ทุกๆ วันจันทร์ถึงเสาร์ แผนกครัวของ Modish จะทำงานกันอย่างรีบเร่งเพื่อปรุงอาหารแบบพิถีพิถันทีละจาน ส่งตรงถึงบ้านลูกค้าที่มีโรคประจำตัวสุดฮิตในกลุ่ม NCDs หรือโรคติดต่อไม่เรื้อรัง ซึ่งมีทั้งโรคไต เบาหวาน ความดัน อ้วนลงพุง มะเร็ง และหัวใจ แม้ในเมืองไทยจะมีคนป่วยโรคเหล่านี้กันนับล้าน แต่ที่ผ่านมายังไม่มีธุรกิจอาหารที่เข้ามาตอบโจทย์เพื่อลูกค้ากลุ่มนี้โดยเฉพาะ
ชื่อ Modish มาจากคำว่า Modify + Dishes ด้วยแนวคิดของการทำธุรกิจเสมือน “คลินิกที่จ่ายยาด้วยอาหาร”เพราะพบเห็นปัญหาว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักล้มเหลวกับการควบคุมอาหารเมื่อพ้นมือหมอ ทำให้อาการป่วยแย่ลง บางคนมีความตั้งใจแต่ก็มักทำไม่ได้ และมีจำนวนไม่น้อยที่ไม่ได้ทำกับข้าวเองที่บ้าน
Modish จึงยื่นมือเข้ามาแก้ปัญหาเหล่านี้ ผ่านโมเดลธุรกิจอาหารดิลิเวอรีที่คิดขึ้นเพื่อผู้ป่วยอายุรกรรมเจ้าแรกในไทย จากความตั้งใจของกลุ่มเพื่อนนักเรียนเก่าบอสตันที่ชื่นชอบการทำอาหารร่วมกันมาก่อน นำโดย คุณหมอนุ้ย-ผศ.พญ.ศานิต วิชานศวกุล ซึ่งเป็นหนึ่งในคนไทยไม่กี่คนที่ร่ำเรียนมาโดยตรงทางด้านอายุรแพทย์โภชนศาสตร์คลินิก โดยมี คุณหมอดอย-นพ.กฤตชัย โสภากร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูก และ นุ่น-ไอรินลดา สิงหศิลารักณ์ สาวนักเรียนนอกด้านการเงิน ร่วมกันเป็นทีมผู้ก่อตั้ง (CO-Founder) บริษัท โมดิช ฟู้ด ดีไซน์ จำกัด
คุณหมอดอยบอกว่า Modish ไม่ใช่อาหารคลีนที่เน้นอกไก่ ไร้มัน ไม่ใช้น้ำมัน แต่เป็นอาหารสุขภาพที่ดูแลมากกว่านั้น ตั้งแต่การกำหนดสัดส่วนอาหารให้เหมาะสม โดยปรุงอาหารทีละจานตามอาการผู้ป่วยแต่ละคน ซึ่งมีความซับซ้อนและข้อจำกัดปลีกย่อยที่มากกว่าอาหารสุขภาพสำหรับคนทั่วไป
คุณหมอดอยเล่าพร้อมยกตัวอย่างให้ฟังว่า คนส่วนใหญ่มักคิดว่าข้าวกล้องดีกับสุขภาพของทุกคน แต่จริงๆ แล้วกลับเป็นพิษต่อผู้ป่วยโรคไต เพราะมีโพแทสเซียมสูง ทำให้ไตต้องทำงานหนัก อีกหนึ่งปัญหาที่มักเกิดขึ้นคือ การคุมอาหารอย่างไรให้สมดุลพอเหมาะกับสภาพร่างกาย ผู้ป่วยบางคนกินแต่สิ่งเดิมๆ ทุกวันโดยไม่ปรุง เพราะไม่มั่นใจว่าอะไรกินได้กินไม่ได้ ผลร้ายที่ตามมาคือ การเบื่ออาหาร
สิ่งที่ Modish ทำคือ การออกแบบเมนูอาหารอย่างพิถีพิถันเพื่อให้การกินสำหรับผู้ป่วยเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข โดยมีการคำนวณทั้งปริมาณคาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน รวมถึงแร่ธาตุต่างๆ ทั้ง โซเดียม โพแทสเซียม พร้อมทั้งปรับสัดส่วนการปรุงรสชาติเค็ม หวาน มันในอาหารให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
ตัวอย่างเช่น เมนูข้าวปลาทับทิมราดพริก ผัดไทยวุ้นเส้นกุ้งสด ที่ผู้ป่วยโรคไตกินได้โดยไม่รู้สึกผิด เมนูพริกหวานยัดไส้คีนัวธัญพืชอกไก่ และพะแนงอกไก่ยัดไส้นมสดสุขภาพที่มีดัชนีค่าน้ำตาลต่ำ ใช้เครื่องปรุงที่ดีต่อผู้ป่วยเบาหวาน ความดัน หัวใจ และมะเร็ง โดยมีการคิดค้นพัฒนาสูตรอาหารเพื่อสุขภาพที่หลากหลายถึงกว่า 180 เมนู นอกเหนือจากคอร์สอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเฉพาะแล้ว บริการดิลิเวอรีของ Modish ยังมีคอร์สอาหารสุขภาพที่เน้นการควบคุมปริมาณโซเดียม ไขมันอิ่มตัว และคอเลสเตอรอล คอร์สอาหารลดน้ำหนัก ที่เน้นเมนูแคลอรีต่ำ โปรตีนสูงในปริมาณที่เหมาะสม และคอร์สอาหารสร้างกล้าม สำหรับคนที่อยากฟิตแอนด์เฟิร์ม โดยทีมโภชนาการของ Modish จะมีการเก็บข้อมูลด้านสุขภาพของลูกค้า เพื่อนำมาประกอบการวิเคราะห์และปรับเมนูให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละคน เช่น ป่วยเป็นโรคไตวายเรื้อรังอยู่ในระดับไหน ถึงขั้นต้องล้างไตหรือยัง
“ลูกค้าของเราเป็นผู้ป่วยโดยส่วนใหญ่ รองลงมาคือ กลุ่มผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก มีหลายคนที่สั่งอาหารต่อเนื่องเป็นปี เพราะกินแล้วเห็นผลที่วัดได้ เช่น ผลเลือดดีขึ้น น้ำหนักลดลงๆ” ไอรินลดาหนึ่งในผู้ก่อตั้งเล่าถึงกระแสตอบรับที่ทำให้ธุรกิจใหม่อายุแค่ขวบปีกว่าๆ เติบโตรวดเร็วเกินกว่าที่คาดไว้ จนขยายการผลิตแทบไม่ทัน
แต่กว่าจะถึงวันนี้ ธุรกิจของ Modish ก็ต้องผ่านการลองผิดลองถูกมาไม่น้อย เพราะแม้จะมีจุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญโภชนาการเพื่อผู้ป่วย แต่ความเป็นมือใหม่ในการทำธุรกิจ จึงทำให้สอบตกด้านการบริหารต้นทุน เพราะใช้แต่ Passion นำทาง จนขาดการบาลานซ์ทางธุรกิจ เช่น สร้างสรรค์เมนูชั้นเลิศจากวัตถุดิบราคาแพงอย่างเห็ดทรัฟเฟิล
“ช่วงแรกแม้จะขาดทุน แต่ข้อดีอย่างหนึ่งคือ พวกเราพร้อมปรับตัว เป็นเหมือนน้ำที่พร้อมจะลื่นไหล ปรับแผนธุรกิจได้ตลอดเวลา การทำอาหารเพื่อผู้ป่วยเป็นธุรกิจที่ค่อนข้างท้าทาย เพราะทำยากและมีต้นทุนสูง ครึ่งปีแรกเป็นช่วงที่เหนื่อยและท้อมาก ต้องอธิบายสื่อสารให้ความรู้กับลูกค้า บางคนตั้งคำถามว่าทำไมราคาสูง
“แต่เพราะเรามั่นใจว่า มีความเป็นหนึ่งในด้านความเชี่ยวชาญ และเชื่อมั่นว่าธุรกิจของเราสามารถแก้ปัญหาให้ผู้คนในสังคมได้จริง ทำให้เราพร้อมจะเติบโตไปกับปัญหาและสู้ไปกับมัน”
นอกเหนือจากธุรกิจดิลิเวอรี แคเทอริ่งจัดเซ็ตอาหารสุขภาพ และคาเฟ่เล็กๆ ย่านถนนจันทน์ วันนี้ Modish จึงเตรียมพร้อมก้าวต่ออีกขั้นสู่การขยายธุรกิจอาหารสุขภาพเพื่อผู้ป่วยในรูปแบบแฟรนไชส์ การเปิดร้านอาหารสุขภาพต้นแบบในเมืองที่สมาชิกทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะป่วยหรือไม่ป่วยก็อร่อยร่วมกันได้ นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางการพัฒนาสินค้าอาหารเพื่อผู้ป่วยในรูปแบบอาหารแช่แข็งในอนาคตอีกด้วย
“หลายคนมองว่า อาหารเพื่อสุขภาพเป็นธุรกิจที่แข่งขันสูง แต่เรามองว่าใน Red Ocean ย่อมมี Blue Ocean ที่ซ่อนตัวอยู่เสมอ อาหารเพื่อผู้ป่วยเฉพาะโรคคือ โอกาสที่เรามองเห็น” คุณหมอดอยบอกถึงทางโตก้าวไปต่อไปของ Modish ที่กำลังเดินหน้าขยายอาณาเขตน่านน้ำสีฟ้าของตัวเองออกไปอย่างไม่รู้จบ
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี