​ขนมไอติมแช่แข็ง ครั้งแรกของตลาดคนรักสุขภาพ






 
     ไม่ใช่เฉพาะอาหารเท่านั้นแต่ขนมขบเคี้ยวที่ดีและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ กำลังเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของกลุ่มผู้บริโภคชาววีแกนและมังสวิรัติ ทำให้ Seva Foods แบรนด์ขนมจากประเทศสหรัฐอเมริกาเปิดตัวผลิตภัณฑ์ไอศกรีมแห้งแบบแช่เยือกแข็งที่ส่วนผสมนั้นทำจากพืชล้วนๆ เป็นครั้งแรกของโลกออกมาเอาใจตลาดกลุ่มนี้
 

     Space Ice Kream ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากโครงการสำรวจอวกาศของยานอะพอลโลในอดีต ถูกออกแบบมาให้มีขนาดพอดีคำโดยใช้เทคโนโลยีการทำแห้งแบบแช่เยือกแข็งเพื่อที่จะเก็บรักษาสารอาหารไว้สูงสุด ที่สำคัญยังให้รสชาติเช่นเดียวกับไอศกรีมแบบดั้งเดิมเหมือนที่เราๆ กินกันอยู่ทุกวัน แต่ครั้งนี้จะเพิ่มความสะดวกสบายของการเป็นขนมกินเล่นเข้ามา
 

     ทั้งนี้ เพื่อตอบโจทย์ตลาดคนรักสุขภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาววีแกน ส่วนผสมของโปรดักต์ทั้งหมดนั้นทำมาจากธรรมชาติและเป็นออร์แกนิก 100 เปอร์เซ็นต์ non-GMO ปราศจากถั่วเหลือง กลูเตน น้ำตาลและน้ำมัน โดยที่เทคโนโลยี Freeze-drying จะช่วยรักษาวิตามิน แร่ธาตุและสารต้านอนุมูลอิสระเอาไว้ ทั้งยังทำให้ตัวโปรดักต์มีความกรุบกรอบแต่ยังคงความครีมมี่แบบไอศกรีมในรูปแบบธรรมดาเอาไว้ได้ ปัจจุบันมีอยู่ 2 รสด้วยกันคือวนิลาและสตรอว์เบอร์รีซึ่งวางขายในสหรัฐอเมริกา
 




     จากรายงานของ Future Market Insights คาดการณ์ว่ามูลค่าของตลาดทั่วโลกสำหรับไอศกรีมที่ใช้ส่วนผสมจากพืชนั้นอยู่ที่ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2560 และจากยอดขายนี้จะทำให้มีปริมาณไอศกรีม 194.5 พันตัน โดยมีการคาดหมายกันว่าภายในอีก 10 ปีข้างหน้ามูลค่าของอุตสาหกรรมนี้ในตลาดโลกน่าจะเพิ่มขึ้นสูงกว่าเท่าตัวหรืออยู่ที่ประมาณ 2.45 พันล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ สำหรับตลาดอเมริกาเหนือมูลค่าของไอศกรีมเพื่อสุขภาพน่าจะโตถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2570 อีกด้วย
 


Cr : Foodbev 

     นอกจากจะตอบสนองความต้องการของคนที่รักสุขภาพได้แล้ว ไอศกรีมแช่แข็งที่มาในรูปของขนมกินเล่นที่มีประโยชน์ยังมีความสอดคล้องไปกับเทรนด์ของผู้บริโภคในปัจจุบันที่นอกจากจะหันมาใส่ใจเรื่องส่วนผสมของอาหารแล้วยังมองหาของกินเล่นหรือขนมที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้นอีกด้วย
 

     จากผลการศึกษาที่ได้รับการสนับสนุนจาก Amplify Snack Brands ในปี 2560 พบว่า ผู้บริโภคยุคมิลเลนเนียมเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญของตลาดขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพ โดย 89 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริโภคกลุ่มนี้จะกินขนมที่ดีต่อสุขภาพอย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์และ 50 เปอร์เซ็นต์ ยังบอกอีกว่าพวกเขาขับรถอย่างน้อย 5 ไมล์เพื่อที่จะไปซื้อขนมที่ชอบ
 


Cr : Foodbev 


     นอกจากนี้  64 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริโภครุ่นใหม่กลุ่มนี้มีความเชื่อว่าขนมที่ใช้ส่วนผสมน้อยจะดีต่อสุขภาพมากกว่า และ 79 เปอร์เซ็นต์ บอกว่าการที่สามารถทำความเข้าใจในส่วนประกอบทั้งหมดที่ระบุไว้ได้จะช่วยเพิ่มความเชื่อใจในตัวแบรนด์มากขึ้น
 

     จะเห็นได้ว่าการหยิบเอาเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมมาปรับใช้ให้เข้ากับเทรนด์และพฤติกรรมของผู้บริโภคโดยเฉพาะกับตลาดคนรักสุขภาพนั้นเป็นอีกหนึ่งโอกาสของผู้ประกอบการที่นอกจากจะสร้างความแตกต่างได้แล้วยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับตัวโปรดักต์ได้อีกด้วย



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย

วิธีเปลี่ยนไอเดีย “ตัน” เป็น “มันส์” แบบ Matty Benedetto ยอดนักประดิษฐ์จอมกวน  

เพราะคำว่า “ไม่จำเป็น” ≠ “ไม่มีประโยชน์” ชิ้นงานแสนฮาของ Matty Benedetto “อัจฉริยะผู้ชั่วร้าย” จึงเป็นตัวอย่างชั้นดีให้กับผู้ประกอบการที่ตกอยู่ในอาการไอเดียตัน คิดอยากทำผลิตภัณฑ์ใหม่หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมได้ลองมาเรียนรู้กัน