เวลานี้ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป การช้อปปิ้งออนไลน์ กลายเป็นทางเลือกที่บริโภคนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ฉะนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ประกอบการต้องมีตัวตนอยู่บนโลกออนไลน์ เพื่อให้ผู้บริโภคยุคใหม่เข้าถึงได้ง่ายและสะดวกขึ้น
ด้วยเหตุนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย เตรียมนำเสนอบริการตลาดซื้อขายสินค้าออนไลน์ผ่าน K PLUS Market กับร้านค้าเครือข่าย ร้านค้าในหมู่บ้านอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์ (Creative Industry Village – CIV) ทั้งนี้ สมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ความร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทยในโครงการสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐและพลังเครือข่ายประชารัฐ ในการขยายช่องทางการตลาดให้ SME และวิสาหกิจชุมชน ให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้กว้างขวางขึ้นด้วยเครื่องมือดิจิทัล โดยธนาคารกสิกรไทยได้เข้ามาช่วยต่อยอดการขายสินค้าออนไลน์ผ่านฟังก์ชั่น K PLUS Market ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มของแอปพลิเคชันโมบาย แบงค์กิ้ง K PLUS ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธนาคารกสิกรไทยได้มากกว่า 8.1 ล้านราย พร้อมกันนี้ยังเพิ่มโอกาสทางการขายหน้าร้านด้วยระบบการรับชำระเงินด้วย QR Code Payment ผ่านแอปพลิเคชันสำหรับร้านค้า K PLUS SHOP
“ความร่วมมือที่เกิดขึ้นครั้งนี้ จะเป็นโอกาสทางการตลาดที่ดีสำหรับผู้ประกอบการทั้งที่เป็น SME และผู้ประกอบการในชุมชน เนื่องจากปัจจุบันการค้าขายออนไลน์ได้รับความนิยมสูง หากได้รับการอำนวยความสะดวกในเรื่องของการใช้จ่ายก็จะทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น ซึ่งกระทรวงฯ โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เตรียมนำการบริการตลาดซื้อขายสินค้าออนไลน์ผ่าน K PLUS Market กับร้านค้าเครือข่าย ร้านค้าในหมู่บ้านอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์ (Creative Industry Village – CIV) มาให้คำปรึกษาแนะนำกับผู้ประกอบการในงาน SME Transform #พร้อมเปลี่ยน ภายใต้แนวคิดประชารัฐร่วมใจ เชื่อม SMEs ไทยสู่สากล ที่จะมีขึ้นวันที่ 18 – 20 พฤษภาคมนี้ ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยภายในงานนอกจากจะมีเรื่องของการทำธุรกรรมทางการเงินแล้ว ยังได้เตรียมนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงิน การให้คำปรึกษาด้านสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการ SME อีกด้วย”
ด้านขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารฯได้นำเทคโนโลยีแมชชีน คอมเมิร์ซ ที่สามารถสร้างเครือข่ายการซื้อขายออนไลน์ขนาดใหญ่บน K PLUS Market เพื่อเชื่อมโยงผู้ซื้อและผู้ขายซึ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยที่ต้องการขยายตลาดออนไลน์ ทำให้ร้านค้าที่ใช้บริการแอปพลิเคชั่น K PLUS SHOP ของธนาคารฯ ได้พบกับลูกค้ารายย่อยที่ใช้งาน K PLUS กว่า 8 ล้านราย และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 10.8 ล้านรายในสิ้นปีนี้ โดยธนาคารฯพร้อมเป็นสื่อกลางการติดต่อซื้อขายที่รวบรวมสินค้าหรือบริการจากร้านค้า บริษัทในกลุ่มธุรกิจต่างๆ เพื่อให้การซื้อขายสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ไร้ข้อจำกัดเรื่องเวลา ดังนั้น การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytic) ควบคู่การใช้ Machine Learning จึงทำให้เกิดประสบการณ์ในการซื้อขายของแบบใหม่บน K PLUS Market โดยลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการหรือเจ้าของร้านค้าจะพบช่องทางขยายสู่ตลาดใหม่ สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ส่วนลูกค้ารายย่อยจะได้รับการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมตรงกับความต้องการของลูกค้า
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี