคัญมันยากมากเลยทีเดียวในการมี Work-life Balance ดังนั้นการแบ่งเวลาคือเรื่องที่สำคัญ ลองหาลูกน้องที่ไว้ใจได้สักคนไว้ตัดสินใจเรื่องต่างๆ แทนคุณเวลาที่คุณไม่อยู่ นอกจากนี้การมีเวลาให้ครอบครัวเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ อย่าทำงานหนักเกินไปจนละเลยคนข้างๆ 

 
6. หมุนเงินปนกัน  

     ผู้ประกอบการหลายคนโดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นมักจะมีปัญหาเรื่องการเงินอย่างหนึ่งคือการไม่ตั้งเงินเดือนให้ตัวเอง  ทำให้คุณใช้จ่ายอย่างไม่ระมัดระวัง ยิ่งเงินเข้าธุรกิจเยอะ ยิ่งใช้เยอะ ทำให้คุณมีปัญหาตามมาทีหลังได้ คุณควรที่จะเริ่มตั้ง เงินเดือนให้ตัวเอง แบ่งเงินเอาไว้สำหรับการพัฒนาธุรกิจ ทำรายรับรายจ่ายและดูแลเรื่องของบัญชีให้ละเอียดรอบคอบ  นอกจากนี้ไม่ควรเอาเงินหลายกองมาปนกัน อย่าใช้กองนู่นมาโปะกองนี้ อาจทำให้คุณเกิดความผิดพลาดในการบริหารสภาพคล่องของธุรกิจ  

 
7. ไม่จริงใจต่อลูกค้า  

     สิ่งสำคัญที่สุดของการทำธุรกิจคือลูกค้า การที่คุณทำธุรกิจก็เพื่อตอบสนองความต้องการของลูก มีสินค้าหรือบริการที่ โดนใจเพื่อแลกกับเงินที่ลูกค้าจ่ายให้คุณ แต่ความผิดพลาดที่ร้ายแรงที่สุดคือการที่คุณเริ่มคิดหาวิธีการลดต้นทุน อยากได้กำไรเยอะๆ จนละเลยลูกค้า คุณใช้ทางลัดมากเกินไปในการแสวงหากำไร เช่น ลดคุณภาพ ใช้วัสดุไม่ดี โฆษณาเกินจริง สิ่งเหล่านี้คือความไม่จริงใจ เมื่อลูกค้ารู้ว่าคุณเริ่มไม่จริงใจเมื่อไหร่ เมื่อนั้นแหละที่ธุรกิจของคุณจะเกิดปัญหาอย่างแน่นอน 


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย

วิธีเปลี่ยนไอเดีย “ตัน” เป็น “มันส์” แบบ Matty Benedetto ยอดนักประดิษฐ์จอมกวน  

เพราะคำว่า “ไม่จำเป็น” ≠ “ไม่มีประโยชน์” ชิ้นงานแสนฮาของ Matty Benedetto “อัจฉริยะผู้ชั่วร้าย” จึงเป็นตัวอย่างชั้นดีให้กับผู้ประกอบการที่ตกอยู่ในอาการไอเดียตัน คิดอยากทำผลิตภัณฑ์ใหม่หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมได้ลองมาเรียนรู้กัน