จากจุดเริ่มต้นที่ 2 สาวเพื่อนซี้อย่าง เอิน - สาธิตา สลับแสงและ ลูกปลา - สุทธาภรณ์ ลดาวัลย์ ณ อยุธยา ที่ชื่นชอบการเดินทางแบบแบ็คแพ็คและมักจะต้องพกสิ่งของใช้แล้วทิ้งเพื่อประหยัดพื้นที่ในกระเป๋า ทำให้พวกเธอปิ๊งไอเดียการสร้างสรรค์เซ็ทดูแลช่องปากแบบพกพาที่มีความ Eco-friendly มากขึ้น ด้วยความที่ยุคนี้ความ Eco ก็มาเป็นอันดับต้นๆ ในการเลือกซื้อสินค้า แบรนด์ klein จึงเริ่มต้นที่แปรงสีฟันที่ทำมาจากไม้ไผ่
“พอเราคิดจะทำเราก็มานั่งคุยกันว่าสิ่งที่เราอยากได้จะต้องเป็นไปประมาณไหน ตัวแปรงสีฟันไม้ไผ่เราก็เสิร์ชหา โรงงานในไทยแต่ว่ายังไม่มีใครสามารถทำได้ อาจจะมีโรงงานที่ทำแปรงแต่ว่าเป็นพวกแปรงขัดรองเท้าเป็นมาตรฐานที่ยังไม่สามารถเอาเข้าปากได้ เราเลยเลือกจีน ซึ่งโรงงานที่เราดีลเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ เราเลยเลือกเป็นแปรงสีฟันไม้ไผ่ ในการดีไซน์ก็จะมีความเก๋ เราจะเน้นความเรียบ มี Texture เวลาจับ คนใช้ก็จะได้ความรู้สึกถึงไม้ นอกจากนี้แปรงสีฟัน พลาสติกทั่วไปมันจะใช้เวลาย่อยสลายประมาณ 200 ปีแต่ถ้าเป็นแปรงสีฝันไม้ไผ่มันก็คือไม้ ใช้กระบวนการย่อยสลายตามธรรมชาติเหมือนไม้ทั่วไป”
นอกเหนือจากแปรงสีฟันไม้ไผ่แล้ว ในเซ็ท TWIG IN MOUTH ดูแลช่องปากยังประกอบไปด้วย ยาสีฟัน ไม้จิ้มฟันและผ้าเช็ดปาก ซึ่งทางเอินและลูกปลาได้คำนึงถึงพฤติกรรมการใช้งานของคนเป็นหลัก ทั้งกลุ่มคนเดินทางและคนในเมืองที่ต้องดูแลช่องปากในระหว่างวัน
“สำหรับเซ็ทนี้ที่เราจับมารวมกันเพราะคิดว่ามันสามารถพกพาไปได้ทุกที่ ไม่ใช่แค่คนเดินทางไปเที่ยวเท่านั้น แต่เอาไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน อย่างพนักงานออฟฟิศหรือคนในเมืองก็พกใส่กระเป๋าไว้ได้ตลอดเวลา เวลาเจอผู้ใหญ่ เจอลูกค้า ทานอาหารเสร็จก็ต้องใช้เซ็ทนี้ ไว้ทำความสะอาดหลังทานข้าว”
อีกหนึ่งจุดเด่นของ klein คือการดึงเอาชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมกับแบรนด์ เพราะความตั้งใจของผู้ก่อตั้งแบรนด์ทั้งสองก็อยากที่จะเป็นสะพานเชื่อมเล็กๆ ระหว่างชุมชนและผู้คนทั่วไปให้ได้รู้จักงานหัตถกรรมไทยมากขึ้น
“สิ่งที่เราทำมันต้องใช้ดีจริงๆ เราไม่ได้ทำของที่มัน Ecofriendly ตามเทรนด์โลกแต่เราคำนึงเรื่องของคุณภาพ การใช้งาน ขณะเดียวกันคือเราใช้โปรดักต์เป็นสื่อกลางในการเล่าเรื่องภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทยด้วยเพราะเราก็มีความสนใจในด้านนี้ อย่างตัวยาสีฟันเราจะเลือกส่วนผสมที่เป็นสมุนไพรไทย มีต้นข่อย ใบฝรั่ง ไม่ใส่น้ำตาล ส่วนตัวไม้จิ้มฟันจะเป็นไม้จิ้มฟันตะไคร้จากชุมชนตาลเนิ้ง จังหวัดสกลนคร เคสใส่ไม้จิ้มฟันจะเป็นซองเตยปาหนัน กลุ่มจักสานเตยปาหนันบ้านดุหุน จังหวัดตรัง ส่วนผ้าเช็ดปากก็มาจากกลุ่มแม่บ้านแถวบ้านที่เราจ้างเขาเย็บ นอกจากนี้ยังมีสายคล้องข้อมือที่เป็นหญ้าแฝกเอาไว้ตกแต่งกระเป๋ามาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์หญ้าแฝกบ้านโคกพรม อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา”
เมื่อวัตถุดิบแต่ละตัวมีที่มาที่ไปแตกต่างกัน ทำให้ klein เลือกใช้จุดนี้เป็นตัวบอกเล่าเรื่องเรื่องราวและทำให้ลูกค้าของเขาได้รู้จักงานหัตถกรรมของชุมชนมากยิ่งขึ้นผ่าน Booklet ที่แนบไปกับสินค้า
“พอเรามีเรื่องราวก็ทำให้คนรู้จักเราได้ดีขึ้น ถ้าบอกว่าเราเป็นแปรงสีฟันมาจากจีนนะ มันก็จบแค่นั้น แต่ทีนี้เรามีตัวพ่วง เช่น เรื่องราวของวัตถุดิบแต่ละอย่างซึ่งบางอย่างลูกค้าไม่เคยรู้จักมาก่อน ลูกค้าก็จะมีความสนใจ เข้ามาถาม เราก็จะแนบ Booklet เพื่อไปเล่าเรื่องให้เขาได้รู้จักวัตถุดิบแต่ละอย่างมากขึ้น”
ช่องทางการขายของ klein จะเน้นร้านทางเลือกที่มีความ Eco ร้านเพื่อสุขภาพต่างๆ เช่น ร้าน Happening, Organic Supply, ร้านสวนชั้น 1 it‘s going green นอกจากนี้ยังมีการขายทางออนไลน์ด้วยเช่นกัน ส่วนในต่างประเทศทาง klein ก็ได้เริ่มวางขายอยู่ใน Marketplace เช่น Pinkoi ของไต้หวันและ Marketplace งานคราฟท์ของประเทศเยอรมัน
นอกจากนี้เอินยังได้ปิดท้ายว่าหัวใจสำคัญของพวกเขาคือการคำนึงถึงการใช้งานของลูกค้าเป็นหลัก สินค้าต้องมีความดีจริง เหมาะแก่การใช้งานในชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังยึดหลักการเป็นผู้ประกอบการที่มีความรับผิดชอบในด้านต่างๆ ก็รวมกันกลายมาเป็นแบรนด์ klein คลาาายที่ใครๆ ก็รัก
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี