เดี๋ยวนี้ร้านคาเฟ่ชิคๆ มีเกิดขึ้นมากมาย แต่ละแห่งก็มีเอกลักษณ์และเสน่ห์แตกต่างกันออกไป แต่โดยมากถึงแม้จะตกแต่งให้แตกต่าง สร้างเมนูซิกเนเจอร์ หรือใส่กิมมิกอะไรเข้าไป ส่วนใหญ่แล้วก็ยังคงอยู่ในรูปของร้านกาแฟร้านเบเกอรี่ น้อยมากที่จะเห็นรูปแบบคาเฟ่ที่แตกต่างไปจากนี้
จากความคิดดังกล่าวนั่นเอง จึงทำให้ สาธิต ศิวารัตน์ ชายหนุ่มผู้ชื่นชอบการกินขนมหวานเป็นชีวิตจิตใจ คิดอยากทำคาเฟ่ขนมหวานไทยออกมาทดลองตลาด แข่งขันกับคาเฟ่สไตล์ฝรั่ง สไตล์โอปป้าดูบ้าง โดยได้ยึดเอาพื้นที่บนถนนสุธนธวิทระหว่างซอย 42 -44 เลยจากตลาดกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาครมาเล็กน้อย เป็นที่ตั้งของร้าน ‘กะทิหวาน ตาลโตนด’ คาเฟ่ทางเลือกรูปแบบใหม่ที่เน้นขายขนมหวานไทยหากินยากมาเป็นคอนเซปต์หลักในการทำธุรกิจ
“ไอเดียเริ่มมาจากตัวเราเองเป็นคนชอบกินขนมหวานไทยมากอยู่แล้ว แต่ทุกวันนี้กลับหากินได้ยาก เนื่องจากขนมหวานไทยมีต้นทุนค่อนข้างสูง ทำได้ยาก แต่กลับขายได้ราคาไม่ค่อยดี จึงทำให้ไม่ค่อยมีคนนิยมทำขาย ผิดกันกลับน้ำแข็งไสจากเมืองนอกอย่างบิงซูที่ดูเหมือนทำได้ไม่ยาก แต่กลับขายได้ราคาแพงกว่าหลายสิบเท่า ด้วยเหตุนี้เราจึงอยากยกระดับมาตรฐานให้กับขนมหวานไทย โดยเปิดเป็นคาเฟ่ขนมหวานไทยขึ้นมาดูบ้าง ซึ่งบังเอิญคุณแม่มีสูตรขนมไทยโบราณอยู่แล้ว เลยลองทำกันขึ้นมา”
โดยเมนูขนมหวานที่มีให้บริการอยู่ตอนนี้มีอยู่ 3 เมนูด้วยกัน ได้แก่ 1.อัญมณีไทย – ทับทิมกรอบหลากสีสันจากธรรมชาติ 2.ชุดกะทิหวาน – แตงไทยน้ำกะทิ ที่มีเผือกบดเข้ามาช่วยเพิ่มความมันเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมกับข้าวเหนียวดำที่มีการคลุกเคล้ากับข้าวเม่าคั่ว 3.ทุเรียนเผือกกะทิหวาน (ตามฤดูกาล)
นอกจากพยายามยกระดับขนมหวานไทยให้มาอยู่ในรูปแบบของคาเฟ่ทันสมัยแล้ว ขนมหวานไทยจากร้านกะทิหวาน ตาลโตนดยังให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์การจัดแต่งหน้าตาขนมหวานในรูปแบบใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิมด้วย อย่างทับทิมกรอบแทนที่จะเสิร์ฟใส่ถ้วยมาถ้วยเดียว ก็นำมาแยกใส่ช้อนเรียงเป็นสีๆ ให้ดูสวยงาม ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าได้
“โดยปกติทับทิมกรอบถ้วยหนึ่ง ขายได้ราคาอย่างมากก็ 35 -40 บาท แต่นี่พอเรานำมาจัดแต่งให้ดูน่ากินขึ้น เพิ่มลูกเล่นจากปกติที่มีแค่สีชมพูอย่างเดียว ก็ทำสีน้ำเงิน เขียว เหลือง เพิ่มขึ้นมาด้วย โดยใช้สีจากธรรมชาติทั้งหมด ขายชุดละ 55 บาท ปรากฏว่าลูกค้ามาลองกิน เขาก็บอกว่าไม่แพงนะ อร่อย และคุ้มค่ากับที่จ่าย ซึ่งถ้าเขาคิดแบบนั้นแสดงว่าเราประสบความสำเร็จแล้วส่วนหนึ่งที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับขนมหวานไทยได้ เหตุผลอีกอย่างที่เราให้ความสำคัญกับการจัดแต่งที่สวยงาม เพราะรูป คือ สิ่งที่เขาจะเห็นและสัมผัสได้เป็นสิ่งแรก เขาไม่มีทางรู้เลยว่าขนมเรากลิ่นหอมและรสชาติอร่อยยังไง จนกว่าจะได้มาลอง ซึ่งการจะนำเขาให้เข้ามาหาเราได้ ก็ต้องเริ่มจากรูปลักษณ์ที่ดูดีก่อน เมื่อทำออกมาได้น่าสนใจ คนก็อยากถ่าย อยากช่วยแชร์”
นอกจากเมนูขนมหวานที่หาทานได้ยากแล้ว ที่นี่ยังมีเมนูอาหารไทยจานเดียวและเครื่องดื่มที่หากินได้ยากมานำเสนอด้วย อาทิ หมี่กะทิโบราณ โดยใช้ความมันจากกะทิและความหวานของตาลโตนดเป็น 2 วัตถุดิบหลักในการปรุงอาหารและเครื่องดื่ม แม้แต่กาแฟที่นี่ยังใช้กะทิแทนนมสด ตาลโตนดแทนไซรัปมาชงขายให้กับลูกค้า หรือเมนูแปลกๆ อย่างมะนาวดองอิตาเลี่ยนโซดา ก็น่าสนใจไม่น้อย
สาธิตวางอนาคตไว้ว่า หลังจากจัดการเรื่องวัตดุดิบและการเก็บรักษาได้ลงตัวมากขึ้นแล้ว เขาตั้งใจไว้ว่าจะเปิดแฟรนไชส์ต่อยอดขยายสาขาออกไปให้มากขึ้น โดยใช้รูปแบบร้านปัจจุบันเป็นโมเดลร้านต้นแบบ
ไม่แน่อนาคตข้างหน้าเราอาจเห็นคาเฟ่ขนมหวานไทยกระจายสาขาแข่งขันกับคาเฟ่สไตล์ฝรั่งหรือเกาหลีเพิ่มมากขึ้นก็เป็นได้
Facebook : katiwhantaltanode
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี